สำหรับการวางกลยุทธ์การตลาดนั้นมีอยู่ 3 ปัจจัยสำคัญที่จำเป็นสำหรับนักการตลาด ที่ต้องทำความเข้าใจ โดยทั้ง 3 ปัจจัยนั้นมีความเชื่อมโยงต่อกันหากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเปลี่ยน ปัจจัยอื่นๆก็จะเปลี่ยนตามกัน 3C ที่ว่านี้ คือ ลูกค้า (Customer) บริษัท (Company) และคู่แข่ง (Competitor) โดยมีสมการที่น่าสนใจอยู่ 3 แบบด้วยกัน

ลูกค้า + บริษัทของเรา = การแข่งขันต่ำ

สมการที่ 1 หากลูกค้ายึดติดกับบริษัทของเราอย่างแนบแน่น ผลคือ คู่แข่งแทบจะไม่มีโอกาสจะเจาะลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ทำให้การแข่งขันในตลาดต่ำเพราะคู่แข่งจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ค่อนข้างยาก ในทางกลับกันถ้าลูกค้ายึดติดกับคู่แข่งอย่างเหนียวแน่น ก็จะยิ่งยากที่เราจะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มนี้

ลูกค้า = คู่แข่งหรือบริษัทของเรา

สมการนี้แสดงให้เห็นถึงการที่สินค้าประเภทเดียวกัน ที่ไม่ได้มีการแข่งขันโดยตรงมากนัก และไม่ได้มีความแตกต่างในตัวสินค้าอย่างชัดเจน ลูกค้ามีตัวเลือกทั้งบริษัทของเราหรือคู่แข่ง บริษัทต้องหาจุดขายที่โดดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งมานำเสนอ เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเลือกเราเป็นอันดับหนึ่ง และกลับมาใช้สินค้าเราอย่างต่อเนื่อง เช่น ในตลาดรองเท้ากีฬา Nike กับ Adidas และในตลาดเครื่องดื่มน้ำดำอย่าง Pepsi และ Coke

ลูกค้า = คู่แข่ง 1 คู่แข่ง 2 คู่แข่ง 3 หรือบริษัทของเรา

สมการสุดท้าย จะเกิดขึ้นกับสินค้าที่เป็นกลุ่ม mass market หรือสินค้าที่มีอยู่ทั่วไปในตลาด ในจุดที่ลูกค้าไม่มีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์หรือสินค้าใดๆเลย ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามต้องการ เช่น พวกสินค้าในกลุ่ม FMCG

แนวคิดนี้ทำให้เราเห็น 3 มุมมองที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งทั้งหมดนั้นเชื่อมถึงกันและมีความหมายในตัวของมันเอง หากคุณไม่ให้ความสำคัญกับลูกค้า ไม่พัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าหรือแตกต่างจากคู่แข่ง และไม่สร้างให้เกิดความซื่อสัตย์ในแบรนด์ มันก็จะมีคนอื่นๆที่พร้อมจะแย่งลูกค้าไปจากคุณ


Cover photo by mark normand from FreeImages edited by popticles.com

Share to friends


Related Posts

รู้จัก Marketing Funnel กันสักหน่อย

Marketing Funnel เป็นการสะท้อนภาพด้านการตลาดและการขาย เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้เป็นลูกค้าที่แท้จริง Marketing Funnel จะทำให้เราเห็นมุมมองของทั้งการตลาดและการขายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตั้งแต่การสร้างให้เกิดโอกาสทางการขาย


รู้จักประเภทธุรกิจ เราอยู่ในธุรกิจแบบไหนกันนะ

เคยสงสัยไหมครับว่าบริษัทที่เราทำอยู่นั้นอยู่ในธุรกิจประเภทไหน ซึ่งเรามักจะคุ้นหูกับธุรกิจแบบ B2C และ B2B แต่ปัจจุบันนั้นมีหลากหลายประเภทธุรกิจเกิดขึ้นอย่างมาก อันเนื่องมาจากกลุ่มเป้าหมาย เทคโนโลยี และรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำการตลาดนั้นมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


2 thoughts on “แนวคิด 3C เพื่อการกำหนดกลยุทธ์การตลาด

  • ขอสอบถามหน่อยค่ะว่ากลยุทธ์ 3C สำคัญต่อการตั้งราคายังไงเหรอคะ

    • 3C เป็นตัวตั้งเพื่อให้มองเห็นภาพรวมของการจะทำธุรกิจครับที่ต้องมองปัจจัยทั้งตัวเอง ลูกค้า และคู่แข่ง เพื่อเปรียบเทียบดูว่าจุดแข็งจุดอ่อนเรามีอย่างไร คู่แข่งมีอย่างไร ลูกค้าเราเป็นใคร ซึ่งหากจะพูดถึงความเกี่ยวเนื่องกับการตั้งราคานั้นต้องมองลึกลงไปครับว่าสินค้าประเภทนี้ในตลาดราคาเป็นอย่างไร จุดเด่นของสินค้ามีมากแค่ไหน คู่แข่งตั้งราคาอย่างไร

      หากเชื่อมกับ 3C จะเป็นลักษณะของการวิเคราะห์ในขั้นตอนแรกๆ ถ้ามีสินค้าเราเพียงเจ้าเดียวในตลาดก็แน่นอนครับว่าลูกค้าจะอยู่กับเราอย่างเหนียวแน่นไร้คู่แข่ง ซึ่งอาจทำให้การตั้งราคานั้นสามารถกำหนดได้ในราคาที่สูง (หากสินค้านั้นมีคุณบัติดีเด่น แตกต่าง ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ใช้นวัตกรรมขั้นสุด หรือวางตำแหน่งที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ) ในทางกลับกันหากเป็นสินค้าที่เหมือนๆกันมีคู่แข่งในตลาดมากเราคงไม่สามารถกำหนดราคาได้สูงกว่าคู่แข่ง คงต้องใช้การทำโปรโมชันมาเกี่ยวข้องครับ

      การตั้งราคาก็ต้องยึดเรื่องของต้นทุน ค่าแรง ค่าบรรจุภัณฑ์ กำไร และอื่นๆมาประกอบครับ

copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์