ความขัดแย้งหรือ Conflict ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ครับ โดยเราจะเห็นความขัดแย้งแบบต่างๆทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน หลายๆไอเดียที่คุณนำเสนอในการทำงานหรือการพูดคุยกับคนในทีม อาจนำไปสู่ปัญหาหรือความขัดแย้งในการสื่อสารได้อยู่เสมอ โดยหากปล่อยประละเลยไม่ได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น ก็อาจส่งผลต่อการทำงานระหว่างทีมและการติดต่อสื่อสารในเรื่องต่างๆทำให้เกิดความเข้าใจผิด ความรู้สึกไม่ดี อารมณ์ที่ขุ่นมัว ทัศนคติที่แย่ลง ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบกับการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันได้ แล้วเราจะแก้ปัญหาความขัดแย้งในการสื่อสารเหล่านี้ได้อย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ
5 วิธีสำหรับการสื่อสารเพื่อลดความขัดแย้ง
โดยปกติทั่วๆไปการลดความขัดแย้งในการสื่อสารจะมีอยู่ด้วยกัน 5 วิธี ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1. การรองรับ
วิธีแบบรองรับหรือบางครั้งอาจเรียกว่ายอมจำนน ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ ด้วยการที่ฝ่ายหนึ่งรองรับอีกฝ่ายหนึ่งโดยการให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการหรือช่วยเหลือบางอย่าง วิธีนี้ถือว่าได้ผลดีระดับหนึ่งครับเพราะมันช่วยลดโอกาสการโต้เถียงกันให้เบาลง ด้วยการเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นพูดมีเหตุผลและมีประเด็นอยู่บ้างและก็ยอมทำตามหรือเสนอตัวรับทำในสิ่งที่อาจจะยังหาข้อสรุปไม่ได้ เช่น กรณีที่มีงานสำคัญเข้ามาหนึ่งชิ้นคุณอาจเล็งเห็นแล้วว่า หนึ่งในทีมงานของคุณนั้นมีงานล้นมือและไม่ได้พักมาเป็นเวลาหลายวัน จึงรับอาสาเป็นผู้รับงานนี้แทนซึ่งเป็นการทำงานช่วยเหลือกันในทีมให้บรรลุเป้าหมาย เป็นต้น
2. การหลีกเลี่ยง
วิธีนี้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดแต่ก็สามารถใช้ในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้ ซึ่งนับเป็นวิธีที่หลายๆคนนำมาใช้กันมากที่สุดวิธีหนึ่งครับ การหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งต่างๆไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่มันจะสะสมความขุ่นข้องหมองใจ และอาจเกิดความรุนแรงมากขึ้นในอนาคตทำให้ยากต่อการแก้ไขได้ เช่น คุณมักจะหลีกเลี่ยงการถกเถียงกันในการประชุมงานหรือโครงการ ด้วยการปล่อยให้มันผ่านไปเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน แต่งานที่ออกมาอาจไม่ได้ดีเท่าที่เป็นและส่งผลเสียในอนาคต
3. ประนีประนอม
การประนีประนอมมักจะถูกใช้ในความขัดแย้งทางการสื่อสารซึ่งนับเป็นวิธีที่ดีที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การประนีประนอมระหว่าง 2 ฝ่ายจะแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจแบบผู้ใหญ่ที่มีหลักการและเหตุผล สามารถแสดงให้เห็นถึงทั้งวิธีการแก้ไขและการหาทางออกให้กับปัญหาได้ หรือเราเรียกว่าเป็นการแก้ไขแบบชนะทั้งคู่ (Win-Win)
4. สร้างความร่วมมือ
การสร้างความร่วมมือร่วมใจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดความขัดแย้งได้อย่างรวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่ง ซึ่งดูแล้วคล้ายกับการประนีประนอมครับ แต่เพิ่มเติมด้วยการมานั่งคุยกันอย่างเปิดอกและพยายามหาวิธีในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และนั่นต้องแสดงถึงความตั้งใจและความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เห็น และมาช่วยกันทำงานจะดีกว่าการมานั่งทะเลาะกัน
5. การแข่งขัน
การแข่งขันจะดูเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้การสื่อสารนั้นลดความขัดแย้งลง และมีหลายๆครั้งที่ถูกนำมาใช้เช่นกัน เพราะการแข่งขันจะเป็นการตัดสินให้เกิดผู้แพ้และผู้ชนะ จะได้เห็นกันไปเลยว่าใครที่เป็นฝ่ายถูกและเป็นฝ่ายที่ควรได้รับเครดิตนั้นไป ซึ่งนั่นได้กลายเป็นวิธีลดความขัดแย้งวิธีหนึ่ง หรือเรียกวิธีนี้ว่า Win-Lose หรือมีฝ่ายหนึ่งที่ต้องเจ็บตัวนั่นเอง
