รายงานแนวโน้มภาพรวมฉบับล่าสุดจาก TCDC กับ Insight ของคนแต่ละ Generation ประจำปี 2022 จากทั่วทุกมุมโลก โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของคนแต่ละ Generation ในการเปิดรับสื่อ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ๆสำหรับแบรนด์สินค้าต่างๆ เรามาดูบทสรุปสั้นๆของ Insight คนแต่ละ Generation กันครับ
เจาะ Insight กลุ่ม Baby Boomer (1946-1964)
กลุ่ม Baby Boomer ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเลื่อนวัยเกษียณของตัวเองออกไปและใช้การปรับการทำงานเป็นที่บ้านในลักษณะโฮมออฟฟิศมากขึ้น มีความเครียดต่อสถานการณ์โควิด-19ที่น้อยกว่ากลุ่ม Generation อื่นๆที่ต้องเผชิญกับความกดดันในการทำผลงานให้ได้ตามเป้าหมาย และด้วยความที่เป็น Generation ที่อายุค่อนข้างมากแล้วจึงมีความกังวลกับปัญหาด้านสุขภาพ จึงเลือกที่จะไม่เสี่ยงตัวเองกับกิจกรรมภายนอกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้ตัวเองปลอดภัยมากที่สุดนั่นก็ส่งผลให้ Baby Boomer เป็นกลุ่มที่ออกไปท่องเที่ยวและกินอาหารตามร้านน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ Generation อื่นๆ แต่ก็ยังมีบางกลุ่มให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอยู่บ้างซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆโดยเฉพาะโรงแรมก็ต้องมีความยืดหยุ่นในการเลื่อนหรือปรับแผนการเดินทางได้ การบริหารจัดการกับสถานที่ที่เป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่แออัดเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน
แนวทางการเข้าถึงกลุ่ม Baby Boomer นั้นเรียกว่า “Zoom Effect” เพราะคนกลุ่มนี้ใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น มีการใช้งานโซเชียลมีเดียเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านออนไลน์และแชร์ข้อมูลต่างๆมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกว่า 75% ของ Baby Boomer นั้นมีบัญชีผู้ใช้ Facebook เป็นของตัวเองกันแล้ว และสถิติชี้ชัดว่ามีการสั่งของออนไลน์กว่า 67% เลยทีเดียวซึ่งเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆไปอย่างมาก ทำให้แบรนด์ต่างๆต้องหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกว่า 83% ของ Baby Boomer นั้นก็มีความสุขกับการจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หากขั้นตอนไม่ยุ่งยากและไม่สลับซับซ้อน และยิ่งมีการเสริมบริการต่างๆให้ประทับใจอย่างเช่น การส่งสินค้าแบบไร้การสัมผัส (No-Contact Delivery) แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำมาสนับสนุนสำหรับคนอายุ 60 ปีขึ้นไปก็จะยิ่งตอบโจทย์คนกลุ่มนี้
เจาะ Insight กลุ่ม Gen X (1965-1980)
กลุ่ม Gen X ยังคงให้ความสำคัญกับความมั่นคง บำนาญ กองทุน ประกันสุขภาพ เพราะต้องเป็นกำลังหลักของครอบครัว เป็นกลุ่มที่มีความกดดันและความเครียดในการทำงานรวมถึงชีวิตครอบครัวค่อนข้างสูง เพราะต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดีลูกต้องได้ดี งานก็ต้องทำให้ดี ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ต้องดี Gen X เป็นกลุ่มที่ควบคุมค่าใช้จ่ายค่อนข้างดีมีการวางแผนและอะไรก็ตามที่ช่วยใช้การใช้เงินนั้นมีค่ามากขึ้นก็เป็นผลดีกับคนกลุ่มนี้ เช่น การสะสมแต้มสะสมคะแนนนเพื่อแลกสินค้า การเป็นสมาชิกต่างๆ ช่องทางในการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็เป็น Facebook กับ YouTube แต่ก็ยังต้องไม่ลืมสื่อดั้งเดิม เช่น ป้ายโฆษณาและอีเมล์ Gen X ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์มากที่สุด เพราะมีประสบการณ์ในการใช้สินค้าและมีอิทธิพลทางความคิดจนหันไปเป็น Influencer หรือ KOL ในการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของสินค้ารวมไปถึงการเป็นไลฟ์โค้ชในการส่งมอบสิ่งดีๆให้ผู้อื่น และผลจากสถานการณ์โควิด-19นั้นทำให้กลุ่ม Gen X มองหาสินค้าหรือบริการเกี่ยวกับอาหารเสริมและสุขภาพมากยิ่งขึ้นรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง
เจาะ Insight กลุ่ม Millennials (Gen Y) (1980-1994)
Generation แห่งความคิดสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆอยู่เสมอโดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ มีความเชื่อมั่นในตัวเองและอุดมการณ์ในตัวเองพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองและมีส่วนในการขับเคลื่อนสังคม โดยมากกว่า 73% ของกลุ่ม Millennials นั้นใช้โซเชียลมีเดียเป็นหลักและยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น เดินทางท่องเที่ยว ตั้งแคมป์ จิบกาแฟตามร้าน นับเป็น Generation ที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านกาแฟค่อนข้างมากจนเกิดธุรกิจร้านกาแฟขึ้นเยอะมากในช่วงหลังๆ กลุ่ม Millennials ยังมีความสนใจในการเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้าน การตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน โดยจะเลือกโทนสีที่สะท้อนถึงตัวเองโดยเฉพาะในสไตล์แบบมินิมอลมากกว่าสไตล์หรูหรา คอร์สออกกำลังกาย การเข้าฟิตเนส การกินอาหารคลีน ก็ยังเป็นกิจกรรมเด่นของคนกลุ่มนี้เช่นกัน
