การ Brainstorming หรือการระดมสมองถือเป็นกระบวนการสำคัญในการหาไอเดียใหม่ๆหรือการแก้ปัญหาในการทำงาน ซึ่งมันช่วยให้คุณสามารถหาทางออกในเรื่องต่างๆร่วมกับทีมงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หากคุณเกิดคิดอะไรไม่ออกหรือเกิดทางตันในการทำงานหรือการวางแผนโครงการใดๆ ผมมีเทคนิคดีๆในการทำ Brainstorming มาฝากกันครับ
เทคนิค Brain Writing
เทคนิคแรกคือการทำ Brain Writing ด้วยการให้สมาชิกในกลุ่มเขียนรายละเอียดลงบนกระดาษ Post-it หรือ Index Card โดยมีวัตถุประสงค์หลักๆอยู่ 2 อย่าง คือ ประการแรกจะป้องกันไม่ให้เกิดความลำเอียงจากใครคนใดคนหนึ่ง และประการที่สองเป็นการเปิดช่องทางให้เพื่อนร่วมทีมที่เก็บตัวมากไม่ค่อยชอบพูดจาหรือนำเสนออะไรให้หันมามีส่วนร่วมในการคิดเพิ่มขึ้น ผลที่ได้คือแนวความคิดที่กว้างขึ้นจากนั้นจะมีการแบ่งปันแนวคิดแบบสุ่มกับคนอื่นๆในกลุ่ม ซึ่งจะเสนอความคิดเห็นและใช้เวลาวิจารณ์แต่ละแนวคิด โดยหัวหน้าทีมหรือผู้บริหารต้องเป็นผู้รวบรวมและจัดเรียงแนวคิดเพื่อให้ได้ไอเดียดีๆที่ได้จากการเสนอความเห็นทั้งหมด ในการทำ Brain Writing นั้นก็อาจมีความจำเป็นต้องเสนอความคิดเห็นกันถึง 6 รอบด้วยกันเพื่อตกผลึกความคิดที่เหมาะสมที่สุด
เทคนิค Slip Writing
เทคนิคการระดมสมองแบบ Slip Writing เป็นเทคนิคง่ายๆแต่ได้ผลที่ดีที่มีความคล้ายคลึงกับ Brain Writing คือ มันเหมาะกับการให้คนที่ไม่ถนัดการพูดหรือนำเสนอเป็นการเขียนบนกระดานหรือกระดาษ Post-it แทน แต่จะไม่เข้มข้นในกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งความคิดเห็นเท่ากับ Brain Writing โดย Slip Writing จะให้อิสระและเปิดกว้างในการแสดงความเห็น และเรามักจะเห็นหลายๆองค์กรใช้เทคนิคนี้ในการระดมสมองกันเป็นส่วนใหญ่ครับ
เทคนิค 5 Whys Analysis
แนวคิด 5 Whys คิดค้นโดย Taiichi Ohno ซึ่งเป็นสถาปนิกที่ออกแบบ Toyota Production System (TPS) ที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ครับ โดย 5 Whys นั้นจะทำให้คุณเข้าใจว่าอะไรกันนะที่เป็นปัญหาและมันเกิดจากจุดไหนได้อย่างไร 5 Whys นั้นเป็นการตั้งคำถามว่า “ทำไม” เพื่อหาสาเหตุหรือต้นเหตุแห่งปัญหาด้วยกัน 5 ครั้ง จนเข้าใจว่าปัญหาในแต่ละส่วนที่เกิดขึ้นนั้น แท้ที่จริงมันเริ่มต้นมาได้อย่างไรเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยต้องมีการประชุมทีมงานที่เกี่ยวข้องและตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตสินค้า การพัฒนาสินค้า ข้อผิดพลาดต่างๆ หรือความล่าช้าในการทำงาน เพราะทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันได้ทั้งสิ้น ลองดูรายละเอียดเกี่ยวกับ 5 Whys Analysis ได้ที่นี่ครับ >>> เข้าใจเหตุแห่งปัญหาอย่างลึกซึ้งกับ 5 Whys
เทคนิค Starbursting
เทคนิคการทำ Starbursting คือ เทคนิคการระดมสมองเพื่อหาไอเดียหรือความคิดใหม่ๆโดยใช้ 5W1H หรือ Who, What, Where, When, Why และ How เป็นตัวตั้งของชุดคำถามและวางไอเดียหรือแนวคิดหลักไว้ตรงจุดศูนย์กลาง โดยคำถามแต่ละคำถามจะต่อยอดให้เกิดคำถามต่างๆตามมา ซึ่งเทคนิค Starbursting นั้นก็ถือเป็นเทคนิคหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากในการ Brainstorming ครับ
เทคนิค Mind Mapping
