
แบรนด์หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดอีเวนต์ (Event) และความบันเทิง (Entertainment) เป็นธุรกิจที่เติบโตได้ด้วยพลังงาน (Energy) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และการเชื่อมโยงทางอารมณ์ (Emotional Connection) ชื่อของแบรนด์ก็เปรียบเสมือนกับ การจุดประกายไฟที่จุดประกายความอยากรู้อยากเห็น ไม่ว่าคุณจะบริหารจัดการงานประเภท Festival, Live Event, Exhibition หรืองาน Production ต่างๆ ธุรกิจด้านนี้ถือว่ามีอิสระมากกว่าธุรกิจอื่นๆ ที่จะมอบความสนุกสนาน (Playful) หรือความโดดเด่น (Bold) และยิ่งคุณสามารถตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) ได้สอดคล้องและมีพลังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความได้เปรียบให้กับธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น เรามาเรียนรู้วิธีการตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจ Event และ Entertainment กันครับ

ลักษณะของธุรกิจแนว Event and Entertainment
แบรนด์ในวงการอีเวนต์ (Event) และความบันเทิง (Entertainment) มีคุณสมบัติพิเศษ ที่มักจะมีความแตกต่างจากธุรกิจทั่วๆไป และสามารถตั้งชื่อได้ทั้งตัวของบริษัทเองหรือการตั้งชื่อแบรนด์ให้กับงานต่างๆ ดังนี้
1. เน้นประสบการณ์ (ผู้คนกำลังซื้อความทรงจำ)
ลูกค้าไม่ได้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่จับต้องได้ แต่พวกเขากำลังลงทุนใน “ประสบการณ์” ที่ “น่าประทับใจ” และ “ความทรงจำที่ล้ำค่า” ตัวอย่างเช่น การไปเทศกาลดนตรี คือ การได้สัมผัสบรรยากาศ การร้องเพลงไปพร้อมๆกับคนนับพัน หรือการได้เห็นศิลปินคนโปรดบนเวที สิ่งเหล่านี้คือ “ผลิตภัณฑ์” ที่แบรนด์มอบให้ ดังนั้น ชื่อแบรนด์ควรสื่อถึงความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น ชื่อที่ชวนให้นึกถึงความสนุก ความมหัศจรรย์ หรือช่วงเวลาที่น่าจดจำ
2. ความเป็นสังคมและชุมชน (ขับเคลื่อนด้วยคำแนะนำบอกต่อ)
ธุรกิจลักษณะนี้เติบโตได้ดีจากการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth – WoM) หรือการแชร์บนโซเชียลมีเดียเมื่อผู้คนได้รับประสบการณ์ที่ดี พวกเขามักจะอยากเล่าเรื่องราวหรือแชร์ภาพถ่าย / วิดีโอให้เพื่อนๆฟัง แบรนด์จึงต้องมีชื่อที่ “น่าจดจำ” “ง่ายต่อการออกเสียง” และ “น่าค้นหา” เพื่อให้ลูกค้าสามารถแนะนำ หรือแท็กเพื่อนๆได้อย่างสะดวก ชื่อที่สั้น กระชับ และมีเอกลักษณ์จะช่วยให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นกระแสและถูกพูดถึงในวงกว้างได้ง่ายขึ้น
3. มีความคิดสร้างสรรค์และไม่หยุดนิ่ง
ในวงการนี้มักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆตลอดเวลา แบรนด์จึงต้องมีความ “ยืดหยุ่นสูง” ชื่อแบรนด์ที่ดีควรเปิดกว้างพอ ที่จะรองรับกิจกรรมที่หลากหลายในอนาคต ไม่จำกัดอยู่แค่ประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น เช่น หากคุณตั้งชื่อว่า “Concert King” คุณอาจจะสร้างความสับสนได้ในอนาคต หากต้องการจัดงานที่เกี่ยวกับศิลปะ ดังนั้น การเลือกชื่อที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ และไม่ผูกติดกับรูปแบบเดียว จะช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด


