Ethical Marketing การตลาดด้วยจริยธรรมทำอะไรก็สำเร็จ 100%

การตลาดที่มีจริยธรรม (Ethical Marketing) อาจดูเหมือนเป็นแนวคิดที่ดูแล้วมีความขัดแย้งกันระหว่าง “การทำสิ่งที่ถูกต้อง” และ “การสร้างผลกำไร” ที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า เราจะทำการตลาดโดยเน้นผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ หรือจะทำการตลาดที่ดีด้วยการเน้นพื้นฐานของการมีจริยธรรมเป็นตัวนำ โดยหากเราคิดถึงเรื่องความถูกต้องแบบ 100% ก็อาจทำให้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้หรือไปถึงเป้าหมายได้ค่อนข้างช้าก็ได้ แต่ความคิดเห็นของผู้บริโภคในยุคนี้มองและเลือกธุรกิจที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมและสังคม มีความโปร่งใสและคุณธรรม บริษัทที่ใช้หลักจริยธรรมในการทำการตลาดจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างแท้จริง หากธุรกิจใดที่แสร้งทำเป็นว่าตนเป็นผู้มีจริยธรรมแต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ก็อาจสูญเสียความไว้วางใจนั้นไปตลอดกาล เรามาทำความเข้าใจคำว่า Ethical Marketing กันในบทความนี้ครับว่ามันมีอิทธิพลมากขนาดไหนและจะช่วยนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร

What's next?

อะไรคือความหมายของ Ethical Marketing

หากจะแปลความหมายแบบตรงๆคำว่า Ethical Marketing ก็คือ การตลาดที่มีจริยธรรมเป็นปรัชญาสูงสุดและเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งส่งเสริมเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ ความน่าเชื่อถือ ความเป็นธรรม ค่านิยม และความรับผิดชอบในโครงการและการดำเนินการทางการตลาดทั้งหมด การตลาดที่มีจริยธรรมรวมไปถึงการวิจัยการตลาด การแบ่งสัดส่วนลูกค้า และการจัดการแคมเปญการตลาดทุกรูปแบบ การตลาดที่มีจริยธรรมที่ง่ายที่สุด ก็คือ ความจริงใจซึ่งนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้บริโภคจะซื้อและสนับสนุนธุรกิจโดยพิจารณาจากค่านิยมของพวกเขา นั่นเป็นสาเหตุที่บริษัทใดๆก็ตามที่ถูกจับได้ว่าใช้คำกล่าวอ้างที่เกินจริงหรือบิดเบือนการสื่อสารในแคมเปญการตลาดอาจจะต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว

การตลาดที่ใช้จริยธรรมเป็นตัวนำจะถูกถ่ายทอดมาจากเป้าหมายของการสร้างแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น (Brand Pupose) ไปจนถึงการให้คุณค่า (Core Values) ทั้งในการขับเคลื่อนธุรกิจและขับเคลื่อนองค์กร ในมุมของ Ethical Marketing เป้าหมายนั้นไม่ใช่การกระตุ้นให้ผู้คนคิดเรื่องของกำไร นักการตลาดควรยึดถือปฏิบัติในเรื่องจริยธรรมที่สำคัญ การนำหลักจริยธรรมทางการตลาดมาใช้โดยผู้บริหารระดับสูงเพื่อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ธุรกิจจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและการดำเนินการตัดสินใจในทุกกระบวนการอย่างมีจริยธรรม และนักการตลาดต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทั้งหมดที่ทำไปไม่ว่าจะเป็นแคมเปญการตลาดหรือสิ่งที่สื่อสารผ่านงานโฆษณา

Ethical Marketing Framework

โดยการตลาดที่มีจริยธรรมทั้งหมดตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ 5 ประการ ดังนี้

  • ความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) โดยต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการและกำลังมองหาอะไร ลูกค้ามีปัญหาด้านไหน อยากได้รับการตอบสนองอย่างไร เพื่อนำไปพัฒนาทั้งตัวสินค้าหรือบริการ การสื่อสาร จะได้ทำการตลาดได้ตรงจุด
  • ความซื่อสัตย์ (Honesty) การตลาดที่ไม่ใช่การโฆษณาหรือสร้างภาพให้ตัวเองดูดี หรือโปรโมทอะไรที่เกินความเป็นจริงเพื่อหวังผลด้านการทำธุรกิจ
  • ความโปร่งใส (Transparency) โดยทุกสิ่งที่อย่างที่คุณทำที่ไม่ใช่เฉพาะกับส่วนของการตลาดเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความพร้อมให้ตรวจสอบหรือเปิดเผยข้อเท็จจริงในกระบวนการทำงาน
  • การรักษาคำมั่นสัญญา (Promise – Keeping) เมื่อสัญญาอะไรกับผู้บริโภคแล้วก็ต้องทำได้จริง การพูดลอยๆเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจหรือผลประโยชน์บางอย่าง จะทำให้สิ่งที่ธุรกิจทำกลับกลายเป็นภาพลวงตาที่ยากจะกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง
  • ความยั่งยืน (Sustainability) การตลาดไม่ใช่การแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาความเป็นอยู่ในชุมชน รวมถึงการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

ตัวอย่าง Ethical Marketing ที่แบรนด์นำมาใช้กับแคมเปญการตลาด

เรามาดูตัวอย่างของแบรนด์ที่ใช้แนวทาง Ethical Marketing ซึ่งมาจากพื้นฐานของความมุ่งมั่นที่ถ่ายทอดมาจากปรัชญาการของการมีอยู่ของแบรนด์กันครับ

Patagonia กับแคมเปญ Don’t buy this jacket

Patagonia เคยสร้างความฮือฮาด้วยการทำแคมเปญการตลาดอันโด่งดังอย่าง “Don’t buy this jacket” หากแปลเป็นไทยก็คือ “อย่าซื้อเสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้นะ” ใจความสำคัญของแคมเปญนี้ คือ Patagonia อยากจะบอกกับผู้บริโภคว่าอย่าซื้อเสื้อถ้าไม่จำเป็น โดยให้เอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นที่สำคัญกว่า มีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ New York Times รวมถึงสื่อออนไลน์อื่นๆ ซึ่งใช้รูปเสื้อ Jacket รุ่นที่ขายดีที่สุดซะด้วย

Don't Buy This Jacket_Patagonia

แคมเปญ “Don’t Buy This Jacket” เป็นตัวอย่างที่ดีของการตลาดที่มีจริยธรรม แทนที่จะสนับสนุนให้ผู้บริโภคซื้อมากขึ้นในช่วง Black Friday แต่ Patagonia ขอให้พวกเขาให้คำมั่นว่าจะลดการบริโภคหรือการซื้อเสื้อผ้าลง แคมเปญดังกล่าวสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากลัทธิบริโภคนิยม และกระตุ้นให้หลายๆคนพิจารณาถึงผลกระทบของการซื้อของพวกเขา เพราะแบรนด์ Patagonia ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้โดยปรัชญาของแบรนด์ คือ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Patagonia นับเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ Outdoor สัญชาติอเมริกันที่ใช้วัตถุดิบที่มาจากการ Recycle กว่า 87% ในไลน์การผลิตเสื้อผ้าทั้งหมด โดยผ้าคอตตอนที่ใช้นั้นก็เป็นการปลูกจากธรรมชาติแบบออแกนิค 100%