กลุ่ม Millennials นับเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19มากที่สุดกลุ่มหนึ่งที่ต้องออกจากงานและเจอกับความไม่แน่นอนในตำแหน่งหน้าที่การงานในอนาคต ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนในบ้านรวมถึงลูกๆไปด้วยทำให้การเรียนออนไลน์ของลูกๆก็มีความเครียดและความวิตกกังวลตามไปด้วย แม้ว่าจะเป็นผลการสำรวจในประเทศอเมริกาก็ตามแต่ในหลายๆประเทศรวมถึงประเทศไทยก็มีแนวโน้มที่คล้ายๆกัน กลุ่ม Millennials ยังคงให้ความสนใจกับแบรนด์ที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน มีความจริงใจ และซื่อสัตย์กับลูกค้า เพราะพวกเขามองลึกไปถึงแบรนด์ที่สามารถสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมในเชิงบวกได้
เจาะ Insight กลุ่ม Gen Z (1997-2012)
Gen Z เป็น Generation แห่งความหวังที่แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนและอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่จะกลายเป็น Influencer และมีการใช้ศัพท์แสงใหม่ๆจนกลายเป็นเทรนด์ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ นับเป็นกลุ่มที่กระจายข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ได้เร็วกว่ากลุ่ม Millennials เสียอีก และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นต้นมาทำให้กลุ่ม Gen Z ใช้ YouTube มากขึ้น มีการสตรีมมิ่งเกม การไลฟ์สดขายสินค้า และเริ่มหาเลี้ยงชีพผ่านช่องทาง YouTube และกลุ่มต่างๆมากขึ้น จนกลายเป็น Financial Influencer หรือกลุ่มคนที่ทำเงินได้อย่างมากมายจากสปอนเซอร์และแฟนคลับ สนใจการเรียนคอร์สออนไลน์แบบสั้นๆเพื่อเติมเต็มความรู้ด้วยตัวเอง
กลุ่ม Gen Z พร้อมจะสนับสนุนแบรนด์ที่รักษ์โลกงาน Craft งานฝีมือต่างๆ และจะต่อต้านแบรนด์ที่ไม่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม เป็น Generation แห่งความเท่าเทียมไม่แบ่งแยกเพศไม่ยึดถือเรื่องอายุ ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีแนวทางหรือภาพลักษณ์ที่เข้ากับตนเอง มีเรื่องราวดีๆในการนำเสนอโดยไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องมีดาราหรือ Influencer มาช่วยโปรโมท และสินค้าที่ขายดีกับกลุ่ม Gen Z ก็เป็นพวกอุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพจัดแสงที่มีลูกเล่นต่างๆ รวมถึงมีธีมเป็นของตัวเองในการจัดห้องนอนห้องนั่งเล่น และของประเภท DIY ก็เป็นที่สนใจของคนกลุ่มนี้
เจาะ Insight กลุ่ม Alpha (2010-2024)
Gen Alpha นับเป็น Generation ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19มากที่สุดที่ต้องเก็บสะสมความวิตกกังวลไว้แบบไม่รู้ตัว เพราะเกิดมาในยุคแห่งวิกฤตต่างๆจึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันต่างๆในการคลายความกังวลและฝึกสมาธิ ถือเป็น Generation ที่เติบโตมากับเทคโนโลยีและการใช้เครื่องมือต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันดูหนังฟังเพลงอย่าง YouTube, Netflix, Disney+ การใช้ไอแพดและสมาร์ทโฟนได้อย่างคล่องแคล่วซึ่งก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลของพ่อแม่
Screen-Free Kids กลายเป็นแนวทางการทำการตลาดของสินค้ากับคนกลุ่มนี้ หรือที่เราจะเริ่มเห็นสถานที่ต่างๆนั้นจัดพื้นที่ให้กับ Gen Alpha ได้เล่นในขณะที่รอพ่อแม่ไปช็อปปิ้งซื้อสินค้า เพื่อให้เด็กพักสายตาจากการเล่นมือถือหรือแทปเล็ตต่างๆ และ Gen Alpha นั้นยังเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลกับการซื้อสินค้าของพ่อแม่ด้วยเช่นกันโดยกว่า 50% เป็นรายจ่ายสำหรับอาหารเครื่องครัวและของเพื่อความบันเทิงของลูกๆ
Gen Alpha จะกลายเป็น Generation ที่เข้ามาครองพื้นที่บนโซเชียลมีเดียได้นานกว่า Generation อื่นๆ ซึ่งทำให้พวกเขามีบทบาทบนโลกออนไลน์ในการเป็น Influencer, Gamer, YouTuber ที่อาจเรียกสปอนเซอร์และสินค้าที่มาให้การสนับสนุนได้มากกว่า Generation อื่นๆเสียอีก หรือที่เรียกว่า Alphluence นั่นเอง
และทั้งหมดก็เป็นบทสรุปของ Insight ของคนแต่ละ Generation ที่ถูกรวบรวมมาจากทั่วโลก ซึ่งสถานการณ์โควิด-19กลายเป็นตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นโอกาสทางการตลาดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และสามารถวางแผนการทำธุรกิจที่เหมาะสมในอนาคต
Source: TCDC