จิตวิทยาและการรับรู้ของผู้บริโภค (Psychology and Perception)
การรับรู้ของลูกค้าที่มีต่อชื่อแบรนด์ของคุณ จะนำไปสู่คำถามที่เกิดขึ้นในใจโดยไม่รู้ตัว คำถามเหล่านี้ คือ ปัจจัยหลักในการตัดสินใจเข้าร่วมอีเวนต์หรือใช้บริการของคุณ และชื่อแบรนด์ควรทำหน้าที่เป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือให้กับคำถามเหล่านั้น
- ประสบการณ์นี้จะรู้สึกพิเศษไหม
 ผู้คนต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ชื่อแบรนด์ควรจุดประกายความรู้สึกว่า อีเวนต์นี้จะเต็มไปด้วยความพิเศษ ความประหลาดใจ และช่วงเวลาที่น่าจดจำ ไม่ใช่แค่การเข้าร่วมกิจกรรมทั่วไป
- สิ่งนี้จะคุ้มค่ากับเวลาและเงินของฉันหรือไม่
 ผู้ชมต้องการความมั่นใจว่าการลงทุนของพวกเขา จะได้รับผลตอบแทนเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ชื่อแบรนด์ที่ดีควรสื่อถึงคุณค่าที่เหนือกว่าราคาที่ต้องจ่าย และสร้างความรู้สึกว่าการเข้าร่วมอีเวนต์นี้ คือ การตัดสินใจที่คุ้มค่า
- แบรนด์นี้มีความน่าเชื่อถือไหม
 ความน่าเชื่อถือ คือ สิ่งสำคัญโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ลูกค้าต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ชื่อที่ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือจะช่วยลดความลังเลใจ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า แบรนด์ของคุณมีมาตรฐาน และจะส่งมอบประสบการณ์ตามที่โฆษณาไว้

หลักการตั้งชื่อแบรนด์สำหรับธุรกิจ Event and Entertainment
จากลักษณะของธุรกิจรวมถึงจิตวิทยาและการรับรู้ของผู้บริโภค ทำให้เราเห็นว่าการตั้งชื่อแบรนด์ในวงการนี้ มีหลักการสำคัญๆที่ควรยึดถืออยู่ 5 อย่าง เพื่อให้ชื่อแบรนด์มีความทรงพลังและประสบความสำเร็จได้ ดังนี้
1. พลังงานและอารมณ์ (Energy and Emotion)
ชื่อของคุณควรให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังงาน มันควรจะสร้างความรู้สึกบางอย่างให้กับผู้ที่ได้ยิน เช่น ความตื่นเต้น ความสุข หรือความลึกลับ ชื่อที่ดีไม่ควรจืดชืดหรือน่าเบื่อ แต่ควรจะสามารถ “กระตุ้น” อารมณ์ได้ทันทีที่ได้ยิน
2. จดจำง่าย (Memorability)
ชื่อที่สั้น กระชับ และติดหู จะช่วยให้ผู้คนจดจำและพูดถึงได้ง่ายขึ้น ลองนึกถึงชื่ออย่าง “Coachella” หรือ “Glastonbury” ที่ถึงแม้จะไม่ได้สั้นมาก แต่มีเอกลักษณ์และจดจำได้ทันที การตั้งชื่อที่ง่ายต่อการสะกดและออกเสียง จะช่วยให้การค้นหาบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้าด้วย
3. โดดเด่นไม่ซ้ำใคร (Distinctiveness)
อย่าให้ชื่อของคุณกลืนไปกับคู่แข่งรายอื่นๆ ชื่อแบรนด์ควรมีเอกลักษณ์ที่ทำให้คุณแตกต่างและน่าสนใจ ลองพิจารณาชื่อที่ใช้คำที่ไม่เหมือนใคร หรือใช้การผสมผสานคำที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
4. ชัดเจนในวัตถุประสงค์ (Clarity of Purpose)
ถึงแม้ชื่อแบรนด์จะมีความสร้างสรรค์ แต่ก็ควรให้ความชัดเจนว่าแบรนด์ของคุณคืออะไร เช่น คุณเป็นสถานที่จัดงาน (Venue) เทศกาล (Festival) หรือเป็นผู้ให้บริการด้านใดด้านหนึ่ง (Service) การใช้คำที่บ่งบอกประเภทธุรกิจ จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ทันทีว่าคุณนำเสนออะไร
5. รองรับการเติบโต (Scalability)
หากคุณมีแผนจะขยายธุรกิจในอนาคต อย่าจำกัดตัวเองด้วยชื่อที่ผูกติดอยู่กับประเภทดนตรี หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่งโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งชื่อว่า “Jazz Jam Festival” การจะจัดงานเทศกาลร็อกในอนาคต ก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ควรเลือกชื่อที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นพอที่จะรองรับการเติบโต และการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในระยะยาว

ตัวอย่างการตั้งชื่อแบรนด์สำหรับธุรกิจ Event and Entertainment
เราลองมาดูตัวอย่างชื่อแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในวงการอีเวนต์ (Event) และความบันเทิง (Entertainment) กันครับ โดยจะมีทั้งชื่อของตัวธุรกิจเอง และชื่อของแนวคิดในการจัดงาน
Coachella
หลายๆคนน่าจะรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่จัดโดยบริษัท Goldenvoice นับเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์และมาจากสถานที่จริง (Coachella Valley) ทำให้มีความเฉพาะเจาะจงทางภูมิศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีจังหวะการออกเสียงที่น่าสนใจและลื่นไหล ทำให้ติดหูและจดจำง่าย

