ถอดรหัส Brand DNA กับจุดเริ่มต้นของความแตกต่างอย่างแท้จริง

ในโลกของการสร้างแบรนด์ (Branding) การมี Brand DNA ที่โดดเด่นและชัดเจนนั้น แสดงให้เห็นถึงการมีแก่นแท้ของแบรนด์ (Brand Essence) ในระดับพื้นฐานที่สุด ที่เป็นตัวกำหนดเอกลักษณ์ ลักษณะ และคุณสมบัติโดยเฉพาะ สามารถแปลเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้นำทางธุรกิจ และหากคุณต้องการให้องค์กรของตนเติบโตอย่างยั่งยืน ก็จำเป็นต้องมีการสร้าง Brand DNA ที่แข็งแกร่ง


Automotive Branding Vocabulary รวมคำศัพท์เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์รถยนต์

อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Industry) คือ หนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก และแบรนด์ต่างๆก็ไม่ได้ถูกตัดสินแค่เพียงจากความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย หรือดีไซน์เพียงเท่านั้น แต่ยังถูกวัดและประมวลผลจากความรู้สึกทางอารมณ์ (Emotional) สถานะ (Status) และความเชื่อมั่น (Trust) ตั้งแต่เรื่องราวความเป็นมา (Heritage) วิศวกรรม (Engineering) ไปจนถึงประสบการณ์ (Experience) และสมรรถนะ (Performance)


วิธีตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับคลินิกและโรงพยาบาล (Clinics and Hospitals)

การตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจประเภทคลินิกและโรงพยาบาล จะต้องเป็นชื่อที่สร้างความไว้วางใจให้ได้ในทันที และชื่อเหล่านี้ควรสื่อถึงความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) ความมั่นคง (Stability) และความเมตตา (Compassion) ซึ่งแตกต่างจากชื่อแบรนด์ด้านสุขภาพและความงามทั่วๆไป เพราะสำหรับคนจำนวนมากนั้น การเลือกผู้ให้บริการด้านสุขภาพเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ


วิธีตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับสำนักกฎหมาย (Law Firms) และที่ปรึกษา (Consultancies)

สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับสำนักกฎหมาย (Law Firms) และที่ปรึกษา (Consultancies) การตั้งชื่อนั้นเป็นมากกว่าแค่สิ่งบ่งชี้ความเป็นตัวตน (Identity) แต่เป็นสัญญาณของความน่าเชื่อถือ (Credibility) ความเชี่ยวชาญ (Expertise) และความเป็นมืออาชีพอย่างสูง (Professionalism) ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์สินค้ารวมไปถึงธุรกิจทั่วๆไป ชื่อในกลุ่มธุรกิจนี้มักจะเน้นความเป็นทางการ และจะเน้นมากกว่าความคิดสร้างสรรค์


Regenerative Branding & Marketing เมื่อแบรนด์ไม่ได้แค่รักษ์โลก แต่ต้องช่วยเยียวยาโลก

เป็นเวลาหลายสิบปีที่แบรนด์และธุรกิจ ต่างมุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสียหาย การลดขยะ และการชดเชยผลกระทบเชิงลบ แต่นับตั้งแต่เราได้เข้าสู่ยุควิกฤตทางสิ่งแวดล้อม การแค่ “ทำในสิ่งที่ไม่แย่” นั้นก็คงจะไม่เพียงพออีกต่อไป และนี่คือที่มาของคำว่า “การสร้างแบรนด์และตลาดแบบฟื้นฟู” (Regenerative Branding and Marketing) ซึ่งเป็นปรัชญาใหม่


วิธีตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ (Health and Wellness)

แบรนด์ด้านการดูแลสุขภาพ (Health and Wellness) อยู่ในจุดตัดระหว่าง “วิทยาศาสตร์” (Science) และ “ไลฟ์สไตล์” (Lifestyle) ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไปจนถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย การตั้งชื่อแบรนด์ให้กับธุรกิจนี้ ต้องสร้างความมั่นใจควบคู่ไปกับความรู้สึกที่เข้าถึงง่ายและให้กำลังใจกัน ซึ่งต่างจากผลิตภัณฑ์ยา ที่มีข้อจำกัดด้านการสื่อสารมากกว่า


Brand Clarity กับจุดยืนที่คนรุ่นใหม่ต้องการความชัดเจนจากแบรนด์

หากย้อนกลับไปในอดีตเราจะเห็นแบรนด์ต่างๆ ที่มุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว โดยเลือกที่จะไม่แสดงจุดยืนใดๆอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบันโดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Z และ Gen Alpha ที่หลายๆสำนักวิจัยได้บอกตรงกันว่า เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ความชัดเจนในจุดยืนต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้การวางตัวเป็นกลางนั้นไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลดีมากสักเท่าไหร่ เพราะด้วยความที่คนรุ่นใหม่เหล่านี้ จะมีความตื่นตัวทางสังคมและขับเคลื่อนด้วยคุณค่าบางอย่าง และพวกเขาก็เชื่อมต่อถึงกันบนโลกดิจิทัล ที่มีความคาดหวังว่าแบรนด์ที่พวกเขาเลือกซื้อนั้น จะต้องความชัดเจน (Brand Clarity) และมีความจริงใจ (Honest)


วิธีตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจ Travel Agencies และ Booking Platforms

ธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับทัวร์หรือการท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สามารถจุดไฟให้คนอยากออกไปท่องเที่ยว ได้ผจญภัย ได้หนีจากชีวิตเดิมๆ ไม่ว่าคุณจะเปิดบริษัททัวร์เล็กๆ เปิดเว็บไซต์สำหรับจองที่พัก หรือทำบริษัทนำเที่ยวต่าง และการตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจในกลุ่มนี้ ก็มักจะมีความพิเศษที่หากทำให้คนรู้สึกเคลิ้ม เพลิดเพลิน และดูน่าเชื่อถือด้วย


จุดสัมผัสของแบรนด์ (Brand Touchpoints) กับโอกาสสร้างภาพลักษณ์และความประทับใจ

แบรนด์อาจถูกสร้างขึ้นหรืออาจถูกทำลายได้ จากเรื่องของการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Engagement) ซึ่งถือเป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ และการสร้างปฏิสัมพันธ์เหล่านี้เรามักจะเรียกว่า “จุดสัมผัสของแบรนด์” (Brand Touchpoints) ตั้งแต่เว็บไซต์ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ วิธีการที่ทีมงานของคุณรับโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งกลิ่นในร้านค้า แต่ละจุดสัมผัสล้วนสร้างความประทับใจ และผลรวมของความประทับใจทั้งหมดนี้ ก็จะเป็นตัวกำหนดว่าผู้คนรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์ของคุณ


สร้างโลกแห่งประสบการณ์ให้กับแบรนด์ด้วย Immersive Experience

หากคุณต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนในปัจจุบัน การทำอะไรแบบเดิมๆอาจไม่ได้ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะผู้บริโภคในยุคใหม่ไม่ได้ต้องการการถูกยัดเยียด ด้วยการขายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการการเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่ง และนี่คือจุดที่การสร้าง “ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ” (Immersive Experience) ได้กลายมาเป็นอาวุธที่สำคัญของการสร้างแบรนด์ (Branding) ตั้งแต่การออกแบบที่กระตุ้นประสาทสัมผัส (Sensory Design)


triangle
copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์