การทำ Mind Mapping ถือว่าเป็นเทคนิคที่ท้าทายมากๆวิธีหนึ่งซึ่งคุณจำเป็นต้องนำเสนอไอเดียต่างๆอย่างมากมาย นับเป็นวิธีที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูงที่ต้องเชื่อมโยงและต่อยอดข้อมูลอย่างอิสระแต่ก็ต้องไม่ซ้ำกัน โดยเริ่มจากหัวข้อหรือคำถามเป็นตัวตั้งบนศูนย์กลางของ Mind Map และแตกกิ่งก้านสาขาออกมาจากความคิดเห็นของแต่ละคน
เทคนิค Gap Filling
Gap Filling หรือหลายๆคนอาจคุ้นๆกับคำว่า Gap Analysis ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีแนวทางแบบเดียวกันในการระบุถึงสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และหาช่องหว่างระหว่างสองสิ่งนี้ให้เจอเพื่อเติมเต็มมันให้ได้ โดยลักษณะการตั้งคำถามนั้นจะชี้นำไปถึงวิถีทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้อย่างไร ส่วนใหญ่ Gap Filling นั้นจะเน้นไปเรื่องของการหาวิธีการต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นครับ
เทคนิค Role Storming
เทคนิค Role Storming เน้นในเรื่องของการแสดงบทบาทสมมติในการทำธุรกิจจริงๆ ซึ่งนั่นก็หมายถึงทุกคนจะได้แสดงละครสมมติว่าเป็นลูกค้าหรือตัวธุรกิจในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เทคนิคนี้จะทำให้คุณได้คำตอบและการแลกเปลี่ยนกันในหลายๆเรื่องโดยคุณอาจจะได้แนวคิดใหม่ๆจากทีมงานมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เทคนิค Brain-netting
อีกเทคนิคสมัยใหม่ที่ดีสำหรับการระดมสมอง คือ Brain-netting โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงความคิดของทีม ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องมือออนไลน์ เช่น Google Drive และแพลตฟอร์มบนคลาวด์ เช่น Stormboard เพื่อสร้างแนวคิดที่มีคุณภาพและไม่ซ้ำใคร
เทคนิค Round Robin Brainstorming
เทคนิคที่ทุกๆคนที่เข้าร่วมการระดมสมองนั้นต้องผลัดกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยต้องรอเป็นรอบๆซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้สมาชิกคนใดคนหนึ่งของทีมกุมอำนาจและเสนอแนะทุกความคิดเห็นของคนอื่นๆ และคุณก็สามารถตั้งกฎการระดมความคิดร่วมกับเทคนิคนี้ได้ เช่น หากมีการกล่าวถึงความคิดของใครบางคนแล้ว พยายามส่งเสริมให้ได้คิดแนวคิดใหม่เพื่อไม่ให้ซ้ำกับแนวคิดแรก เทคนิค Round Robin Brainstorming จะเหมาะกับองค์กรขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ที่มุ่งหวังให้ความสำคัญของทุกๆคนแบบเท่าเทียมกันให้ทุกๆคนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งต่างๆไปพร้อมๆกัน
เทคนิค Rapid Ideation
เทคนิคนี้ถือว่ารวดเร็วตามชื่อครับเพราะเป็นการระดมสมองอย่างรวดเร็วไม่ต้องพูดอะไรมากมาย โดยผู้นำในการระดมสมองนั้นต้องระบุถึงหัวข้อการระดมสมองแบบชัดเจนในระยะเวลาอันจำกัดไม่ยืดยาวจนเกินไป หรือเรียกได้ว่าคิดอะไรให้ตรงประเด็นไปเลยไม่เหมือนเทคนิคอื่นๆที่อาจต้องค่อยๆขยายภาพไปเรื่อยๆและใช้เวลานาน เทคนิคนี้จึงเหมาะกับพนักงานหลายๆคนที่อาจไม่ค่อยชอบการประชุมอะไรนานๆเพราะมีอะไรต้องทำอีกเยอะ
เทคนิค Reverse Brainstorming
หลายๆเทคนิคจะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาแต่การ Reverse Brainstorming หรือการระดมสมองแบบย้อนกลับนั้นจะเป็นการทำความเข้าใจถึงวิธีการว่า “เราจะสร้างให้เกิดปัญหานี้อย่างไรได้บ้าง” เพื่อหาวิธีในการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เรียกได้ว่าเทคนิคนี้หากนำมาใช้ดีๆจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งในการหาทางแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่งนับเป็นเทคนิคที่มีความท้าทายวิธีหนึ่ง
