กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่สร้างให้ความเชื่อมโยงทางอารมณ์ (Emotional) จะช่วยให้ความผูกพันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ที่ต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นลำดับในการสร้างจากลูกค้าเพื่อเปลี่ยนไปสู่การเป็นมิตรภาพแบบเพื่อนสนิท ไปสู่ความไว้เนื้อเชื่อใจสู่การเป็นความจงรักภักดีต่อแบรนด์
การจะก้าวไปสู่แบรนด์ที่สามารถสร้างความรู้สึกทางอารมณ์ (Emotional Brand) อย่างแข็งแกร่งได้นั้นก็มีขั้นตอนเหมือนๆกับการสร้างแบรนด์หรือการตลาดดิจิทัลกับสินค้าใหม่ๆนั่งเองครับ ในบทความนี้จะแสดงให้เห็นว่าการที่จะกลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สร้างให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์ จะเริ่มจากขั้นไหนจนไปสู่จุดไหนกันบ้าง
การที่จะสร้างความผูกพันทางอารมณ์ได้นั้น ทุกๆแบรนด์ต้องเริ่มจากการสร้างการรับรู้ (Awareness) กับกลุ่มเป้าหมายให้ได้ก่อนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและการติดต่อกับแบรนด์ในทางใดทางหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าโดยแบรนด์จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการนำเสนอตัวเองให้เป็นที่รู้จักผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ลูกค้าจะประเมินข้อมูลข่าวสารที่แบรนด์นำเสนอ (Information) เพื่อตัดสินใจว่าข้อมูลข่าวสารของแบรนด์นั้นๆน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด (Respect) ตรงกับความต้องการของลูกค้าและสามารถตอบสนองสิ่งที่กำลังมองหาอยู่มากน้อยเพียงใด โดยหากความน่าเชื่อถือเกิดขึ้นแล้วก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่ดี (Friendship) ที่จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งนี้
หากมิตรภาพนั้นถูกบ่มเพาะจนสุกงอมได้แล้ว ความเชื่อถือศรัทธาก็จะเกิดขึ้น (Trust) และแบรนด์เองก็ต้องทะนุถนอมความรู้สึกของลูกค้าไว้ให้ได้ ด้วยการเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องและมีคุณค่าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ลูกค้านั้นกลายเป็นคนที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty) จนรู้สึกว่าแบรนด์นั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (Partnership) อย่างขาดไม่ได้
โดยส่วนใหญ่แล้วแบรนด์จะอยู่ในขั้นของการสร้างมิตรภาพดีๆ (Friendship) ซึ่งน้อยมากที่แบรนด์จะก้าวข้ามไปสู่ขั้นสูงสุดได้ ดังนั้นการจะสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้นั้นย่อมต้องใช้เวลาและความคงเส้นคงวา ในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในระระยาวครับ
Photos by freepik – www.freepik.com