
การเขียนคอนเทนต์แบบดึงดูดใจหรือที่เรียกว่า Compelling Content นั้นนับเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเป้าหมายเข้ามาสนใจและมีส่วนร่วมกับสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อสารได้มากขึ้น โดยลักษณะของ Compelling Content นั้นสามารถนำมาใช้ในการเขียนคอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บทความบนบล็อก คอนเทนต์บนเว็บไซต์ คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย คอนเทนต์ในรูปแบบวีดิโอ และยังปรับใช้กับคอนเทนต์รูปแบบวีดิโอได้อีกด้วย และหลักของการเขียนคอนเทนต์ให้ดึงดูดใจ (Compelling Content) ก็คือการสร้างความประหลาดใจหรือการสร้าง Surprise ให้กลุ่มผู้อ่าน/ผู้ฟังเป้าหมายนั่นเองครับ ทีนี้เรามาดูเทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้คุณคิดคอนเทนต์แบบดึงดูดใจให้มากยิ่งขึ้นกันครับ

10 เทคนิคในการสร้าง Surprise ให้กับคอนเทนต์ของคุณ
คอนเทนต์เป็นเรื่องการของการทำให้คนเข้ามาสนใจและอยู่กับสิ่งที่คุณนำเสนอให้นานที่สุด โดยคุณจำเป็นต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่คุณจะสื่อสารด้วย การรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการจะฟัง รวมไปถึงช่องทางการสื่อสารที่พวกเขาเปิดรับเป็นอันดับแรกๆนะครับ ไม่เช่นนั้นคอนเทนต์ที่คุณคิดออกมาจะกลายเป็นคอนเทนต์ที่หมดประโยชน์ตั้งแต่แรกเริ่มไปเลย เรามาดูกันครับว่าจะสร้าง Surprise อย่างไรกับคอนเทนต์ได้บ้าง
1. เริ่มด้วยหัวข้อที่เตะตา
หัวข้อหรือ Topic ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในทุกๆงานเขียนอยู่เสมอครับ โดยหัวข้อนั้นต้องมีความทรงพลังที่สะกิดใจและดึงดูดทำให้อยากอ่านเนื้อหานั้นๆ โดยคุณสามารถนำเอาเทคนิคพวก Fear of Missing Out สำหรับการตลาดมาใช้ร่วมด้วยก็ได้ เช่น พลาดแล้วจะเสียใจ ข้อเสนอดีๆ ระยะเวลาที่จำกัด รวมไปถึงหัวข้อจำพวก เทคนิคต่างๆ ไอเดียต่างๆ ที่ช่วยให้หัวข้อนั้นน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมนะครับว่าหัวข้อเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่เกี่ยวกับการนำเสนอคอนเทนต์ที่ขาดไม่ได้จริงๆ
2. ลองเขียนในสิ่งที่ขัดแย้งดูบ้าง
ในบางครั้งการเขียนอะไรที่เป็นกลางมากๆอาจจะทำให้เกิดความน่าเบื่อกับผู้อ่านได้ หากลองเติมสีสันหรืออะไรที่ดูเป็นความขัดแย้งลงไปดูบ้างก็สามารถสร้าง Surprise และความน่าอ่านได้ไม่มากก็น้อยครับ เช่น มีการใส่ความคิดเห็นที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นมาหน่อย มีการวิเคราะห์ประเด็นหรือมุมมองต่างๆ แต่อย่าลืมนะครับว่าอะไรที่มันเกินพอดีไปก็อาจส่งผลร้ายต่อสิ่งที่คุณกำลังจะนำเสนอ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องดูบริบทหลายๆอย่างประกอบกันไปด้วย หากใครสนใจเรื่องบริบทกับการสื่อสารก็ลองเข้ามาอ่านในบทความนี้ดูครับ >> รู้จัก Context สำหรับการสื่อสาร
3.เขียนในเชิงวิเคราะห์
การดึงดูดผู้อ่านด้วยการวิเคราะห์ถึงประเด็นต่างๆนับเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยให้ผู้อ่านเกิดความสะดุดและฉุกคิด เช่น “เกิดอะไรขึ้นกับการตลาดแบบ Real-time Content” “สาเหตุที่ธุรกิจสะดุดอยู่กับที่” “ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์” หรืออาจเป็นการนำเสนอมุมมองต่อเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ ก็จะช่วยให้คอนเทนต์นั้นดึงดูดผู้อ่านได้มากขึ้นครับ
4. สะกดด้วยภาพ
ตัวหนังสือเพียวๆอย่างเดียวในบางครั้งก็อาจทำให้คอนเทนต์นั้นดูน่าเบื่อและจืดชืดไปบ้าง องค์ประกอบสำคัญของคอนเทนต์ที่ขาดไม่ได้ก็คือภาพ (Visual) ที่ต้องดึงดูดและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่คุณเขียน โดยอาจจะเป็นภาพในลักษณะ Infographics ภาพถ่ายจริง ภาพที่วาดขึ้นมาใหม่ ก็ได้ทั้งนั้นครับ และก็นำไปใส่ในคอนเทนต์รูปแบบต่างๆที่คุณทำออกมา ก็จะช่วยให้คอนเทนต์ดูดึงดูดและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