เทคนิค Stepladder Brainstorming
เทคนิคที่เรียกว่า Stepladder Brainstorming หรือการระดมสมองแบบขั้นบันไดได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 1992 และยังเป็นที่นิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน เทคนิคนี้เป็นการแบ่งปันความคิดเห็นจากคนๆหนึ่งก่อนที่จะมาแบ่งปันกันในกลุ่มครับ โดยกระบวนการทั้งหมดจะเริ่มต้นโดยผู้นำการระดมสมองจะโยนคำถามหรือปัญหาไปยังคนในกลุ่ม และให้ทั้งหมดออกไปรอข้างนอกห้องจนเหลือแค่ 2 คนเท่านั้นเพื่อให้ทั้ง 2 คนนี้แบ่งปันความคิดเห็นหรือไอเดียต่างๆด้วยกัน หลังจากนั้นผู้นำการระดมสมองก็จะเรียกให้คนที่รออยู่ข้างนอกห้องเข้ามารวมกลุ่มกับ 2 คนที่อยู่ในห้อง และให้คนที่ 3 ที่เข้ามานั้นนำเสนอไอเดียครั้งแรกโดยทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบทั้งกลุ่ม เทคนิคนี้มีข้อดีก็คือการช่วยให้คนที่ค่อนข้างอายที่จะนำเสนอหรือพูดในห้องที่มีคนเยอะๆและมีสิทธิมีเสียงในการนำเสนอโดยไม่ได้รับผลกระทบจากความคิดเห็นก่อนหน้านี้
เทคนิค “What If” Brainstorming
เทคนิคนี้เรียกว่าเป็นการตั้งคำถาม “What if” หรือ “จะเกิดอะไรขึ้นหาก” เพื่อให้ได้มุมมองใหม่ๆที่แตกต่างเป็นจากเดิมในการทำโครงการต่างๆ เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางและเตรียมพร้อมสำหรับมันนั่นเองครับ
เทคนิค Trigger Storming
เทคนิค Trigger Storming เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้คุณคิดออกนอกกรอบเดิมๆที่มีอยู่โดยผู้นำการระดมสมองนั้นจะคอยจุดประเด็น หัวข้อต่างๆ หรือเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้คุณฟัง และมีการตั้งคำถามปลายเปิดกลับมายังผู้เข้าร่วมทั้งหมด เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องราวและสถานการณ์ต่างๆที่ดียิ่งขึ้นจนกลายเป็นแนวทางใหม่ๆในการทำโครงการต่างๆ
เทคนิค Change of Setting
เทคนิค Change of Setting นี้เชื่อว่าฉากหรือสถานที่มีผลอย่างมากในการคิดอะไรใหม่ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เทคนิคนี้จะโดดเด่นในเรื่องของการหาสถานที่ใหม่ๆในการระดมสมองครับ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการทำงาน และความรู้สึกของทีมงาน ลองนึกดูครับว่าเวลาคุณทำงานในแบบเดิมๆบรรยากาศเดิมๆหรือที่เดิมๆซ้ำๆเป็นเวลาหลายวันหรือหลายเดือนก็คงรู้สึกเบื่อหน่ายและสมองตื้อๆตันๆ ซึ่งการเปลี่ยนสถานที่ในการทำงานก็อาจส่งผลดีจึงกลายเป็นหนึ่งเทคนิคการระดมสมองที่น่าลองเลยทีเดียว
อย่างที่หลายๆคนทราบกันครับว่าการระดมสมองนั้นจะช่วยให้การทำงานในโครงการต่างๆสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้ทีมงานได้พัฒนาศักยภาพในด้านความคิดสร้างสรรค์รวมถึงการวิเคราะห์และเปิดมุมมองในด้านต่างๆ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อทั้งการพัฒนาองค์กรและกับตัวเอง ดังนั้นการเลือกเทคนิคหรือวิธีการระดมสมองนั้นก็สำคัญที่คุณก็จำเป็นต้องดูทั้งวัตถุประสงค์รวมถึงบุคลิกลักษณะของทีมงานด้วยเช่นเดียวกันครับ
Very quickly this site will be famous amid all blogging and site-building users, due to it’s fastidious content