Image Source: https://adventureswithpinny.com/blog/the-ultimate-first-timers-guide-to-coachella
Ticketmaster
เป็นชื่อที่ใช้งานได้จริงและสื่อสารได้ตรงไปตรงมาว่า คือ “ผู้เชี่ยวชาญด้านตั๋ว” คำว่า “Master” ในชื่อนั้นแสดงถึงความเป็นผู้นำ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจการจำหน่ายตั๋ว ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในบริการ

Image Source: https://www.ticketmaster.com/
SXSW
SXSW นั้นย่อมาจาก South by Southwest ซึ่งเป็นการใช้ตัวย่อทำให้ชื่อสั้น กระชับ และเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว แม้จะย่อมาจากชื่อเต็มที่ยาวก็ตาม แต่ตัวอักษร “S-X-S-W” ก็กลายเป็นไอคอนที่จดจำง่าย และสื่อถึงงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลสูง ซึ่งจัดงานอีเว้นท์หลากหลายประเภท

Image Source: https://www.sxsw.com/
Lollapalooza
Lollapalooza เป็นเทศกาลดนตรีประจำปีของสหรัฐอเมริกา ที่จัดขึ้นที่ Grant Park ในเมืองชิคาโกโดยกินระยะเวลา 4 วัน เป็นเทศกาลที่โดดเด่นในเรื่องของความหลากหลายทางแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็น Alternative Rock, Heavy Metal, Punk Rock, Hip Hop, Electronic Dance Music (EDM) ชื่อ Lollapalooza เป็นชื่อที่มีความสนุกสนาน ไม่ซ้ำใคร และออกเสียงได้อย่างมีลูกเล่น คำนี้ไม่ได้มีความหมายตรงตัวที่ชัดเจน แต่ความแปลกใหม่นี้เองที่ทำให้ชื่อโดดเด่น และสร้างความรู้สึกของความสนุกสนานได้อย่างดีเยี่ยม

Image Source: https://www.lollapalooza.com/
Live Nation
เป็นอีกหนึ่งชื่อที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คำว่า “Live” สื่อถึงการแสดงสดและพลังงานทันที ส่วนคำว่า “Nation” (ชาติ) บ่งบอกถึงขนาดที่ยิ่งใหญ่และเป็นสากล ทำให้ชื่อนี้ดูน่าเชื่อถือและเข้าถึงผู้คนจำนวนมาก

Image Source: https://www.livenationtero.co.th/
Big Mountain Music Festival
Big Mountain Music Festival หรือ BMMF เป็นงานเทศกาลดนตรีของไทย ที่สื่อถึงคอนเซ็ปต์ของงานได้อย่างชัดเจน คือเทศกาลดนตรีบนเขาใหญ่ คำว่า “Big Mountain” (เขาใหญ่) ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และเป็นอิสระ ซึ่งตรงกับบรรยากาศของงาน

Image Source: https://www.facebook.com/bigmountainmusicfestival
GMM SHOW
เป็นชื่อที่สร้างความน่าเชื่อถือทันที เพราะใช้ชื่อบริษัทแม่ที่แข็งแกร่งอย่าง GMM (Grammy) และคำว่า “SHOW” ก็สื่อถึงธุรกิจการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้ลูกค้ารู้ว่าแบรนด์นี้คือผู้จัดงานแสดงระดับมืออาชีพ

Image Source: https://www.facebook.com/gmmshow
ในวงการอีเวนต์ (Event) และความบันเทิง (Entertainment) ชื่อแบรนด์ของคุณ (Brand Naming) เปรียบเสมือนพาดหัวข่าวสำคัญ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทำให้มันน่าจดจำ ทำให้มันชัดเจน และเหนือสิ่งอื่นใด จงทำให้มันจุดประกายความคาดหวัง ให้กับผู้คนที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมที่คุณจัดขึ้นนั่นเอง
หากข้อมูลและบทความต่างๆบนเว็บไซต์นี้ ทำให้คุณได้มุมมองใหม่ๆ หรือแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ การตลาด หรือการสื่อสารมากขึ้น 
และอยากต่อยอดความเข้าใจเหล่านี้ให้ลึกซึ้งขึ้นอีกขั้น 
ก็สามารถพูดคุยหรือขอคำปรึกษากับผมได้โดยตรงครับ 
ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ การสอนแบบ Workshop 
หรือการบรรยายสำหรับทีมและองค์กร 
ผมยินดีแบ่งปันประสบการณ์จริงจากการทำงาน งานสอน และงานที่ปรึกษา 
เพื่อช่วยให้คุณหรือทีมของคุณเติบโตอย่างมีทิศทาง 
และเข้าใจ “หัวใจของแบรนด์และการตลาด” อย่างแท้จริง
📩 Email: thepopticles@gmail.com
📞 โทร / Line ID: 0829151594

 
				
 
		 
		