Creating Shared Value หรือ CSV ได้กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) ที่สำคัญสำหรับยุคนี้ไปแล้ว ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ โดยมีเป้าหมายนั่นก็คือการทำธุรกิจแบบยั่งยืนครับซึ่งสามารถทำทั้งกำไรและสิ่งดีๆควบคู่กันไปได้ โดยหากจะบอกว่ามันเป็นการยกระดับจากการทำกิจกรรมเพื่อสังคมหรือ Corporate Social Responsibility (CSR) ก็ไม่ผิดใดๆ และในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคำว่า Creating Shared Value หรือ CSV ให้มากขึ้นครับ
แนวคิดความเป็น CSV
CSV นั้นเป็นเรื่องของกระบวนการสร้างห่วงโซ่คุณค่าหรือที่เราเรียกกันว่า Value Chain ให้เกิดขึ้นครับ เพื่อที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจในท้องถิ่นรวมถึงระดับภูมิภาค ซึ่งสามารถอธิบายให้เห็นเป็นภาพวงกลม 3 วงโดยเราจะเห็นระดับที่ทับซ้อนกันจนกลายเป็นการแบ่งปันและการสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้น นั่นก็คือด้านของสังคม (Social) เศรษฐกิจ (Economic) และสิ่งแวดล้อม (Environment) โดยเมื่อคุณพัฒนาในแต่ละระดับมันก็จำเป็นจะต้องส่งผลดีและโอกาสดีๆต่อระดับอื่นๆไปด้วยถึงจะเรียกว่าการแบ่งปันคุณค่าอย่างแท้จริง
CSV ถือเป็นเฟรมเวิร์คสำหรับสร้างคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจที่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนและตอบสนองความต้องการในสังคมและความท้าทายในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ใช่การบริจาคเพื่อการกุศลใดๆแต่สามารถเพิ่มศักยภาพและผลกำไรรวมถึงมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างที่เราเห็นหลายแบรนด์ทำ CSV เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนในสังคม สร้างที่อยู่อาศัยที่ในราคาที่ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของได้ หรือแม้แต่ความปลอดภัยทางการเงินแบบต่างๆที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของคนหรือชุมชนให้ดีขึ้น และแน่นอนครับว่าทุกอย่างนั้นมาจากการวางแผนเพื่อไปสู่หนทางแห่งความยั่งยืน
- Creating Shared Value (CSV) นั้นไม่ใช่เรื่องของ Corporate Social Responsibility (CSR) ครับ ซึ่งมันเหนือกว่าคำว่า CSR หรือความมีจิตใจบุญศุลทานที่ทำเพื่อตอบโจทย์ปัญหาในสังคมในมุมต่างๆ
- Creating Shared Value (CSV) คือ การสร้างคุณค่าที่มุ่งเน้นไปยังความต้องการที่แท้จริงของสังคม ผนวกกับการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
- Creating Shared Value (CSV) สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและนำนวัตกรรมมาใช้สร้างการเติบโตได้กับระบบเศรษฐกิจโลก
ความแตกต่างระหว่าง CSR กับ CSV
อยากที่บอกไปตั้งแต่ต้นครับว่า CSV นั้นเป็นการยกระดับของ CSR ขึ้นไปอีกขั้นโดยมันก็มีข้อแตกต่างที่สังเกตได้ที่ต่างมีความเชื่อมโยงกันดังนี้
กิจกรรมเพื่อสังคม Corporate Social Responsibility (CSR) | การสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วมกัน Creating Shared Value (CSV) |
---|---|
มุ่งหมายที่จะทำสิ่งดีๆเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม | มุ่งหมายที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในสังคมไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยการคิดและวางแผนให้เป็นส่วนหนึ่งหรือรูปแบบของการทำธุรกิจใหม่ๆขึ้นมา |
ทำสิ่งที่ดี | ทำเรื่องดีๆด้วยการทำสิ่งที่ดี |
ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างขีดความสามารถใดๆ | สร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจได้ โดยเฉพาะอาจเกิดขึ้นเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ |
ไม่ได้ส่งผลต่อการเพิ่มกำไรอย่างสูงสุด | บูรณาการสู่การเพิ่มกำไรอย่างสูงสุดอย่างเหมาะสม |
เป็นผลจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายนอก และส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในองค์กร | ถือเป็นวาระสำคัญของธุรกิจที่ลงลึกไปในส่วนงานต่างๆและตลาดที่ทำธุรกิจอยู่ |
ไม่ได้มีส่วนกับการนำเรื่องของนวัตกรรมมาใช้ | ริเริ่มในการนำเอานวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการต่างๆที่เหมาะสม |
ส่วนใหญ่จะเป็นระดับปฏิบัติการและเป็นกลวิธี | ถือเป็นกลยุทธ์ระดับองค์กรหรือหัวใจของการทำธุรกิจ |
ขยายขอบเขตได้แต่ก็กระทบกับเรื่องของต้นทุน | ขยายขอบเขตได้และสร้างกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
ในมุมมองของนักลงทุนดูเป็นเรื่องของต้นทุนในการดำเนินกิจกรรม | ในมุมมองของนักลงทุนคือโอกาสในการทำธุรกิจ |
ตัวอย่างของแบรนด์ที่นำแนวคิด CSV ไปสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
Nestle’
