กลยุทธ์การวางตำแหน่งของแบรนด์ (Brand Positioning Strategy) ให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อนำไปสู่การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง จำเป็นต้องคำนึงถึงส่วนประกอบสำคัญเพื่อใช้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มองเห็นภาพว่าแบรนด์นั้นๆมีจุดมุ่งหมายอะไร แบรนด์ต้องการนำเสนออะไร และตัวของแบรนด์เองนั้นอยากให้ลูกค้ามองแบรนด์ว่าเป็นอย่างไรรู้สึกกับแบรนด์อย่างไร โดย 3 สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนั่นก็คือ กรอบอ้างอิง (Frame of Reference) จุดที่แตกต่าง (Point of Difference) และ เหตุผลที่จำเป็นต้องเชื่อ (Reasons to Believe)
กรอบอ้างอิง (Frame of Reference)
ในการวางตำแหน่งของแบรนด์จำเป็นต้องมีกรอบอ้างอิงเพื่อไม่ให้ตำแหน่งที่คุณวางนั้นหลุดจากเป้าหมายที่ควรจะเป็น หรือเรียกได้ว่ามันคือเป้าหมายของแบรนด์ (Brand Objective) ก็ไม่ผิดครับซึ่งมันก็คล้ายๆกับการวางนโยบายและการกำหนดทิศทางของธุรกิจนั่นเองครับ โดยกรอบอ้างอิงนั้นสามารถเป็นไปได้ทั้ง
- ประเภทของธุรกิจ เช่น เครื่องครัว เทคโนโลยี
- ประเภทของสินค้าหรือบริการ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์
- กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ สินค้า หรือบริการ เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนรักสัตว์
จุดที่แตกต่าง (Point of Difference)
องค์ประกอบของการวางตำแหน่งของแบรนด์อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเพื่อให้กรอบอ้างอิงนั้นดูมีประโยชน์และมีคุณค่ามากขึ้น นั่นก็คือ อะไรคือสิ่งที่แบรนด์มีความแตกต่างจากคู่แข่งขัน ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับหากเลือกแบรนด์ของคุณคืออะไร ซึ่งมันจะสะท้อนมาจากกรอบอ้างอิงที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเชื่อมไปสู่เหตุผลที่ว่าทำไมต้องเชื่อและเลือกแบรนด์ของคุณนั่นเอง
เหตุผลที่ต้องเชื่อ (Reasons to Believe)
เมื่อจุดแตกต่างและกรอบอ้างอิงได้ถูกกำหนดอย่างชัดเจน เหตุผลที่ต้องเชื่อหรือเหตุผลที่ต้องใช้แบรนด์ของคุณจะเป็นองค์ประกอบสุดท้ายที่เติมเต็มให้กลยุทธ์วางตำแหน่งแบรนด์นั้นแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ โดยหน้าที่ของแบรนด์คือต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นให้ได้ว่าพวกเค้าจะได้อะไรจากแบรนด์ พวกเค้าจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าแบรนด์จะมอบในสิ่งที่พวกเค้าคาดหวัง ทำไมเค้าต้องเลือกแบรนด์ของคุณ และเหตุผลเหล่านั้นก็มาจากตัวคุณลักษณะ (Feature) และคุณสมบัติ (Attribute) นั่นเองครับ
Photos by freepik – www.freepik.com