5. เล่าเป็นเรื่องราว (Story)
การเล่าเรื่องในแบบ Storytelling เป็นเทคนิคที่เป็นที่นิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง ที่สามารถสร้างการเชื่อมโยงความรู้สึกด้านอารมณ์กับผู้ชมครับ โดยหลักของ Storytelling แล้วนั้นก็ต้องมีตัวละคร ฉาก/สถานที่ และการดำเนินเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ และมีจุดเริ่มต้นที่ค่อยๆไต่ระดับไปสู่จุดที่เป็นแกนหลักสำคัญของเรื่อง ไปสู่จุดคลี่คลายปมต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นเทคนิคที่ถ้าหากทำเนื้อเรื่องออกมาได้ดี ก็รับรองได้ว่าคนที่มีโอกาสเข้ามาดูมาชมนั้นจะอยู่กับคุณไปตั้งแต่ต้นยันจบเรื่องราวอย่างแน่นอนครับ
6. เสริมด้วยข้อมูลจากผู้รู้
ความหนักแน่นในแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คอนเทนต์นั้นดูมีความน่าเชื่อถือและน่าดึงดูดใจสำหรับผู้อ่านครับ ในหลายๆครั้งผู้อ่านอาจไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอนั้นมันมาจากความเป็นจริง ประสบการณ์จริง หรือปั้นแต่งมันออกมาเพื่อสร้างคอนเทนต์ โดยหากคุณนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆขึ้นมาก็จำเป็นจะต้องมีการอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดความน่าสนใจครับ เช่น การนำสถิติมาใช้ การอ้างข้อมูลสนับสนุนจากงานวิจัย การ Quote คำพูดของคนที่เคยกล่าวไว้ เป็นต้น
7. ดึงด้วยมุขตลกและความสนุกสนาน
สาระเต็มๆกับบางคอนเทนต์อาจดูหนักจนเกินไป ดังนั้นการสอดแทรกความสนุกสนานในการเขียนไม่ว่าจะเป็นการตั้งหัวข้อและการเล่ารายละเอียดเนื้อหา จะช่วยดึงดูดความน่าสนใจของผู้อ่านได้ดีในระดับหนึ่งครับ หรือหากพูดอีกในมุมหนึ่งก็คือการเปลี่ยนเรื่องยากๆให้ดูง่ายขึ้น เช่น การใช้คำว่า “เทคนิคที่จะช่วยให้คุณเลิกหงุดหงิดตัวเอง” “เทคนิคที่จะช่วยให้คุณเลิกหงุดหงิดเพื่อนร่วมงาน” “วิธีสับขาหลอก Facebook” เป็นต้น แต่ก็อย่าฮาจนเกินพอดีไปและต้องดูด้วยว่าคอนเทนต์ประเภทไหนและลักษณะไหนที่สามารถใส่ความขบขันเข้าไปได้นะครับ
8. Engage ผู้อ่านด้วยการตั้งคำถามให้คิด
แม้ว่าการเขียนคอนเทนต์ในรูปแบบการสร้างให้เกิด Engagement หรือสร้างการมีส่วนร่วมนั้นค่อนข้างยาก แต่มันเป็นเทคนิคที่ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณนั้นเข้าไปอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านครับ โดยลักษณะการเขียนคอนเทนต์นั้นก็อาจตั้งประเด็นเป็นช่วงๆเพื่อให้ผู้อ่านได้ฉุกคิด ตั้งคำถามที่อาจเกิดจากปัญหาที่เป็นอยู่ หรืออาจจะให้ผู้อ่านนั้นช่วยแสดงความคิดเห็นในแบบต่างๆก็ได้เช่นกัน

9. ไฮไลท์ประเด็นสำคัญๆ
การสรุปเนื้อหาต่างๆให้ออกมาเป็นประเด็นหรือทำเป็นหัวข้อ (Bullet) จะช่วยร่นระยะเวลาในการอ่านคอนเทนต์ยาวๆได้ และนั่นส่งผลต่อความน่าอ่านและน่าติดตามที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการจัดองค์ประกอบกับคอนเทนต์ยาวๆประเภทบทความ (Blog) ยิ่งควรมีข้อสรุปประเด็นสำคัญๆซึ่งอาจทำได้ด้วยการ ทำเป็นหัวข้อ (Bullet) เน้นตัวหน้า (Bold) ใส่เครื่องหมายคำพูด (“__”) หรืออาจใส่พวก Key Takeaways หรือที่เรียกว่าประเด็นสำคัญสรุปปิดท้ายคอนเทนต์นั้นๆ
10. มี Call-to-Action ที่เหมาะสม
วัตถุประสงค์ของการทำคอนเทนต์ที่ดีจำเป็นต้องมี Call-to-Action หรือการทำให้เกิดการกระทำอะไรบางอย่าง เช่น การกดลิ้งค์ต่อไปยังเว็บไซต์ การกดลิ้งค์เพื่อสมัครอะไรสักอย่าง หรือการส่งข้อความ ซึ่งนั่นก็ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้สัมพันธ์กับการเขียนคอนเทนต์เพื่อดึงให้ผู้อ่านมีสมาธิอยู่กับสิ่งที่คุณนำเสนอไปจนสุดนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเทคนิคที่สามารถนำไปปรับใช้แบบไม่ยาก สำหรับการคิดคอนเทนต์ให้ออกมาดึงดูดและจับใจผู้อ่าน และอย่าลืมนะครับว่าการเข้าใจว่าคนที่อ่านคอนเทนต์ของคุณเป็นใคร และพวกเขาต้องการจะรู้อะไรนั้นเป็นแกนหลักสำคัญที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณก้าวไปสู่คอนเทนต์ที่ดึงดูดใจได้แบบไม่ยากครับ