
การสร้างแบรนด์นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลากว่าที่ผู้บริโภคจะจดจำในแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ว่าตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร เราเป็นใคร เราทำอะไร และเราสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร โดยมีวิธีพื้นฐานในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก 4 วิธี เราลองมาดูกันว่า 4 วิธีนั้นมีอะไรกันบ้าง
การสร้างแบรนด์ด้วยการวางแผนการจัดการ (Branding by Planning)
มีอยู่หลายแบรนด์ที่นำวิธีนี้มาใช้ในการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้จัก ที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง ข้อดีของวิธีนี้ คือ แบรนด์จะมีความแข็งแกร่งช่วยให้มีความเติบโตด้านผลประกอบการ ด้วยกระบวนการในการบริหารจัดการพอร์ต (Brand Portfolio) หรือการแตกไลน์ธุรกิจต่างๆ ภายใต้แบรนด์นั้นๆ การวางตำแหน่งแบรนด์ (Brand Positioning) ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด รวมถึงสถาปัตยกรรมของแบรนด์ (Brand Architecture) หรือระบบการจัดระเบียบของแบรนด์ ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ เช่น P&G, Pepsi, Nestle’, Intel, GM, Kraft Foods, Gillette

Source: https://www.numerator.com/resources/blog/pg-provides-not-warning-shot-wake-call
การสร้างแบรนด์โดยการใช้ภาพโฆษณา (Branding by Imagery)
การสร้างแบรนด์ด้วยวิธีการใช้ภาพโฆษณา ส่วนใหญ่เราจะเห็นผ่านงานโฆษณาจากสื่อต่างๆทั้ง โทรทัศน์ โปสเตอร์ โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยให้เอเยนซี่โฆษณามาสร้างความเชื่อมโยงให้เข้ากับแบรนด์ และสร้างสรรค์ออกมาเป็นแคมเปญที่น่าจดจำ มีไอเดียดีๆ และถ่ายทอดคุณสมบัติของแบรนด์ การออกแบบจะดูเด่นสะดุดตา สร้างให้เกิดความปรารถนา และเป็นที่จดจำได้ ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ เช่น Calvin Klien, Chanel, BMW

Souce: https://underkids.wordpress.com/2010/07/13/fotos-calvin-klein-jeans/
การสร้างแบรนด์ด้วยการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า
(Branding by Customer Experience)
การสร้างให้เกิดประสบการณ์กับแบรนด์ ในยุคที่หลายๆแบรนด์นั้นพยายามสร้างให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์ การสร้างประสบการณ์นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ และประสบการณ์ที่ดีต้องสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory) ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้จากหัวใจ (Touching) และกระตุ้น (Stimulus) ให้เข้าไปถึงจิตใจ และการที่จะสร้างประสบการณ์ในระดับนี้ได้ แบรนด์ๆนั้นต้องสร้างประสบการณ์ที่พิเศษโดดเด่นแบบไม่เหมือนใครเท่านั้น ประสบการณ์นั้นถูกถ่ายทอดผ่านมาจากทั้งคุณสมบัติในตัวสินค้า รูปแบบบรรจุภัณฑ์ การตกแต่งร้านค้า เสียงเพลงที่ใช้ การออกแบบเว็บไซต์ การบริการหลังการขาย และอื่นๆ ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ เช่น Starbucks, Apple, Disney และธุรกิจโรงแรมหรือการบริการต่างๆ

Source: https://www.marcobeolchi.com/2018/07/06/starbucks-sbarca-a-kingston/
การสร้างแบรนด์โดยการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน
(Branding by Self-Expression)
เวลาเราเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เรามักจะมองหาแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนหรือมีบุคลิกภาพ (Personality) ที่มีความคล้ายคลึงกับตัวเอง สัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงสถานภาพบางอย่าง (Status Symbol) และความเป็นปัจเจกบุคคลที่ไม่เหมือนใคร (Individual) ผ่านการวางตำแหน่งของแบรนด์ที่นำความรู้สึกด้านอารมณ์มาใช้ (Emotional) ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สร้างให้เกิดความเชื่อมโยงด้านจิตใจและมีความหมายบางอย่าง ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้ดี ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ เช่น Prada, Louis Vittton, Swatch

Source: https://www.pinterest.com/pin/38773246768028506/
สำหรับใครที่คิดจะลองสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองหรือปรับใช้ในการทำงานกับองค์กรตัวเอง ก็ลองเอาวิธี 4 แบบนี้ไปลองใช้ดูได้ และทั้ง 4 วิธีนี้ก็สามารถปรับใช้ร่วมกันได้ภายในแบรนด์ๆเดียว หรือใช้เพียงวิธีเดียวก็ไม่ผิด แต่ที่สำคัญคือ เราควรจะชัดเจนในตำแหน่งและความเป็นตัวตนของแบรนด์ให้ได้ก่อน และถ่ายทอดมันออกมาผ่านวิธีการต่างๆที่เหมาะสม
Cover photo from https://appleinsider.com/articles/18/10/19/apples-first-iphone-xr-ads-coincide-with-preorder-kickoff