Difference Styles Employees at Work

การรับคนเข้าทำงานอาจดูเป็นเรื่องไม่ยากเย็นเท่าไหรนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักทีเดียวในการที่จะตรวจสอบว่าใครมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ทั้งเพศ อายุ การศึกษา ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่พื้นฐานแต่ยังมีคุณสมบัติอีกหลายอย่าง ที่องค์กรมองหาจากพนักงานอยู่อีกครับ เรามาดูกันครับว่าคุณสมบัติที่บรรดาผู้บริหารมองหาจากพนักงานใหม่ๆนั้นมีอะไรกันบ้าง

Grey Arrow

ทุ่มเทในการทำงาน

แน่นอนครับว่าความทุ่มเท การทำงานหนัก เพื่อองค์กรเป็นสิ่งที่องค์กรนั้นมองหาจากตัวพนักงานทุกๆคน ที่นอกเหนือจากจะทำให้ผู้บริหารมีความชื่นชอบและสร้างความไว้วางใจแล้ว ยังช่วยให้องค์กรนั้นขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีส่วนในการกระตุ้นให้เพื่อนร่วมงานนั้นมีการพัฒนาและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานไปด้วยกัน ซึ่งนอกเหนือจากการทำงานอย่างเต็มที่ในเวลางานแล้ว อาจจำเป็นต้องทำในช่วงเวลาพิเศษเมื่อมีกิจกรรมหรือโครงการที่สำคัญๆด้วยนะครับ

ทัศนคติเชิงบวก

ความคิดบวกจะช่วยให้องค์กรเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่เสมอ และยังช่วยให้บรรยากาศการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงลูกค้านั้นมีแต่ความสดชื่น คงไม่มีองค์กรไหนอยากได้พนักงานที่มีความคิดที่หดหู่ เชิงลบ และไม่สร้างสรรค์ใช่ไหมละครับ

ประสบการณ์

ประสบการณ์นั้นจำเป็นมากกับทุกๆองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งหัวหน้างาน หรือตำแหน่งสูงๆที่จำเป็นต้องคุมทีมงานต่างๆ เพราะประสบการณ์นั้นจะช่วยให้การบริการจัดการงานต่างๆรวดเร็วขึ้น ผิดพลาดน้อยลง ไม่ต้องเสียเวลาในการฝึกฝนมากมาย และยังสร้างความเคารพในการทำงาน รวมถึงความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับทีมงานอีกด้วยครับ

ความทะเยอทะยาน

ความทะเยอทะยานในที่นี้หมายถึง การอยากทำงานให้ได้ผลดีที่สุด มีความต้องการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ซึ่งใครที่มีความทะเยอทะยานในลักษณะนี้สามารถการันตีได้ว่าจะเข้าตาผู้บริหารเป็นอย่างแน่นอนครับ เพราะมันช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพขององค์กรให้สูงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นและอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดหมายก็ได้

ความรับผิดชอบ

นอกจากความทะเยอทะยานแล้วความรับผิดชอบก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับองค์กรได้ ลองคิดดูนะครับว่าหากผู้บริหารมอบภาระหน้าที่ในการดูแลโครงการต่างๆ แล้วพนักงานละเลยไม่ทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ก็คงอยู่กับองค์กรได้ไม่นานครับ เพราะมูลค่าความเสียหายและชื่อเสียงขององค์กรก็คงดับสลายไปด้วยเช่นกัน หากองค์กรมีพนักงานที่มีความรับผิดชอบในทุกส่วนงาน ก็สามารถการันตีว่างานจะเดินไวได้ใจลูกค้าแน่นอน

การทำงานเป็นทีม

หนึ่งในทักษะที่จำเป็นมากสำหรับการทำงาน คือ ความสามารถในการทำงานเป็นทีมครับ เพราะไม่มีองค์กรไหนสามารถดำเนินการจนประสบความสำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว จำเป็นต้องมีหลายส่วนงาน หลายทีม และหลายองค์ประกอบในการขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นทักษะในการเข้าสังคม การสื่อสารกับคนในองค์กรนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานเป็นทีมนั้นราบรื่น และยังสร้างบรรยากาศดีๆระหว่างทีมงานต่างๆได้อีกด้วย

ความซื่อสัตย์

ความซื่อสัตย์นั้นสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตำแหน่งงานที่เกี่ยวกับตัวเลข เช่น งานบัญชี งานจัดซื้อ ทีมขาย และส่วนงานอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสเกิดการช่อโกงหรือหาทางหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ทั้งแบบทางตรงและทางอ้อม คงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับองค์กรแน่นอนครับ ดังนั้นความไว้เนื้อเชื่อใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรนั้นเจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน ผู้บริหารจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าใครจะแอบทุจริตหรือทำอะไรที่ทำให้บริษัทเสียผลประโยชน์ไหมนั่นเองครับ

คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่องค์กรต่างๆกำลังมองหาจากพนักงาน ที่จะเข้ามาร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปข้างหน้า ในสภาวะที่มีคู่แข่งขันในตลาดอย่างมากมาย หากองค์กรใดได้พนักงานที่มีคุณสมบัติเหล่านี้เข้ามาทำงาน ก็สามารถการันตีได้เลยว่าองค์กรของคุณจะก้าวหน้าอย่างยั่งยืนได้ไม่ยากครับ


Photos by freepik – www.freepik.com

Share to friends

Tags



Related Posts

ฝึกสอนพนักงานอย่างไรให้มีทักษะที่เก่งขึ้น

การให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถในการทำงาน คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้องค์กรประสบความสำเร็จ และยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานโดยเฉพาะเมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงานกับองค์กร เค้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ซึมซับแนวทางและวิถีการดำเนินชีวิตภายในองค์กรนั้นๆ


10 วิธีสื่อสารกับพนักงานในองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ

หากคุณต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพนักงานในองค์กร ด้วยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่ส่งผลต่อทั้งความรู้สึกและคุณภาพในการทำงานของพนักงานภายในองค์กร ซึ่งนับเป็นหัวใจของการบริหารคนในองค์กรเพื่อความราบรื่นในการทำธุรกิจ บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ


10 ทักษะด้าน Digital ที่ควรมีในการทำงาน

ทักษะด้านดิจิทัล (Digital Skill) ได้กลายเป็นสิ่งต้องการของหลายๆบริษัท ที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งสู่การทำธุรกิจที่เน้นรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจำเป็นต้องหาพนักงานที่มีความรู้และทักษะในด้านการการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)


ความต่างของ Hard Skill กับ Soft Skill

Soft Skill และ Hard Skill เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติและความสามารถที่คุณมี ที่จำเป็นต่อการสมัครงาน ทุกครั้งเวลาคุณจะสมัครงานที่ไหนก็จำเป็นต้องกรอกข้อมูลที่นอกเหนือจาก ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน อายุ เพศ



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์