
ในยุคปัจจุบันที่สถานการณ์วิกฤติ COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การใช้ชีวิตของผู้คนในทุกมิติ และแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อแบรนด์ต่าง ๆ ที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ไม่เว้นแม้แต่ในกลุ่มตลาดสินค้าแม่และเด็ก เพราะพฤติกรรมของแม่ ๆ บนโลกในวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง จากผลวิจัย “2021 Innovative & Disruptive Brand Solutions” โดย theAsianparent Thailand แพลตฟอร์มสำหรับแม่และเด็กที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถสรุปข้อมูลพฤติกรรมและเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปของคุณแม่ในยุค COVID-19 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เรามาดูกันครับว่าสิ่งที่แบรนด์ควรรู้มีอะไรบ้าง มีสิ่งไหนที่ควรรับมือเป็นพิเศษหรือไม่? และอะไรที่จะสามารถช่วยให้แบรนด์รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ช่องว่างแห่งความแตกต่าง เมื่อคุณแม่ในยุค 2021 มองตัวเองไม่เหมือนกับ “คุณแม่” ในสื่อโฆษณา

จากงานวิจัยของ theAsianparent ที่ได้รวบรวมสอบถามข้อมูลจากแม่ ๆ ในอาเซียนว่ามีมุมมองต่อภาพของแม่ที่ปรากฏในสื่อโฆษณาอย่างไรซึ่งคำตอบที่พบก็คือ รู้สึกว่าแม่ในโฆษณานั้นสวย มั่นใจ แต่เมื่อสอบถามว่าคุณแม่เหล่านั้นรู้สึกอย่างไรต่อตนเอง คำตอบที่ได้กลับมานั้นกลับแตกต่างเพราะพวกเขามีความรู้สึกที่ Negative ต่อตนเอง รู้สึกไม่มั่นใจ มีความกังวล มีความเครียด ซึ่งนั่นทำให้เกิดช่องว่างระหว่างสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอกับกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และยังสร้างความกดดันให้กับบรรดาแม่ในยุคปัจจุบัน ที่รู้สึกว่าเขาต้องพยายามมากขึ้นเพื่อเป็นคุณแม่ที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม เพื่อที่จะลดช่องว่างลดระยะห่างระหว่างแบรนด์กับตัวคุณแม่ในชีวิตจริง ทาง theAsianparent จึงได้คิด Solution ในการแก้ปัญหาดังกล่าวเชื่อมโยงแบรนด์กับเหล่าคุณแม่ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น และสร้าง Engagement ที่ดีให้กับคุณแม่ ซึ่ง Insight ที่ทาง theAsianparent ได้หยิบมาใช้ในการแก้ปัญหานี้ก็คือ การใช้ Words of mouth หรือการพูดปากต่อปาก เพราะเหล่าคุณแม่นั้นค่อนข้างเชื่อและไว้ใจคำบอกเล่าของคุณแม่ด้วยกันเอง และทำให้เกิด Solution ที่เรียกว่า VIP Parent Platform ซึ่งเป็นการรวบรวม Nano-Influencer และ Micro-Influencer ทั่วประเทศไทย ที่จะช่วยแบรนด์นำเสนอเข้าถึงและสื่อสารกับเหล่าคุณแม่ได้อย่างใกล้ชิดในหลากหลายรูปแบบ เช่น การทำ Product Review หรือการทำงานร่วมกับแบรนด์ในระยะยาวในฐานะ Brand Ambassador ใน Community ที่เหล่าคุณแม่ใช้งานอยู่จริง เป็นต้น
Tech First Mom เพื่อความเพียบพร้อม คุณแม่ยุคใหม่จึงใส่ใจโลก Digital มากขึ้น

ดังที่กล่าวในหัวข้อข้างต้นว่าคุณแม่ในยุคปัจจุบันนั้นรู้สึกกดดัน และพยายามที่จะทำให้ตนนั้นเป็นแม่ที่เพียบพร้อม ดูแลลูก และครอบครัวให้ดียิ่งขึ้นและด้วยสถานการณ์ COVID-19 นี้ ได้ทำให้พฤติกรรมของคุณแม่มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความสนใจใน Tech และโลก Digital มากยิ่งขึ้นกว่าเก่า เช่น
- เช็คข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ที่ลูกต้องใช้จากโลกออนไลน์ เลือกอย่างไรจึงจะได้สินค้าที่ดีที่สุดถูกที่สุด เป็นต้น
- ศึกษาวิธีการดูแลลูกอย่างละเอียด เพื่อให้ลูกเติบโตมีพัฒนาตามช่วงวัย
- นอกจากดูแลลูกแล้วคุณแม่ในยุคปัจจุบันยังศึกษาวิธีการดูแลตัวเองให้ดูดีอีกด้วย
กว่า 70% ของคุณแม่นั้นศึกษาหาข้อมูลมากกว่า 2 ขั้นตอนในโลกออนไลน์ ก่อนที่จะทำการซื้อสินค้า เป็นต้น เพราะพวกเขาต้องการที่จะได้สินค้าที่ดีที่สุด ถูกที่สุด คุ้มค่าที่สุดให้แก่ลูก