จากตำแหน่งของแบรนด์ดั้งเดิมในอดีตนั้นคือบริษัทที่ทำด้านอาหารและเครื่องดื่ม สู่การวางตำแหน่งใหม่เป็น Nutrition, Health & Wellness ที่ให้ความสำคัญกับด้านโภชนาการ สุขภาพ และการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีการทำโครงการด้าน CSV กว่า 169 โครงการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหนึ่งในโครงการที่สร้างผลกระทบโดยภาพรวมที่ชัดเจนมากที่สุด ก็คือ การทำงานร่วมกันกับชาวไร่ที่ปลูกกาแฟด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจและการสอน เพื่อให้ได้มาซึ่งกาแฟคุณภาพดีที่ส่งผลต่อรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ที่ปลูกกาแฟนั้นดีขึ้นอย่างมาก และยังนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อลดของเสียในกระบวนการผลิต โดยโครงการนี้ได้ให้ความรู้และพัฒนาชาวไร่กาแฟไปกว่า 63,000 รายใน 11 ประเทศ ภายใต้แบรนด์กาแฟที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดีนั่นก็คือ Nespresso และยังพัฒนานักปฐพีวิทยากว่า 300 คน เพื่อนำแนวคิด CSV มาทำโครงการวนเกษตรร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจต่างๆ หากใครอยากอ่านรายละเอียดลึกๆก็ลองเข้ามาดูที่ลิ้งค์นี้ได้ครับ The AAA Farmer Future Program
Nike
Nike แบรนด์รองเท้ากีฬาและเครื่องแต่งกายที่เรารู้จักมากที่สุดในโลกแบรนด์หนึ่ง ก็ได้ขยายโอกาสในการทำธุรกิจมาสู่เรื่องของสุขภาพและการออกกำลังกาย (Health & Fitness) โดยทำให้ทุกเรื่องนั้นเชื่อมโยงกลายเป็น Digital Ecosystem แบบครบจบในแบรนด์เดียวที่ขยายขอบเขตไปสร้างแอปพลิเคชั่นด้านการฝึกการออกกำลังกาย (Training Apps) แอปพลิเคชั่นด้านการวิ่ง (Running Apps) รวมไปถึง Training Club สังคมสำหรับคนรักการออกกำลังกาย ที่รวมเอาความรู้ดีๆด้านการออกกำลังกายรวมไปถึงการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายอีกด้วย ยังไงก็ลองเข้าไปทำความรู้จักกันได้ตามลิ้งค์นี้ดูครับ Nike Training Club
SCG
แบรนด์อันดับต้นๆของไทยที่หันมามุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่าง SCG นั้นเป็นตัวอย่างของการนำแนวคิดการทำ CSV มาใช้กับการปรับกระบวนการทำธุรกิจจนเกิดเป็นโซลูชั่นใหม่ๆมากมาย ที่มีการนำเอานวัตกรรมมาปรับใช้ให้กับเข้าบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคของ Aging Society ที่กำลังจะมาถึงนั้นทำให้ SCG ได้เปิดตัว SCG Eldercare Solution ที่เน้นการสร้างนวัตกรรมและบริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง อย่างอิสระ สะดวกปลอดภัย และมีสุขภาวะที่ดี ภายในบ้านร่วมกับสมาชิกภายในครอบครัว มาตั้งแต่ปี 2557 และยังมีอีกหลากหลายโซลูชั่นที่พัฒนาในแนวทางของ CSV โดยใครที่สนใจก็ลองเข้าไปศึกษานวัตกรรมต่างๆที่ SCG นำมาใช้ได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ SCG Innovation Hub และ Tagline ของ SCG ที่ว่า Passion for Better นั้นก็สะท้อนถึงความเป็น CSV ออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ
Source: https://www.scg-smarthome.com/eldercare-solution/
PTT Global Chemical (GC)
บริษัทพลังงานชั้นน้ำของประเทศไทยอย่าง ปตท. (PTT) ภายใต้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ผสานนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นไปยังการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ในองค์กรผ่านแนวคิด GC Circular Living เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และก็ยังมีอีกหลากหลายโครงการในการสร้างคุณค่าร่วมกันและวิสาหกิจเพื่อสังคม จนได้รับรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับโลกมาแล้วหลายรางวัลด้วยกัน ยังไงก็ลองเข้าไปศึกษาดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ GC Circular Living
ในโลกของการทำธุรกิจที่หลายๆอย่างในอดีตนั้นมักจะส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ของคนในสังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินกิจการของตัวธุรกิจเอง ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาซึ่งเราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันจนอาจไม่เหลืออะไรที่เป็นความยั่งยืนให้เห็นในอนาคต แต่แนวคิดเรื่องของการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วมกัน Creating Shared Value หรือ CSV นั้นนอกจากจะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้แล้ว มันยังช่วยยกระดับให้เกิดคุณค่ากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในมุมกว้างได้ และมันจะเป็นตัวแปรสำคัญให้หลายๆสิ่งหลายๆอย่างนั้นอยู่อย่างยั่งยืนขึ้นในอนาคตครับ ยังไงก็ลองศึกษาจากตัวอย่างของแบรนด์ต่างๆทั้งในไทยและต่างประเทศที่มีการประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจไปแล้วในหลากหลายอุตสาหกรรม และหากมีข้อสงสัยหรือคำแนะนำอะไรก็ลองเขียนมาพูดคุยกันได้นะครับ