11 พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค (11 Buying Behaviors)

การเข้าใจถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มผู้บริโภคถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักการตลาดทุกๆคนครับ เพราะนอกจากมันจะช่วยให้คุณเข้าใจในปัจจัยหลายๆอย่างที่มีผลต่อการซื้อสินค้าเพื่อนำไปวางกลยุทธ์การตลาดแล้ว มันยังสามารถนำมาช่วยให้นักการตลาดทำคอนเทนต์ในแบบต่างๆเพื่อช่วยให้คุณหาวิธีสื่อสารให้ตรงเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และนี่จึงเป็นที่มาที่ผมได้รวมสรุปถึง 11 พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค มาฝากกันครับ

What's next?

1. พฤติกรรมการซื้อเป็นประจำทุกๆวัน

พฤติกรรมการซื้อเป็นประจำ (Habitual) จนเป็นนิสัย มักจะเกิดขึ้นกับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องค้นหาข้อมูลหรือหากจำเป็นต้องหาข้อมูลก็ใช้เวลาแค่เพียงนิดเดียว เพราะกระบวกการตัดสินใจนั้นค่อนข้างเร็วมากในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งแน่นอนครับว่าเกิดจากการจดจำแบรนด์นั้นๆได้หรือแบรนด์นั้นมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับตัวผู้บริโภคนั่นเอง สินค้าส่วนใหญ่จะมีราคาที่ไม่แพงหรือเรียกได้ว่าเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปซื้อสินค้าแบรนด์อื่นๆเพราะซื้อแบรนด์เดิมซ้ำๆจนชินเป็นนิสัยไปแล้ว เช่น กระดาษทิชชู่ น้ำเปล่า หนังสือพิมพ์ ขนมปัง

2. พฤติกรรมการซื้อที่สลับซับซ้อน

พฤติกรรมการซื้อแบบสลับซับซ้อน (Complex) นั้นเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคพบเจอกับสินค้าหรือบริการที่มีราคาแพง จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลทั้งในคุณสมบัติของสินค้าและเรื่องอื่นๆก่อนตัดสินใจซื้อ เราจะเห็นผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมประเภทนี้อ่านรีวิวสินค้าและประโยชน์ที่จะได้รับจากสินค้าจากช่องทางต่างๆ หรือแม้กระทั่งการปรึกษาเพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนรัก เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ

3. พฤติกรรมการซื้อเพื่อลดความกังวลใจ

พฤติกรรมการซื้อประเภทนี้คือการพยายามตัดตัวเลือกที่น่าปวดหัวออกไป โดยเลือกซื้อสินค้าอะไรก็ตามที่หาได้ง่ายไม่ต้องค้นคว้าหาข้อมูลอะไรมากมาย ซึ่งโดยปกติแล้วพฤติกรรมการซื้อสินค้าประเภทนี้ผู้บริโภคมักจะมีแบรนด์ในใจแล้วประมาณ 2-3 แบรนด์ และก็จะเลือกแค่แบรนด์เหล่านี้เพียงเท่านั้นเพื่อนำมาเทียบกันดูว่าแบรนด์ไหนสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของคุณภาพและราคานั่นเอง

4. พฤติกรรมการซื้อแบบสรรหาของใหม่ๆ

พฤติกรรมการซื้อประเภท Variety Seeking หรือการสรรหาหลากหลายตัวเลือกแม้ว่าจะใช้สินค้าแบรนด์นั้นอยู่เป็นประจำแล้วก็ตาม ผู้บริโภคประเภทนี้ชอบลองอะไรใหม่ๆเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับรสชาติของชีวิต และจะอ่อนไหวกับโฆษณาแบรนด์ใหม่ๆที่ออกสู่ตลาดซึ่งต้องหามาลองใช้ดูว่ามันต่างจากแบรนด์เดิมที่มีอย่างไร

5. พฤติกรรมการซื้อแบบจำกัด

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้อสินค้าแบรนด์หนึ่งเป็นประจำ เพราะอาจมีแค่เพียงไม่กี่แบรนด์ที่ทำสินค้าชนิดนี้ออกมาขายครับ หรือเรียกได้ว่าไม่มีตัวเลือกสำหรับสินค้ามากนักในตลาดทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจำกัด ส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคประเภทนี้จะมีการเปรียบเทียบระหว่างคุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้า และดูว่าสินค้าของแบรนด์ใดนั้นตอบสนองความต้องการมากที่สุด และบางครั้งผู้บริโภคก็อาจจำเป็นต้องเลือกสินค้าที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามที่ต้องการก็ได้ เพราะเนื่องจากไม่มีตัวเลือกอะไรเหลือให้ซื้อแล้ว

6. พฤติกรรมการซื้อแบบหุนหันพลันแล่น

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคไม่ได้มีเวลาให้คิดอะไรนานๆหรือเรียกได้ว่าตัดสินใจซื้อแบบด่วนจี๋ บางรายนั้นไม่จำเป็นต้องค้นหาข้อมูลใดๆเพิ่มเติมเลยและมักจะถูกกระตุ้นโดยคำโฆษณาเจ๋งๆ สโลแกนดีๆ รวมไปถึงการดึงดูดด้วยพรีเซ็นเตอร์หรือดารานักแสดง

