7 วิธีเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำของลูกค้า (Customer Retention Rate)

หลายๆครั้งคุณอาจคิดว่าการเติบโตของธุรกิจจำเป็นต้องมีการหาลูกค้าใหม่ให้ได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรและก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมวิธีหนึ่งที่หลายๆธุรกิจนั้นนิยมใช้กัน แต่ในบางครั้งการพยายามหาลูกค้าใหม่ๆเพื่อทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตนั้นอาจไม่คุ้มค่าและไม่เป็นประโยชน์มากเท่าที่ควร ซึ่งอาจใช้ทั้งเงินทุนการทำการตลาดที่มากกว่าเดิมและบางครั้งก็อาจได้แบบไม่คุ้มเสีย แต่หากธุรกิจมีการมุ่งเน้นไปยังการรักษาฐานลูกค้าเก่า ก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดีโดยเฉพาะหากคุณไม่ได้มีทุนทรัพย์มากมาย หรือไม่มีทีมในการทำการตลาดเท่ากับธุรกิจใหญ่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเสียงบประมาณทางการตลาดน้อยกว่าเดิมหลายเท่า และยังช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นระหว่างธุรกิจกับลูกค้าได้อีก ในบทความนี้เรามารู้จักกับวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำของกลุ่มลูกค้าเดิม (Customer Retention Rate) เพื่อช่วยในเรื่องการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณกันครับ

1. ปรับลดราคาเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ

การรปรับลดราคาเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มเดิมนั้นกลับมาซื้อซ้ำ ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดและใช้ได้ผลอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าอาจจะทำให้กำไรนั้นลดลงไปบ้างก็ตาม โดยส่วนลดอาจไม่ใช่ในเรื่องของการปรับราคาแบบตรงๆก็ได้ สามารถเป็นได้ทั้งการออกคูปองเพื่อใช้กับการได้ส่วนลดในการซื้อครั้งต่อๆไป หรืออาจเป็นการส่งสินค้าฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่ายกับลูกค้าที่เป็นขาประจำเพื่อลดภาระให้กับลูกค้า และเมื่อลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับส่วนลดหรือเงื่อนไขที่ดีจากการซื้อครั้งนี้ พวกเขาก็มักจะกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการจากธุรกิจของคุณอีกครั้งในอนาคต

2. ใช้กลยุทธ์การทำ Cross-Selling และ Up-Selling

คุณสามารถทดลองใช้กลยุทธ์การนำเสนอสินค้าในลักษณะ Cross-Selling Link หรือที่เรียกว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สร้างให้เกิดมูลค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับตัวลูกค้า เช่น การขายเครื่องเป่าผมพร้อมกับนำเสนอหวีแปรงผมไปพร้อมกัน และในรูปแบบ Up-Selling Link หรือการเพิ่มยอดขายที่มักจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าสูงกว่าเดิม เช่น การเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยแต่ได้ห้องพักที่หรูหรามากขึ้น เทคนิคในลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นความสนใจแบบยากที่จะปฏิเสธ โดยคุณต้องเน้นในเรื่องของความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้กลับไป คุณอาจทำด้วยการวางผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องไว้ติดๆกัน หรือหากเป็นบนเว็บไซต์ก็อาจมีการนำเสนอสินค้าอื่นๆที่น่าสนใจไว้ด้านท้ายของสินค้านั้นๆ หรืออาจจะเป็นหน้าถัดไปก่อนที่จะทำการชำระเงิน หรืออาจเสนอการจัดส่งฟรีเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าถึงยอดรวมตามกำหนด

Cross-Selling-Examples-Amazon

Source: Amazon.com

3. จัดทำ Customer Loyalty Program

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้า คือ การสร้างความสัมพันธ์ด้วย Customer Loyalty Program ตัวอย่างเช่น การส่งอีเมลข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าแบบเฉพาะราย (Personalized) กับส่วนลด 10% ในแต่ละเดือน หรืออาจเป็นรูปแบบอื่นๆเพื่อทดสอบดูว่าข้อเสนอใดของคุณโดนใจลูกค้ามากที่สุด นอกจากนั้นคุณยังสามารถทำเป็นโปรแกรมสะสมคะแนนเพื่อนำมาแลกของรางวัลได้อีก

4. ทำ Personalized Marketing

ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจด้วยวิธีการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized Marketing) ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยในเบื้องต้นนั้นคุณก็จำเป็นต้องเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆให้ได้เป็นอันดับแรกก่อน กระตุ้นให้ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ รับข้อมูลข่าวสาร หรือรับโปรโมชั่นดีๆ และส่งข้อมูลที่ตรงตามความสนใจของลูกค้าแต่ละคน โดยระบุชื่อเรื่องและชื่อของลูกค้าอย่างชัดเจนเพื่อแสดงให้เห็นว่า อีเมล์หรือ SMS นี้มีการส่งมาแบบพิเศษเฉพาะคุณเพียงคนเดียว

