ความหมายของสีสำหรับการสร้างแบรนด์ (The Meaning of Colours for Branding)

ทุกๆคนมักจะมีสีที่ชื่นชอบเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งมันจะบ่งบอกว่าลึกๆแล้วคุณนั้นเป็นคนอย่างไร มีบุคลิกภาพอย่างไร รวมไปถึงพฤติกรรมของตัวคุณเอง ที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนมุมมองของตัวคุณรวมไปถึงคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ และสำหรับการสร้างแบรนด์นั้นเรื่องของการเลือกใช้สีก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งผมได้รวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความหมายของสี และการเลือกใช้สีจาก 99Designs.com มาฝากกันครับ

ทำไมสีกับการสร้างแบรนด์ถึงสำคัญนัก

สีเป็นเรื่องของความรู้สึกทางอารมณ์ ที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจในด้านต่างๆ และในฐานะของแบรนด์ก็ยิ่งมีความจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า เพราะคุณอาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆของแบรนด์ได้อย่างละเอียดในสื่อต่างๆ แต่การเล่าเรื่องด้วยโทนสีของแบรนด์จะช่วยสร้างทางลัดให้นึกถึงแบรนด์ของคุณได้นั่นเองครับ

การใช้สีในการสร้างแบรนด์

ลูกค้ารู้สึกอย่างไรกับแบรนด์ อาจดูสำคัญกว่าการที่ลูกค้าคิดอย่างไรกับแบรนด์ พลังของสีสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนทางอารมณ์ และส่งผลไปยังประสิทธิภาพการขาย ที่อาจดีกว่าสินค้าที่คุณนำเสนอ”

– Antonio Damasio –

การใช้สีเดิมๆแบบซ้ำๆเพื่อเป็นการย้ำเตือนนั้น สามารถสร้างให้เกิดการรับรู้ในตัวแบรนด์ (Brand Awareness) ที่ถูกนำมาใช้ในการตลาดเกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสีกับตัวแบรนด์ เช่น ทุกครั้งที่เห็น Coke คุณคงนึกถึงสีแดง เมื่อเห็น Twitter คุณคงนึกถึงสีท้องฟ้า และส่วนใหญ่ที่แบรนด์นำสีมาใช้แสดงความเป็นตัวตนนั้น จะอยู่ในรูปแบบต่างๆเหล่านี้

  • โลโก้
  • เว็บไซต์
  • หน้าร้าน
  • การออกแบบร้านค้า
  • ชุดเครื่องแบบพนักงาน
  • งานโฆษณาต่างๆ

ดังนั้นการเลือกสีให้กับแบรนด์คุณควรใช้ความระมัดระวัง และต้องกำหนดทิศทางการใช้สีต่างๆที่แสดงถึงความเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ให้ชัดเจน

“สีที่คุณชอบอาจะไม่ใช่สีที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจ
ดังนั้นคุณต้องออกแบบและกำหนดบุคลิกภาพของแบรนด์
(Brand Personality) ให้ชัดเจน”

ความหมายของสี

  • สีแดง แสดงถึง ความมุ่งมั่น ความรัก ความตื่นเต้น ความร้อนแรง ความโกรธ บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญ ความตั้งใจ และการออกคำสั่ง
  • สีส้ม แสดงถึง ความเป็นมิตร ความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา บ่งบอกถึงความมีพลัง
  • สีเหลือง แสดงถึง ความสุข วัยรุ่น คิดบวก ดึงดูดความสนใจ และราคาดูเอื้อมถึง
  • สีเขียว แสดงถึง ความมั่นคง ความก้าวหน้า และเชื่อมโยงกับความเป็นธรรมชาติ
  • สีฟ้าอ่อน แสดงถึง ความเงียบสงบ ความน่าเชื่อถือ ความเปิดกว้าง นอกจากนี้ยังหมายถึงความบริสุทธิ์ได้
  • สีน้ำเงินเข้ม แสดงถึง ความเป็นมืออาชีพ ความปลอดภัยและความเป็นทางการ เป็นผู้ใหญ่และเชื่อถือได้
  • สีม่วง แสดงถึง ความเป็นเจ้าคนนายคน ความคิดสร้างสรรค์ ความหรูหรา
  • สีชมพู แสดงถึง ความเป็นผู้หญิง เยาวชนและความไร้เดียงสา ความทันสมัยไปจนถึงความหรูหรา
  • สีน้ำตาล แสดงถึง ความย้อนยุค ความย้อนสมัย ความแข็งแรง
  • สีขาว แสดงถึง ความสะอาด คุณธรรม สุขภาพหรือความเรียบง่าย ราคาดูเอื้อมถึงจนถึงระดับสูง
  • สีเทา แสดงถึง ความเป็นกลาง ดูอ่อน คลาสสิก จริงจัง ลึกลับ หรือผู้ใหญ่
  • สีดำ แสดงถึง ความทรงพลัง หรูหรา ทันสมัย

ผลของสีที่มีต่อการรับรู้ของลูกค้านั้นก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบ การรวมองค์ประกอบของสี รวมไปถึงโทนของสีต่างๆที่ใช้แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ เพื่อให้เข้ากับสื่อต่างๆด้วยเช่นกันครับ


Share to friends


Related Posts

สร้างแบรนด์ให้โดดเด่น ด้วย Brand Personality

หลายคนน่าจะเคยได้ยินหรือเจอกับตัวเองที่หลายๆครั้งเวลาเราซื้อสินค้า เรามักจะคิดในใจว่าสินค้านี้มันคือตัวเรา ใช่ไหมครับ ซึ่งโดยปกติแล้วคนเรามักจะแสดงออกถึงลักษณ์ของความเป็นตัวเอง กับบุคลิกภาพของแบรนด์ที่พวกเขาเลือก กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ บุคลิกภาพของแบรนด์นั้นบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์


ตัวอย่าง Brand Personality ของแต่ละแบรนด์

จากโพสต์ที่เกี่ยวกับ บุคลิกภาพของแบรนด์ หรือ Brand Personality ที่ได้อธิบายไว้เมื่อวันก่อน วันนี้ผมได้ลองค้นหา และรวบรวมบุคลิกภาพของแต่ละแบรนด์มาให้ดูกันครับ


สร้าง Brand Identity ให้แข็งแกร่ง

อัตลักษณ์ของแบรนด์ นั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนจดจำเป็นอันดับแรกๆ เรียกได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาขององค์กร หรือแบรนด์นั้นๆเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่หน้าตาของโลโก้ การใช้โทนสี การเลือกใช้ตัวหนังสือ รวมไปถึง template ต่างๆ การออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์นั้น ไม่ใช่อยู่ๆคิดจะออกแบบก็ออกแบบกันได้ง่ายๆนะครับ



copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์