7. พฤติกรรมการซื้อแบบเกินความจำเป็น

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคใช้จ่ายที่ยอมลงทุนไปกับคุณภาพของสินค้าโดยไม่สนเรื่องราคา หรือเรียกว่าซื้อในสิ่งที่เกินความต้องการที่จำเป็นไปแล้วก็ไม่ผิดครับ ผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้นจะตอบสนองกับการตลาดเชิงอารมณ์ที่เน้นไปยังความพึงพอใจด้านการบริการและการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ถึงแม้ว่าจะมีการเปรียบเทียบด้านคุณสมบัติและโยชน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้บริโภคประเภทนี้ก็ยังคงให้ความสำคัญกับความรู้สึกเกี่ยวกับแบรนด์อยู่ดี ดังนั้นการให้ความสำคัญกับความเอาใจใส่และคุณค่าจะเป็นตัวส่งเสริมให้เกิดการตัดสินใจมากที่สุดสำหรับผู้บริโภคประเภทนี้

8. พฤติกรรมการซื้อเมื่อยามจำเป็น

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคใช้จ่ายโดยคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นหลัก โดยไม่ได้มองเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นตัวนำ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีการตั้งงบประมาณไว้เรียบร้อยแล้วและจะไม่ใช้อะไรที่นอกเหนือจากงบประมาณที่ตั้งไว้ แต่หากว่าสินค้านั้นมีความคุ้มค่าและมีประโยชน์จนยากจะทานทนก็อาจจะซื้อหามาใช้ได้เช่นกัน ผู้บริโภคประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีการเปรียบเทียบราคาและเปรียบเทียบคู่แข่งจำนวนมาก หรือเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งการเปรียบเทียบเลยก็ว่าได้เพื่อให้ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุดครับ

9. พฤติกรรมการซื้ออย่างประหยัด

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคใช้จ่ายแบบประหยัดมากที่สุดเนื่องจากมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด โดยผู้บริโภคประเภทนี้จะเน้นไปในเรื่องของราคามากกว่าชื่อเสียง ภาพลักษณ์ คุณสมบัติ และประโยชน์ของแบรนด์ อาจเรียกได้ว่าเข้าขั้นของความตระหนี่ก็ว่าได้

10. พฤติกรรมการซื้อแบบนักวิเคราะห์

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคคิดวิเคราะห์ทบทวนค้นหาข้อมูลต่างๆอย่างจริงจัง เรียกได้ว่าเน้นความเป็นเหตุเป็นผลแทบจะ 100% ครับ ผู้บริโภคประเภทนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนานในการศึกษาหาข้อมูลให้มากที่สุด พยายามหาข้อพิสูจน์ให้ได้ว่าสินค้าแต่ละชิ้นนั้นมันดีอย่างไรมันคุ้มค่าอย่างไร เช่น การดู Testimonials การอ่านสถิติต่างๆ การอ่านบทความวิจัย เป็นต้น

11. พฤติกรรมการซื้อด้วยการแสดงออกถึงความสัมพันธ์

พฤติกรรมการซื้อที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีจากสินค้าหรือบริการของคุณ โดยจะให้คุณค่ากับเรื่องเชิงบวกต่างๆที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนงานขาย การให้ความช่วยเหลือที่ดี หรือเรียกได้ว่าการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้านั้นจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ในระยะยาวนั่นเอง

และทั้งหมดก็คือ 11 พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ที่จะช่วยให้คุณนำไปคิดวิเคราะห์และต่อยอดในการวางแผนการตลาดได้อีกหลากหลายรูปแบบครับ


Share to friends


Related Posts

รู้จักลูกค้า 7 ประเภท แล้วคุณเองเป็นแบบไหน

เหตุผลของการมีอยู่และการเติบโตของธุรกิจคุณนั่นก็คือลูกค้า (Customer) ซึ่งลูกค้าแต่ละคนนั้นก็มีประเภทและลักษณะที่ไม่เหมือนกัน โดยหลายๆครั้งนั้นมันก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับนักการตลาดในการวางแผนเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการ เพราะไม่รู้ว่าจะขายอย่างไรกับลูกค้าที่มีหลากหลายประเภทเหลือเกิน


รวม 11 ตัวชี้วัดความสำเร็จของลูกค้า

เรามักจะวัดความสำเร็จของการทำธุรกิจยอดขาย รายได้ และผลกำไร ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับการสร้างโอกาสเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้หันมาสนใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ โดยเป้าหมายก็คือการทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ในการมีอยู่ของสินค้าหรือบริการเกิดความสนใจและหันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง ตัวชี้วัดที่เกิดขึ้นนั้นก็มุ่งเน้นไปยังตัวเลขรายได้และจำนวนปริมาณการซื้อสินค้ารวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้า


รวม 16 วิธีในการหา Insight ของลูกค้า

Insight นับเป็นสิ่งสำคัญมากๆสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจในการทำการตลาด โดยมันจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนงานหรือแคมเปญด้านการตลาดให้เข้าเป้าอย่างตรงจุด และยังช่วยให้คุณเข้าใจในตัวของลูกค้าและรักษาลูกค้าได้ในระยะยาว เรียกได้ว่าใครสามารถหาข้อมูล Insight ของลูกค้าได้มากและลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดมากขึ้น



copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์