ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) หรือการจดจำที่เกิดขึ้นในใจของลูกค้าที่ทำให้ลูกค้านึกได้โดยอัตโนมัติว่าแบรนด์หรือธุรกิจของคุณคือใคร ทำธุรกิจอะไร มีบุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร ผ่านการสื่อสารการตลาดและการโฆษณาในช่องทางต่างๆทั้งออนไลน์ โซเชียลมีเดีย สื่อออฟไลน์ รวมถึงการบอกต่อ และมันก็มีโอกาสที่จะเป็นทั้งการจดจำในทางที่ดีและทางที่ไม่ดีได้อยู่เสมอ ซึ่งมันได้กลายเป็นหนึ่งในตัววัดความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณที่ส่งผลต่อการสนับสนุนแบรนด์และธุรกิจของคุณในระยะยาว โดยหากภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นมีความแข็งแกร่งและเข้าไปอยู่ในใจได้อย่างแนบแน่นจนจดจำแบรนด์คุณได้เมื่อเห็นแค่เพียงโลโก้ สีสัน การได้ยินเสียงเพลง ก็อาจช่วยประหยัดงบประมาณด้านการตลาดหรือการสร้างแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีนั้นมีความจำเป็นในการที่คุณต้องนำเรื่องของภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ทางการตลาดด้วยเช่นเดียวกัน และในบทความนี้เรามาดูเคล็ดลับง่ายๆในการสร้าง ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) ให้กลายเป็นที่จดจำกันครับ
1. ระบุให้ชัดเจนว่าแบรนด์ของคุณคืออะไร
ก่อนที่คุณจะสร้างแบรนด์หรือธุรกิจใดๆก็ตามสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงอันดับแรกก็คือ คุณคือใคร บริษัทของคุณทำอะไร คุณกำลังนำเสนออะไรให้กับลูกค้า สินค้าหรือบริการคืออะไร การมีอยู่ของคุณนั้นเพื่ออะไร ทำไมลูกค้าถึงต้องสนับสนุนคุณ อะไรที่ทำให้คุณแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยคำถามต่างๆเหล่านี้จะช่วยวางแนวทางของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
2. ทำ SWOT Analysis
เมื่อคุณได้แนวคิดการสร้างแบรนด์และธุรกิจแล้วก็จำเป็นต้องรู้ว่าคุณอยู่ ณ จุดไหนด้วยการทำ SWOT Analysis หรือการวิเคราะห์จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับคู่แข่ง คุณจะได้เข้าใจและมองเห็นภาพทั้งหมดเพื่อนำมาปรับใช้กับการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์และธุรกิจของคุณ
3. ระบุให้ชัดเจนว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร
แนวทางการสร้างแบรนด์ที่คุณวางไว้จะทำให้คุณเห็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมันจะช่วยให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) ของคุณนั้นแข็งแกร่งและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น คุณจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคิดอะไรอยู่ อยากได้อะไร จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร ด้วยคอนเทนต์แบบไหน ในช่องทางไหนที่เหมาะสม
4. กำหนดคุณค่าที่แท้จริงให้กับแบรนด์
เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) ที่แข็งแกร่งนั้นคุณก็จำเป็นต้องชัดเจนในการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) คุณค่า (Values) ของแบรนด์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่ คุณเกิดมาเพื่อสนับสนุนและตอบโจทย์ลูกค้าในด้านไหนบ้าง ซึ่งมันจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพโดยรวมจากแบรนด์ของคุณ
5. ความชัดเจนของ Brand Voice
ทุกๆครั้งที่แบรนด์นั้นมีการติดต่อสื่อสารหรือเกิดปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในแบบต่างๆ ลูกค้าจะจดจำแนวทางที่คุณสื่อสารซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับการใช้คำพูดรวมถึงโทนและน้ำเสียง (Brand Voice) ที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานโฆษณาและสื่อต่างๆ อาทิ แบรนด์คุณมีความสนุกสนาน ดูมีความเป็นทางการ หรือดูเรียบง่ายสบายๆ
6. บุคลิกภาพของแบรนด์ต้องชัดเจน
เพื่อให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) นั้นเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าแบบแนบแน่นให้ได้ ก็จำเป็นต้องหาบุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) ที่เด่นชัดมากที่สุดของคุณให้ได้ เพราะมันส่งผลต่อความรู้สึกแบบมนุษย์สื่อสารกับมนุษย์ที่ต่อยอดไปถึงเรื่องของความเชื่อใจและเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ได้ในอนาคต
7. เตรียมแนวทางการสื่อสารแบรนด์
เมื่อทุกอย่างที่คุณวางรากฐานไว้นั้นพร้อมหมดแล้วก็ได้เวลาของการทำทุกอย่างให้ออกมาเป็นภาพในรูปแบบของ Brand Guideline ที่ประกอบไปด้วยแนวทางการใช้โลโก้ โทนสี การใช้รูปภาพ และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับทีมงานในการปรับใช้กับสื่อโฆษณาและกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมไปถึงการเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยเช่นกัน
8. อย่าหยุดการสื่อสาร
ประกาศให้ทุกๆคนรู้ว่าแบรนด์ของคุณนั้นมีดีอย่างไรผ่านการสื่อสารการตลาดในทุกรูปแบบ ที่ตรงกับช่องทางการเปิดรับสารของกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คุณ ด้วยแนวทางที่คุณได้วางไว้อย่างต่อเนื่องและคงความเป็นแบรนด์ของคุณอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดการจดจำในใจของลูกค้าของคุณจนนึกถึงคุณได้ในทุกครั้ง
ทั้ง 8 เคล็ดลับง่ายๆนี้จะช่วยให้แบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นชัดเจน และกลายเป็นที่จดจำของลูกค้าได้อย่างไม่ยากเย็น และที่สำคัญก็คือต้องมีวินัยกับการรักษามาตรฐานของแบรนด์เอาไว้เสมอๆ เพราะคู่แข่งของคุณนั้นก็พร้อมที่จะแซงหน้าคุณได้อยู่ตลอดเวลาครับ หากใครมีความคิดเห็นใดๆหรือลองนำไปปรับใช้ดูแล้วเกิดผลลัพธ์อย่างไร ก็ลองนำมาแชร์กันได้นะครับ