Shein-Logo

ธุรกิจด้านแฟชั่นได้เข้ามาสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะกับธุรกิจลักษณะนี้ได้เฉพาะในร้านค้าปลีกและศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเราสามารถซื้อเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกง รองเท้า และอื่นๆ ผ่านเว็บไซต์ E-Commerce และแอปพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาในการส่งสินค้าก็แค่เพียงไม่กี่วัน และ SHEIN ก็เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ B2C ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและทรงอิทธิพลอย่างมาก ซึ่งได้กำหนดนิยามใหม่ของการค้าปลีกสินค้าแฟชั่น จนกลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากกว่า Zara และ H&M ไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีกระแสเชิงลบมีการฟ้องร้องกันในหลายประเทศรวมถึงไทยอยู่บ้างก็ตาม เรามาดูสรุปประวัติของแบรนด์ SHEIN กันครับว่ามีจุดกำเนิดอย่างไรและก้าวมาสู่แบรนด์ระดับโลกได้อย่างไร

What's next?

จุดกำเนิดธุรกิจ E-Commerce ที่ปัจจุบันมีรายได้กว่า 23,000 ล้านเหรียญ

SHEIN-Website

SHEIN เป็นแบรนด์ที่นำเสนอสินค้าแฟชั่นชั้นยอดที่ครอบคลุมทั้งเครื่องแต่งกายของผู้หญิงและผู้ชาย เสื้อผ้าเด็ก เครื่องประดับที่มีสไตล์ ผลิตภัณฑ์อินเทรนด์อื่นๆ และเครื่องประดับตกแต่งต่างๆ SHEIN พัฒนาอย่างรวดเร็วจากผู้ค้าปลีกรายย่อยในประเทศไปสู่กำลังสำคัญในโลกของแฟชั่นออนไลน์ ด้วยการเน้นไปที่เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่มีราคาไม่แพงแต่มีสไตล์ ทำให้ SHEIN ได้รับความสนใจจากบุคคลผู้เป็นผู้นำด้านแฟชั่นทั่วโลก ความสำเร็จของ SHEIN เป็นผลมาจากความสามารถในการหลอมรวมโลกแห่งแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเข้ากับความสะดวกสบายของ E-Commerce ได้อย่างราบรื่น SHEIN ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อคงความเป็นผู้นำเทรนด์และส่งมอบให้กับลูกค้าที่มีอยู่มากมายมหาศาล ธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย โมเดลธุรกิจของ SHEIN เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานที่กว้างขวางและมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าจำนวนมากตามสถานที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งที่รวดเร็วและคุ้มค่าให้กับลูกค้าทั่วโลก และในปี 2023 SHEIN ก็มีรายได้อยู่ที่ราว 23,000 ล้านเหรียญ (ข้อมูลจาก Business Insider)

SHEIN ถือเป็น Fast-Fashion แบรนด์ชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน โดยมี คริส ซู (Chris Xu) ซึ่งจบด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยชิงต่าว (Qingdao University) เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ SHEIN ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 ในเมืองหนานจิง ตอนนั้นเขาได้ค้นพบว่ามีความต้องการสินค้าจีนในเชิงพาณิชย์ทั่วโลกค่อนข้างสูง คริส ซู (Chris Xu) ที่ในขณะนั้นได้ทำงานกับบริษัท Nanjing Aodao Information Technology ก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับบริษัทเพื่อดำเนินการสร้างร้านค้าปลีกออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าแฟชั่นราคาไม่แพง และเขาได้เรียนรู้ว่าชุดแต่งงานของผู้หญิงเป็นเสื้อผ้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก ต่อมาเขาได้ก่อตั้งบริษัทซีคโค (ZZKKO) และเริ่มจำหน่ายชุดแต่งงานเป็นสิ่งแรก

ต่อมาในปี 2012 บริษัทได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าสตรีและเปลี่ยนชื่อแบรนด์ตัวเองเป็น “SheInside” และในช่วงนั้นก็ได้เปิดตัวเว็บไซต์ในต่างประเทศทั้งในสเปน ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี และเยอรมนี แบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นรวมไปถึงเครื่องสำอาง เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋าถือต่างๆ ภายในปี 2013 SheInside มีพนักงานประมาณ 100 คน และมีการปรับปรุงแนวทางการตลาดและพัฒนาไปสู่ผู้ค้าปลีกแบบครบวงจร ในปี 2015 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น “SHEIN” อีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการจดจำในชื่อของแบรนด์ ภายในปี 2016 ทีมงานของ “SHEIN” ก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจนถึง 800 คน เลยทีเดียว

SHEIN-global-presence

ในช่วงปี 2017 SHEIN มีการเปิดตัวเว็บไซต์ในแถบยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย และมีการพัฒนาโปรแกรม Fashion Blogger, Free Trial Center และโปรแกรมคะแนนโบนัส เพื่อสร้างความนิยมและการเข้าถึง SHEIN เพื่อที่ดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อให้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ SHEIN ยังคัดเลือกนักออกแบบจากทั่วโลกเพื่อสร้างแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ขึ้น และ SHEIN ยังคงร่วมมือกับนักออกแบบหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยหากการออกแบบของพวกเขาได้รับเลือก นักออกแบบจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 30% จากการขาย ทีมงานของ SHEIN เรียกแนวทางนี้ว่าเป็นโมเดลธุรกิจ C2B (Customer-to-Business) ซึ่งเป็นรูปแบบที่นักออกแบบจะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของ SHEIN ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “นักออกแบบ Sheinside”

