Brand Attribute VS Brand Benefit

Brand Attributes หรือ คุณสมบัติของแบรนด์ หมายถึง คุณลักษณะของแบรนด์ที่แสดงถึงความเป็นธรรมชาติและพื้นฐานของแบรนด์ คุณสมบัติของแบรนด์เป็นชุดของคุณลักษณะที่เน้นลักษณะทางกายภาพและบุคลิกภาพของแบรนด์นั้นๆ ที่ถูกพัฒนาผ่านภาพลักษณ์ การกระทำกิจกรรมต่างๆ และคุณสมบัติของแบรนด์ยังช่วยในการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อีกด้วย โดยคุณสมบัตินั้นแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ

  1. คุณสมบัติที่จับต้องได้ (Tangible) เช่น รูปร่าง รูปทรง ส่วนผสมต่างๆ
  2. คุณสมบัติที่จับต้องไม่ได้ (Intangible) เช่น ภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และแบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
    • ความสัมพันธ์กัน (Relevancy) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยง ตอบสนองความคาดหวังและสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หากสินค้าที่แบรนด์ของเราผลิตออกมาไม่มีความเชื่อมโยงถึงลูกค้า ก็ยากที่ลูกค้าจะซื้อได้
    • ความคงเส้นคงวา (Consistency) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวา ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และลูกค้าสามารถรับรู้ได้ว่าแบรนด์เรานั้นเกิดมาเพื่ออะไร ผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆโดยไม่ทิ้งหลักการของแบรนด์
    • การวางตำแหน่งที่เหมาะสม (Proper Positioning) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องวางตำแหน่งของแบรนด์ในใจของกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการ และแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
    • ความยั่งยืน (Sustainable) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในเชิงธุรกิจ แบรนด์ที่มีความยั่งยืนจะถูกขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมไปสู่ความสำเร็จ
    • ความน่าเชื่อถือ (Credibility) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องรักษาคำมั่นสัญญากับลูกค้าเสมอ และทุกครั้งที่มีการสื่อสารอะไรออกไปจะต้องเป็นความจริง เชื่อมโยงกับสิ่งที่แบรนด์เคยสัญญาไว้กับลูกค้า
    • สร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องแสดงและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านการนำเสนอเรื่องราวในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้อยู่เสมอ
    • ความพิเศษไม่เหมือนใคร (Uniqueness) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องแตกต่างและพิเศษ ที่ต้องแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
    • ความดึงดูด (Appealing) แบรนด์ที่แข็งแกร่งจะต้องดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ ลูกค้าจะสนใจแบรนด์และมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ที่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ รวมถึงคุณค่าที่นำเสนอออกไป

Brand Benefits หรือ ประโยชน์ของแบรนด์ หมายถึง คุณค่าหรือประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ของเรา ผ่านประสบการณ์การใช้สินค้าหรือบริการ ที่ไม่ใช่คุณสมบัติหรือลักษณะของแบรนด์ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งประโยชน์ของแบรนด์นั้นจะทำหน้าที่สื่อสารแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักได้เป็นอย่างดี โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 ด้าน คือ 

  • ด้านการใช้งานที่เป็นเหตุและผล (Functional) เช่น แชมพูสามารถขจัดรังแคให้หาย ยาสีฟันที่ทำให้ฟันไม่ผุ ลมหายใจหอมสดชื่น
  • ด้านอารมณ์ (Emotional) เช่น ใช้แล้วชีวิตดี มีความสุข ตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีปัญหาเรื่องการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา แบรนด์หรือสินค้า A เป็นยาที่รักษาอาการปวดหัวได้หายขาด Functional Benefits คือ แบรนด์ A ช่วยให้คุณหายจากปัญหาที่คุณเจอเพื่อได้ทำงานได้ตามปกติ ส่งผลลูกค้ามองชีวิตแบบคิดบวกและมีกำลังใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และในส่วนนี้ก็คือ Emotional Benefits นั่นเองครับ

Share to friends


Related Posts

ความเชื่อมโยงกับแบรนด์ (Brand Association) มีกี่รูปแบบ

การที่ลูกค้าสามารถจดจำหรือนึกถึงแบรนด์ต่างๆได้ภายในจิตใจ และสามารถเชื่อมโยงตัวแบรนด์ไปถึงบางสิ่ง เช่น แบรนด์ A เป็นแบรนด์เกี่ยวกับรองเท้ากีฬา แบรนด์ B เป็นแบรนด์ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เวลาเห็นพรีเซ็นเตอร์คนนี้จะนึกถึงแบรนด์ C ในทันที สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าความเชื่อมโยงกับแบรนด์ หรือ Brand Association นั่นเองครับ


สร้างแบรนด์ให้โดดเด่น ด้วย Brand Personality

หลายคนน่าจะเคยได้ยินหรือเจอกับตัวเองที่หลายๆครั้งเวลาเราซื้อสินค้า เรามักจะคิดในใจว่าสินค้านี้มันคือตัวเรา ใช่ไหมครับ ซึ่งโดยปกติแล้วคนเรามักจะแสดงออกถึงลักษณ์ของความเป็นตัวเอง กับบุคลิกภาพของแบรนด์ที่พวกเขาเลือก กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ บุคลิกภาพของแบรนด์นั้นบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์


Brand Identity คืออะไรสำคัญแค่ไหน

Brand Identity คือ อัตลักษณ์หรือความเป็นตันตนของแบรนด์ เป็นสิ่งที่บริษัทสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอความเป็นตัวตนของแบรนด์ตัวเอง Brand Identity นั้นถือเป็นหน้าตาของบริษัทด่านแรกที่กลุ่มลูกค้าจะได้เห็น เช่น ชื่อของแบรนด์ โลโก้ สโลแกน โบรชัวร์ แผ่นพับ ป้ายโฆษณา นามบัตร หัวจดหมาย Brand Identity ยังมีความเกี่ยวข้องกับส่วนต่างๆของบริษัท


ความต่างระหว่าง Brand Extension กับ Line Extension

ในการทำธุรกิจก็ต้องมีการต่อยอดหรือขยับขยายธุรกิจ เพื่อการเติบโตและหาช่องทางในการสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายๆแบรนด์ใช้ในการบริหารจัดการให้แบรนด์สามารถขยายประเภทสินค้าหรือบริการออกมา แล้วสามารถตอบสนองเป้าหมายของธุรกิจ



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์