TOMS กับแคมเปญ One Day Without Shoes

แคมเปญที่ชื่อว่า One Day Without Shoes เป็นแคมเปญที่ TOMS Link ใช้ในการสร้างการรับรู้ (Awareness) ซึ่งไม่ใช่การรับรู้ในตัวของแบรนด์แต่เป็นการสร้างรับรู้เกี่ยวกับเด็กๆที่ขาดโอกาสและไม่มีรองเท้าใส่ในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยในแคมเปญนี้ไม่ว่าใครก็ตามสามารถร่วมกิจกรรมได้ทั้งนั้น ด้วยการโพสต์รูปเท้าเปล่าๆบน Instagram แล้วติด #Hashtag คำว่า #WithoutShoes แคมเปญนี้ไม่ได้ให้รางวัลแก่ผู้ที่แชร์รูปเท่าเปล่าครับ แต่เป็นการมอบรองเท้าหนึ่งคู่ต่อหนึ่งการแชร์ภาพให้กับเด็กที่ต้องการ และผลลัพธ์ที่ออกมานั้นก็ถือว่าน่าทึ่งเลยทีเดียวที่มีคนแชร์รูปเท้าเปล่าๆกว่า 296,243 รูป นั่นก็แปลว่าเด็กๆผู้ด้อยโอกาสจำนวน 296,243 คนก็จะได้รองเท้าคู่ใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน

TOMS-Campaign-One-Day-Without-Shoes

Source: https://bholatimes24.com/kjyo.php?cname=toms+shoes+one+for+one+campaign&cid=43

หากใครติดตามและเคยอ่านประวัติแบรนด์ TOMS Link ก็จะรู้ได้ทันทีเลยครับว่า TOMS Link เป็นแบรนด์ที่สร้างธุรกิจด้วยใจที่อยากจะช่วยเด็กผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีแม้แต่รองเท้าจะใส่ โดยใครที่ซื้อรองเท้า TOMS Link ทางแบรนด์ก็จะบริจาคให้กับเด็กผู้ยากไร้ที่ไม่มีรองเท้าใส่จนกลายเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจที่โด่งดังระดับโลกอย่าง One for One นั่นเอง


Pela Case กับการลดมลพิษจากพลาสติก

อีกหนึ่งตัวอย่างด้านแบรนด์ที่ทำ Ethical Marketing นั่นก็คือ Pela Case ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำเกี่ยวกับเคสมือถือ นับเป็นเจ้าแรกในโลกที่ทำเคสมือถือแบบย่อยสลายได้ 100% โดยแนวคิดในการทำแบรนด์นี้ขึ้นมาก็คือการพัฒนาเคสมือถือมาเพื่อต่อกรและรับมือกับปัญหามลพิษด้านสิ่งแวดล้อม Pela Case ใช้หลักจริยธรรมที่เห็นได้ชัดในการโฆษณาอยู่ 2 ประการ นั่นก็คือ 1. การรักษาคำมั่นสัญญา (Promise-Keeping) และความซื่อสัตย์ (Integrity) และสิ่งที่แบรนด์ทำก็คือการนำเอาหลักจริยธรรมมาใช้กับเรื่องต่างๆดังนี้

  • อธิบายถึงกระบวนการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดแบบไม่มีปิดบัง
  • แบ่งปันข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการผลิต วัสดุที่ใช้ และปริมาณการปล่อยคาร์บอน
  • บริจาคหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของยอดขายให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม
Pela_Plastic_Free_July

Source: Wisepops

ทั้งหมดถูกนำมาใช้ในหลากหลายแคมเปญด้านการตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและคำสัญญาที่จะสร้างสภาพแวดล้อมให้กลับมาดีขึ้น ตัวอย่างแคมเปญที่ชื่อว่า “Plastic-Free July” ก็ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญที่สร้างการรับรู้และตระหนักในเรื่องของปัญหามลภาวะที่เกิดจากพลาสติกที่ทุกๆคนสามารถช่วยกันได้ โดยให้ทุกๆคนร่วมกันแชร์ภาพเกมบิงโกเพื่อชิงรางวัล Eco-Giveaway หรือของรางวัลแบบรักษ์โลก และนอกจากนั้นทาง Pela Case เองยังจะสร้างกิจกรรมต่างๆในลักษณะนี้ รวมไปถึงจะมีการแบ่งปันข้อมูลดีๆในการกำจัดพลาสติกออกจากชีวิตอีกด้วย