เทคนิคเพื่อช่วยลดความขัดแย้งในการสื่อสาร
จาก 5 วิธี ที่ช่วยลดความขัดแย้งในการสื่อสารที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมีเทคนิคดีๆที่ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาการสื่อสารให้ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนี้
1. การเป็นผู้ฟังที่ดีและตั้งใจ
ต้องแยกระหว่างการเป็นผู้ฟังธรรมดากับผู้ฟังที่ดีให้ออกจากกันก่อนครับ เพราะผู้ฟังทั้ง 2 ประเภทนั้นจะเลือกฟังไม่เหมือนกัน หากเป็นผู้ฟังแบบธรรมดานั้นก็จะฟังแล้วตีความหมายจากสิ่งที่ได้ยินเพียงเท่านั้น แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีและตั้งใจจะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ผู้ส่งสารถ่ายทอดออกมาแล้วคิดตามรวมไปถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่ตลอดเวลาด้วย
การรับฟังอย่างตั้งใจและกระตือรือร้นนั้นถือว่าจำเป็นต่อการแก้ไขข้อขัดแย้ง เพราะเมื่อคุณให้ความสนใจฟังคนอื่นๆอย่างตั้งใจก็จะสามารถช่วยหาแนวทางการแก้ปัญหาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
2. เขียนรายละเอียดข้อขัดแย้งให้ชัดเจน
หลายๆครั้งเรามักจะพูดหรือสื่อสารกันอยู่หลากหลายประเด็นแต่ก็อาจมีบางประเด็นที่ตกหล่นไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเรื่องสำคัญๆก็คงจะทำให้การสื่อสารนั้นขาดประสิทธิภาพได้ ดังนั้นการเขียนประเด็นต่างๆลงไปเป็นลายลักษณ์อักษรจึงมีความสำคัญมาก และยิ่งเป็นเรื่องหรือประเด็นที่เป็นปัญหาที่อาจสร้างความขัดแย้ง ก็ยิ่งจำเป็นต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะคุณสามารถนำเอาไปแตกประเด็นความคิดได้มากขึ้นทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกนึกคิด รวมถึงนำไปหาทางแก้ไขเพื่อให้เกิดความเข้าใจกับคนอื่นๆได้ดีมากยิ่งขึ้น
3. การแสดงบทบาทสมมติ
หนึ่งในวิธีที่ช่วยนำไปสู่การปฏิบัติได้เห็นภาพมากที่สุด คือ การแสดงละครหรือบทบาทสมมติ นั่นก็คือ การจำลองสถานการณ์ที่เกิดความขัดแย้งละการนำเสนอเรื่องราวที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งดังกล่าว มันจะทำให้คุณเห็นและเข้าใจสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนมาก และคุณจะได้รู้สึกถึงอารมณ์ร่วมในการเข้าใจและหาวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ดีกว่าเดิม
4. มีความสงสัยใคร่รู้
ความสงสัยใคร่รู้ไม่ใช่การเข้าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านครับ แต่เป็นเรื่องของการตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา และให้โอกาสได้อธิบายถึงความคิดและสาเหตุที่แสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่อาจสร้างความขัดแย้งต่างๆ ตัวอย่างเช่น หากคู่กรณีของคุณอ้างว่าเขาโกรธคุณก็อย่าเพิ่งเริ่มก้าวร้าวใส่เขา แต่ให้ถามเขาว่า “คุณโกรธฉันทำไม ฉันทำอะไรที่ไม่ควรทำหรือไม่”
5. เอาใจใส่และเห็นอกเห็นใจ
อีกวิธีหนึ่งในการขจัดข้อขัดแย้งๆทางการสื่อสารต่างๆที่เกิดขึ้น คือ การที่คุณต้องเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ แสดงความจริงใจ ใส่ใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มันจะทำให้คุณเปิดโลกในอีกมุมหนึ่งที่อาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน และตระหนักถึงปัญหาความขัดแย้งว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อที่คุณจะได้หาวิธีแก้ไขความขัดแย้งนั้นให้ออกมาดีที่สุดนั่นเอง
6. เปลี่ยนคำพูดให้ดูเหมาะสม
ในทุกๆความขัดแย้งถ้าคุณสังเกตดีๆจะเห็นว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกเป็นผู้ถูกกระทำเสมอ และมักจะถูกสาดกันด้วยคำพูดที่ทำให้รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจ โดยส่วนใหญ่เรามักจะโยนคำพูดเชิงถูกกระทำไปใส่กับคู่สนทนาอยู่บ่อยๆ เช่น คุณทำให้ผมรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก คุณทำให้งานออกมามันดูยุ่งยากและเข้าใจยากมาก แต่หากจะสื่อสารเพื่อลดความขัดแย้งลงก็อาจจะเปลี่ยนคำพูดให้ดูเบาลงบ้างด้วยการเปลี่ยนจาก “คุณ” เป็น “ผม” ดูบ้าง เช่น ผมค่อนข้างไม่สบายใจกับสิ่งที่คุณพูดสักเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่คุณนำเสนอมันยังคลุมเครือและอาจต้องปรับใหม่ในบางจุดนะ เป็นต้น เพื่อให้ความขัดแย้งนั้นลดระดับความร้อนแรงลงครับ