Agoda Personalized Marketing

5. การทำธุรกิจแบบ Subscription Model

การเสนอการสมัครสมาชิกเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับคุณได้ยาวนานขึ้น ที่ช่วยลูกค้าในด้านความสะดวกสบายและเพิ่มความยืดหยุ่น (อาจเป็นการสมัครสมาชิกรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี) Subscription Link ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบธุรกิจที่สร้างให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวและยังสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในระยะยาวได้อีกด้วย แม้ว่าธุรกิจแบบ Subscription อาจไม่ได้เหมาะกับทุกประเภทธุรกิจ แต่หากคุณสามารถนำไปปรับให้เข้ากับธุรกิจทั้งในปัจจุบันและธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะส่งผลดีทั้งในด้านของการรักษาลูกค้าเดิมๆและผลดีในด้านรายได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่รู้จบ โดยเป็นไปได้ทั้งการสมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้มากขึ้น การสมัครสมาชิกเพื่อให้มีสิทธิพิเศษที่มากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การได้ส่วนลดที่เพิ่มขึ้น

6. สื่อสารเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด

คุณจำเป็นต้องสร้างภาพจำให้กับลูกค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยการทำคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆที่เป็นประโยชน์และเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า โดยอาจจะเป็นในรูปแบบบทความ (Blog) อีบุ้ค (E-Book) อินโฟร์กราฟิก (Infographic) หรือวีดิโอ (Video) ผ่านช่องทางต่างๆที่ลูกค้าเปิดรับอยู่เป็นประจำ เช่น อีเมล์ โทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแม้แต่การออกอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อย้ำซ้ำๆให้ลูกค้าจดจำคุณได้และสนับสนุนธุรกิจของคุณอย่างต่อเนื่อง

7. สนับสนุนลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ

หลายๆครั้งในการทำธุรกิจมักจะเจอกับลูกค้าที่กำลังเผชิญกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานสินค้า การติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม รวมไปถึงเรื่องอื่นๆที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องการใครสักคนที่ตอบหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การจะเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำของลูกค้าเก่าก็จะเป็นต้องทำตัวเองให้เป็นที่พึ่งพาได้ตลอดเวลา โดยอาจต้องมีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่าน Line, Chatbot, Messenger หรือผ่านทางโทรศัพท์ และยังมีอีกหลายรูปแบบคอนเทนต์ที่ธุรกิจของคุณสามารถทำเพื่อนำมาสื่อสารกับลูกค้าได้ อาทิ การทำเป็นคู่มือ (Manual) รูปแบบบทความ (Blog) วีดิโอ (Video) รวมถึง Webinar ก็จะช่วยสร้างให้เกิดความรู้สึกดีๆกับลูกค้าได้

ทั้งหมดเป็น 7 วิธี ที่สามารถช่วยเพิ่มและดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และยังช่วยสานสัมพันธ์อันดีระหว่างธุรกิจของคุณกับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขายังเป็นคนที่สำคัญอยู่เสมอนั่นเอง


Share to friends


Related Posts

วิธีเพิ่มความจงรักภักดีและการซื้อซ้ำจากลูกค้า (Customer Loyalty & Retention)

การซื้อซ้ำ (Retention) และการสร้างความจงรักภักดีในตัวแบรนด์ (Loyalty) ถือเป็นกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจซึ่งอาจมีความจำเป็นกว่าการมุ่งหาลูกค้าใหม่ๆซะด้วยซ้ำ มันคือการรักษาให้ลูกค้านั้นสนับสนุนแบรนด์ของคุณไปอย่างยาวนาน ซึ่งแน่นอนครับว่ามันสร้างให้เกิดกำไรให้กับบริษัทได้อย่างดีอีกวิธีหนึ่ง โดยมีงานวิจัยที่ได้ระบุว่า “ลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำแค่เพียง 5% ก็สามารถสร้างให้เกิดกำไรได้ถึง 25-95%” เลยทีเดียว


วิธีสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า

ลูกค้าคือกลุ่มบุคคลสำคัญในการอยู่รอดของทุกธรุกิจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรที่จะทุ่มงบประมาณในการปรับปรุงทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว แต่เราก็ยังเห็นหลายๆธุรกิจที่พยายามมุ่งเน้นไปยังการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า


ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ในตัวแบรนด์ในมุมมองของลูกค้า

ขั้นแรกในการสร้างแบรนด์หรือธุรกิจใดๆให้ประสบความสำเร็จ คงหนีไม่พ้นการทำให้คนรับรู้ในการมีอยู่ของแบรนด์หรือที่เราเรียกว่าการสร้าง Brand Awareness ครับ ซึ่งมันก็คือการสร้างให้เกิดการรับรู้ในตัวแบรนด์ในมุมมองของลูกค้า (Customer Perception) นั่นเองที่เป็นผลมาจากการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ จนกลายเป็นที่จดจำในสายตาของลูกค้ารวมถึงมีการพูดถึงและบอกต่อหากลูกค้าได้รับการตอบสนองความต้องการรวมไปถึงประสบการณ์ดีๆ



copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์