และในยุคที่การออกนอกบ้านเป็นเรื่องลำบากแน่นอนว่าแม่ในยุคปี 2021 นี้ ให้ความสนใจกับ E-Commerce มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากตัวเลขการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ของแม่ที่เติบโตขึ้นใน 1 ปีที่ผ่านมา เช่น
- เสื้อผ้าเด็กและผ้าอ้อม เติบโตขึ้น 41%
- ผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กเช่น แชมพู สบู่ ฯลฯ เติบโตขึ้น 41%
- ผลิตภัณฑ์นมและอาหารทารก เติบโตขึ้น 35%
- เสื้อผ้าผู้ใหญ่ เติบโตขึ้น 28%
- ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง เติบโตขึ้น 26%
- ของใช้ในครัวเรือนสำหรับครอบครัว เติบโตขึ้น 43%
เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์การใช้งานเทคโนโลยีของคุณแม่ในปัจจุบัน theAsianparent ได้สอบถามแม่ ๆ ว่า Digital tools หรือเครี่องมืออะไรบ้างที่พวกเขาใช้งานกันประจำ ซึ่งได้คำตอบมากมาย เช่น Pregnancy Tracking Tool หรือ ตัวช่วยติดตามเช็คการตั้งครรภ์ และ Stool Check-Up ตัวช่วยเช็คสภาพอุจจาระของลูกด้วยตนเอง เป็นต้น ในการออกแบบแอปพลิเคชันก็ยังถือเป็นอีกจุดที่แบรนด์ต้องให้ความสนใจ การมีฟีเจอร์สำคัญสำหรับช่วยเหลือคุณแม่อย่างครบถ้วน เพื่อดึงให้คุณแม่เข้ามามีส่วนร่วมกับ Community ต่างๆ ของแอปพลิเคชัน และยังต้องมีการอัพเดทข้อมูลเพื่อให้เป็นที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ อีกด้วย

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในการเสพสื่อออนไลน์ในยุคนี้ นั่นก็คือ การคิดถึงกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การออกเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน ไปหาเพื่อน เป็นต้น แต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกตัดขาดหายไป สิ่งที่เหล่าคุณแม่ทำเพื่อชดเชยนั่นก็คือการทำ Virtual Lifestyle เช่น
- การสั่งอาหารออนไลน์จากร้านโปรดเพื่อทดแทนการไปนั่งกินที่ร้าน
- การติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ บนโลกออนไลน์เพื่อร่วมสนุกกับผู้คนในโลกโซเชียล เช่น การมาของกระแส Club House, TikTok
- การพักที่โรงแรม หรือที่พักแบบ Staycation เพื่อทดแทนการนอนจำเจอยู่ที่บ้าน
- การเข้าร่วม Sales Event โปรโมชั่นพิเศษตามปฏิทินเช่น 11.11 เพื่อให้รางวัลแก่ตัวเอง
- การเติบโตของการช้อปปิ้งผ่าน “ไลฟ์สด” เพื่อสัมผัสบรรยากาศการพูดคุย และแข่งขันจองสินค้า
ดังนั้น Entertainment Commerce จึงเป็นสิ่งที่แม่ในยุคนี้ให้ความสนใจและเข้าถึงได้ง่ายนอกจากสินค้าคุณภาพดีราคาดีแล้ว สิ่งที่แบรนด์ควรคำนึงในยุคนี้นั่นก็คือความรู้สึกดี ๆ ที่ผู้บริโภคจะได้รับเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ
ทาง theAsianparent ได้เล็งเห็นว่าคุณแม่ในยุคนี้ตอนนี้ให้ความสำคัญกับการหาความบันเทิงจาก Social Media มากขึ้น จึงได้ตั้งคำถามว่าเราจะทำอย่างไรให้เหล่าแม่ ๆ ใน Community ของเราได้รับทั้งข้อมูลที่มีประโยชน์และได้รับความบันเทิง มีความสุขไปด้วยในเวลาเดียวกันจึงเกิดเป็น Solution ที่เรียกว่า Snackable Content อย่างเช่นการทำคลิปวีดีโอ TikTok ที่สามารถเข้าถึงแม่ได้ดี สั้น กระชับ เข้าใจง่าย สนุก และได้ประโยชน์ ซึ่งในจุดนี้ทางแบรนด์ต่าง ๆ ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ร่วมกันเพื่อสร้างประสบการณ์บันเทิงแปลกใหม่ให้กับคุณแม่ได้

นอกจากนี้ ทาง theAsianparent ยังพบว่า Solutions อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Content Marketing ในรูปแบบต่าง ๆ เช่นบทความ วีดีโอ Display & Programmatic เช่น แบนเนอร์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ บน Desktop หรือ Mobile Application เมื่อใช้ร่วมกันก็ยังเป็นการช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มตลาดแม่และเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง
Source:
theAsianparent Thailand