7. เคารพในความแตกต่าง
แม้ว่าจะเป็นการถกเถียงกันหรือการแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในสถานการณ์ต่างๆ แต่ก็ไม่ควรที่จะด้อยค่าในการตระหนักถึงความรู้สึกและการเคารพในความคิดที่แตกต่าง เพราะหากเรามัวแต่อยากจะเอาชนะกันเราจะลืมในจุดๆนี้ไป อาจทำให้เรื่องราวนั้นบานปลายได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละคนนั้นมีความคิดที่แตกต่างกันและก็คิดอยู่เสมอว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นค่อนข้างถูกเป็นทุนเดิม ดังนั้นคุณควรเข้าใจในเรื่องนี้และเก็บไว้ในใจเพื่อหาทางออกในการสื่อสาร ให้ออกมาไหลลื่นและไม่สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นหนักมากกว่าเดิม
8. ไม่หลีกเลี่ยงปัญหาใดๆ
หลายๆคนพยายามที่จะใช้วิธีการหลีกเลี่ยงเพื่อไม่เอาตัวเองเข้ามาอยู่ในความขัดแย้ง แต่ในความเป็นจริงมันทำอย่างนั้นไม่ได้เสมอไปใช่ไหมครับ คุณอาจจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ที่ระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกันอยู่ดี ดังนั้นการหลีกเลี่ยงปัญหามันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะมันจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะเรียนรู้ปัญหาหรือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กลายเป็นคนที่ไม่มีทักษะในการแก้ไขปัญหาใดๆ (Problem-Solving Skill) ซึ่งนั่นจะกลายเป็นจุดอ่อนในชีวิตของคุณเอง ดังนั้นถ้าเจอปัญหาลองนั่งเปิดอกคุยกันแบบตรงๆน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
9. กล้าเผชิญหน้า
บางครั้งคุณอาจเป็นต้นเหตุของเรื่องราวความขัดแย้งต่างๆ แต่พยายามที่จะหลบหน้าเพราะคิดว่าจะต้องโดนจ้องถล่มจากคู่กรณีอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็ฟังดูเหมือนจะดีที่ได้ปกป้องตัวเองแต่เรื่องมันก็ไม่จบถูกไหมครับ ทางที่ดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันแบบตรงๆ และเพื่อให้ความขัดแย้งนั้นไม่กลายเป็นเรื่องส่วนตัว คู่สนทนาก็ต้องมุ่งประเด็นไปที่เนื้องานเท่านั้นไม่ควรเอาเรื่องให้กลายเป็นความขัดแย้งส่วนตัวเช่นกัน นั่นจะช่วยให้ความขัดแย้งไม่บานปลายจนกลายเป็นประเด็นส่วนตัวนั่นเอง และช่วยกันหาทางออกจะดีกว่า
10. เข้าใจคุณค่าของการสร้างความสัมพันธ์
ทุกครั้งของความขัดแย้งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เริ่มแตกแยก ดังนั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องการสูญเสียความสัมพันธ์ ก็ควรตระหนักถึงคุณค่าขอคำว่าความสัมพันธ์ทั้งในฐานเพื่อนและการทำงาน อย่าเอาความคิดเห็นที่ขัดแย้งมาสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระว่างกัน คุณควรระวังคำพูดคำจาและท่าทางในการแสดงออกในทุกๆครั้งของการสนทนาและการสื่อสาร เพราะความสัมพันธ์มันยิ่งใหญ่กว่าเรื่องของปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นครับ
ความขัดแย้งนั้นไม่ใช่เรื่องดีซึ่งมันไม่ควรจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานของคุณ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีการกระทบกระทั่งและแตกแยกทางความคิดกันบ้าง แต่เพื่อให้บรรยากาศในแต่ละวันนั้นดีอยู่ตลอดเวลา ก็ลองทำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ดูซึ่งน่าจะช่วยให้การสื่อสารของคุณ ลดปัญหาหรือบรรเทาความขัดแย้งลงได้บ้าง
At this time I am going to do my breakfast, later than having
my breakfast coming yet again to read additional news.
My family members every time say that I am killing my time here at net, except I know I am getting familiarity daily by reading thes