Pela_Plastic_Free_July_1

Source: Wisepops


illy Coffee กาแฟรักษ์โลก

illy Coffee ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลาหลายสิบปีติดต่อกันในฐานะ “ผู้นำในการพัฒนามาตรฐานธุรกิจที่มีจริยธรรม” ซึ่งใช้กับทั้งฝ่ายปฏิบัติการและด้านการตลาด แบรนด์มีภารกิจในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมกาแฟ จากการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สิ้นเปลือง การทำลายสิ่งแวดล้อม และการปล่อยก๊าซคาร์บอนสูง illy Coffee ได้นำปรัชญาในการทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมเข้ามาใช้ ดังนี้

  • โครงการ “Escuela y Café”: มอบทุนสนับสนุนโรงเรียนในชนบท 64 แห่งในโคลอมเบีย
  • โครงการ “Viveiro de Atitude” สร้างแหล่งเพาะพันธุ์พืช 100 ชนิด
  • ซื้อระบบบำบัดน้ำเสียให้กับผู้ผลิตกาแฟ 13 รายในประเทศนิการากัวและฮอนดูรัส
Illy Coffee

Source: Illy Coffee

การตลาดที่มีจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน โดยเราจะเห็นธุรกิจหลายแห่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการนำหลักจริยธรรมเข้ามาใช้กับการตลาด กลยุทธ์การทำ Ethical Marketing สามารถช่วยให้พวกเขาดึงดูดผู้บริโภคที่มีความคิดเหมือนๆกันที่อยากช่วยเหลือสังคมอย่างมีความหมาย ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ลูกค้า และชุมชนท้องถิ่น ทำอะไรภายใต้ความโปร่งใสและเป็นธรรม แถมยังช่วยให้ผู้บริโภคเรียนรู้วิธีในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์อย่างมีสติมากยิ่งขึ้น


Share to friends


Related Posts

จริยธรรมในการทำธุรกิจ (Business Ethics)

จริยธรรมในการทำธุรกิจ (Business Ethics) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดเล็ก หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายธุรกิจออนไลน์หรือแบบออฟไลน์ก็ตาม หากไม่มีจริยธรรมในการทำธุรกิจก็คงไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมหรืออุดหนุนสินค้าหรือบริการของเราอย่างแน่นอน


รู้จัก Evangelism Marketing กับการสร้างสาวกให้กับธุรกิจของคุณ

“Evangelism” ได้เริ่มกลายมาเป็นที่นิยมตั้งแต่ช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มมีการเติบโตและมีความนิยมตั้งแต่ช่วงปลายของปี 1990 เป็นต้นมา โดยเริ่มมีการทำการตลาดที่มุ่งเน้นการรักษาลูกค้าเก่าๆของธุรกิจ ผ่านการสร้างประสบการณ์ดีๆบนโลกออนไลน์ด้วยการเปลี่ยนให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำๆจนกลายเป็นสาวกของแบรนด์


ตัวอย่างการตลาดที่ผิดพลาดจากการไม่ใส่ใจบริบท

บริบทหรือ Context นั้นถือว่ามีความสำคัญรองลงมาจากคำว่า Content โดยหากจะทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์เพื่อการโฆษณา การสื่อสาร การทำแคมเปญการตลาด หรือแม้แต่การออกแบบรวมไปถึงการตั้งชื่อสินค้าหรือบริการ ก็จำเป็นต้องนำเอาบริบทรอบๆด้านเข้ามาเป็นส่วนในกระบวนการคิดและวางแผนด้วยเช่นกัน เพราะหากคุณลืมนำบริบทรอบๆด้านมาช่วยในการวางแผนทำคอนเทนต์และสื่อสารออกไปสู่กลุ่มเป้าหมาย



copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์