SHEIN-X-Japan-Launch-2048x1366

SHEIN ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการขายเสื้อผ้าราคาไม่แพง และมีความนิยมในหมู่ผู้ซื้อที่เป็น Generation Z Link โดยในช่วงแรกบริษัทดำเนินธุรกิจในลักษณะดรอปชิป (Dropship) เนื่องจากไม่ได้ออกแบบหรือผลิตสินค้า แต่ได้สินค้ามาจากตลาดขายส่งเสื้อผ้าในกวางโจวเพื่อมาขาย อย่างไรก็ตาม ในปี 2012 SHEIN เริ่มสร้างระบบในการจัดหาผลิตภัณฑ์และกลายเป็นผู้ค้าปลีกอย่างสมบูรณ์ ในปี 2022 บริษัทได้จัดตั้งเครือข่ายการจัดหาสินค้าในกวางโจวที่มีซัพพลายเออร์มากกว่า 3,000 ราย เลยทีเดียว และจากการรายงานของ Business Insider นั้นก็มีการสรุปว่ากลุ่มเป้าหมายของ SHEIN คือ กลุ่มผู้หญิงที่มีอายุเฉลี่ย 34.7 ปี ที่มีรายได้รวมต่อปีราว 65,300 เหรียญ และเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าราว 100 เหรียญต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่ม Generation Y Link สะท้อนให้เห็นว่ามีการขยายตัวของกลุ่มเป้าหมายจากที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น

ปัจจุบัน SHEIN ไม่ได้ขายแค่เพียงเสื้อผ้าและ Accessories ของผู้หญิง แต่ยังมีสินค้าของคุณผู้ชายและยังขยายไปยังกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าไอที สินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ของเล่นและเกม และอื่นๆอีกมากมาย มีออฟฟิศตั้งอยู่ทั้งในลอสแอนเจลิส เซาเปาโล ดับลิน กวางโจว ปารีส วอชิงตัน ดี.ซี. ลอนดอน และสิงคโปร์ ที่มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 7,300 รายการ นั่นหมายความว่าผู้บริโภคมีสไตล์ให้เลือกมากกว่า 53,000 แบบ เลยทีเดียว


สรุป Timeline สำคัญๆของแบรนด์ SHEIN

  • 2008: จุดกำเนิดของแบรนด์โดย Chris Xu มีชื่อแบรนด์คือ ZZKKO
  • 2012: มีการเปลี่ยนชื่อจาก ZZKKO เป็น SheInside และเริ่มขยายสินค้าไปสู่ประเภทอื่นๆ เช่น สเปน ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี และเยอรมนี
  • 2015: SheInside ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น SHEIN และย้ายสำนักงานใหญ่ไปสู่เมือง Guangzhou เพื่อใกล้กับซัพพลายเออร์ให้มากขึ้น
  • 2017: SHEIN เริ่มขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศโดยเปิดตัวเว็บไซต์ในอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย
  • 2019: SHEIN สร้างรายได้ได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ
  • 2020: SHEIN กลายเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกด้านแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านเหรียญ
  • 2022: SHEIN ย้ายสำนักงานใหญ่ไปประเทศสิงคโปร์ โดยมีมูลค่าของแบรนด์รวมกว่า 100,000 ล้านเหรียญ
  • 2022: แอปฟลิเคชั่นถูกติดตั้งไปกว่า 200 ล้านครั้ง

ทั้งหมดคือบทสรุปเรื่องราวของแบรนด์ที่ชื่อว่า SHEIN ซึ่งถือเป็นแบรนด์ค้าปลีกออนไลน์ที่เติบโตเร็วมากในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา ที่มาเขย่าวงการค้าปลีกแบบออฟไลน์อย่าง Zara และ H&M ที่มีมูลค่ารวมแซงทั้ง 2 แบรนด์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมูลค่ารวมของแบรนด์ SHEIN มีการประเมินออกมาว่าอยู่ที่ 100,000 ล้านเหรียญ และยังไม่มีทีท่าจะหยุดอยู่แค่นี้จริงๆ


Source:
https://www.sheingroup.com
https://futurestartup.com/2023/11/06/a-brief-history-of-shein
https://www.sevenparallel.com/post/the-story-of-shein
https://www.businessinsider.com
https://startuptalky.com/shein-success-story

Share to friends


Related Posts

Brand History – FREITAG กระเป๋าแฟชั่นกับความเป็น Cult Brand

ความโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆในตลาด เพราะด้วยการออกแบบและวัสดุที่ใช้รวมไปถึงรูปแบบของร้าน ที่มีการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์คล้ายกับเป็นโรงงานผลิตกระเป๋า เป็นกระเป๋าแฟชั่นที่ผสมความดิบๆจนกลายเป็นที่ครองใจของคนทั่วโลก


Brand History – IKEA จากของใช้ในครัวเรือนขนาดเล็กสู่แบรนด์ระดับโลก

แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง IKEA เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวีเดน โดยในปี 2023 ที่ผ่านมาถือเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอันดับที่ 29 มีมูลค่ารวมกว่า 22,942 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการจัดอันดับ Best Global Brand 2023 โดย Interbrand เรามาดูประวัติของแบรนด์นี้กันครับว่ามีความเป็นมาอย่างไร



copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์