pleasant posts.
Thanks for one’s marvelous posting! I seriously enjoyed reading it, you can be a great author.I will
be sure to bookmark your blog and definitely will come back someday.
I want to encourage one to continue your great work,
have a nice holiday weekend!
Generally I do not learn article on blogs, but I would like to say that this write-up very forced
me to try and do it! Your writing style has been surprised me.
Thanks, very nice post.
Hello there! Do you know if they make any
plugins to help with Search Engine Optimization? I’m trying to get
my blog to rank for some targeted keywords but I’m not seeing very good gains.
If you know of any please share. Cheers!
My family always say that I am killing my time here
at web, however I know I am getting knowledge all the time
by reading thes nice articles.
I’d like to thank you for the efforts you’ve put
in writing this blog. I am hoping to see the same high-grade content by you later on as well.
In fact, your creative writing abilities has motivated me to get my own site now 😉
It’s very effortless to find out any matter on web as
compared to textbooks, as I found this post
at this web site.
Ahaa, its good dialogue regarding this post here at this webpage, I have read all that, so
now me also commenting at this place.
There is definately a lot to find out about this subject.
I really like all of the points you have made.
Very nice post. I absolutely love this website.
Keep it up!
Having read this I believed it was really enlightening.
I appreciate you spending some time and effort to put this informative article together.
I once again find myself spending a lot of time both reading and
posting comments. But so what, it was still worthwhile!
Heya are using WordPress for your blog platform?
I’m new to the blog world but I’m trying to get started and create my own. Do you need
any html coding expertise to make your own blog?
Any help would be really appreciated!
My brother recommended I might like this blog. He was entirely right.
This post actually made my day. You cann’t imagine simply how much
time I had spent for this information! Thanks!
What i don’t understood is in fact how you’re now
not really a lot more well-appreciated than you may be right now.
You’re very intelligent. You already know therefore significantly on the subject of this matter, made me individually believe it from numerous
numerous angles. Its like women and men aren’t fascinated until it is
something to do with Lady gaga! Your individual stuffs outstanding.
Always deal with it up!
Hey there! This is kind of off topic but I need some guidance
from an established blog. Is it difficult to set up your own blog?
I’m not very techincal but I can figure things out pretty fast.
I’m thinking about setting up my own but I’m not sure where to begin.
Do you have any points or suggestions? Many thanks
I am now not positive the place you’re getting your information, however
great topic. I must spend a while studying much more or understanding more.
Thanks for great info I used to be in search
of this information for my mission.
whoah this blog is wonderful i like reading your posts.
Stay up the good work! You already know, lots of people are searching round
for this information, you could aid them greatly.