เคล็ดลับสู่การเป็น Influencer มืออาชีพ (How to be Professional Influencer)

Influencer หรือ คนที่มีชื่อเสียงในทางใดทางหนึ่งที่มีคนติดตามจำนวนมาก ได้กลายเป็นหนึ่งในวิธีทางการตลาดอันดับต้นๆที่หลายแบรนด์ใช้ในยุคนี้ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงการรีวิวหรือโปรโมทสินค้าเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งการเป็น Influencer นั้นถือเป็นช่องทางในการสร้างรายได้อีกทางหนึ่งที่หลายๆคนอยากเป็น แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะเป็น Influencer แบบมืออาชีพได้ เรามาดูเคล็ดลับกับครับ

คุณสมบัติของ Influencer ที่ต้องมี

การเป็น Influencer นั้นหมายถึง การที่คุณเป็นคนธรรมดาแต่จะมีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษกว่าคนธรรมดาทั่วไปที่สามารถชี้นำ กระตุ้น โน้มน้าวให้กลุ่มผู้ฟังทำตามในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้

  • ความน่าเชื่อถือ
  • ความรอบรู้ในเรื่องที่พูด
  • ศิลปะการสื่อสารที่ดี เข้าใจง่าย
  • มีความเข้าใจผู้ฟัง
  • มีวินัยและไม่มีเรื่องเสียๆหายๆ

Influencer ถือเป็นบุคคลต้นแบบ (Role Model) และผู้นำทางความคิด (Opinion Leader) ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและรู้ในสิ่งที่ตัวเองสื่อสารได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่เป็นต้นแบบที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก ก็ต้องเป็นคนที่ทำในสิ่งดีๆไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นผลกระทบเชิงลบจนถึงขั้นไม่มีผู้ติดตามหรืออาจโดนเลิกจ้างงานต่างๆเลยก็ได้

ค้นหาสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด

Source : Benjamin Earwicker from FreeImages

ก่อนเริ่มชีวิตการเป็น Influencer มืออาชีพ สิ่งแรกที่สำคัญ คือ การเลือกสิ่งที่คุณถนัดหรือสิ่งที่ชอบเพื่อสร้างคอนเท้นต์เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น โดยจำเป็นต้องมีประสบการณ์ในระดับหนึ่งในเรื่องนั้นๆเพื่อสถาปนาตัวเองให้เป็น Influencer

การเป็น Influencer ก็ต้องทำการบ้านค้นคว้าในเรื่องที่คุณสนใจ ฉะนั้นควรเลือกเรื่องที่คุณมีความมุ่งมั่น มี passion มีพลังในการใช้เวลาอยู่กับมัน เช่น คุณชอบการทำอาหารก็อาจลองหาเมนูใหม่ๆ ชอบงานพวก DIY ก็ลองหาการประดิษฐ์งานใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสามารถนำเอาหลายอย่างในความชอบมาผสมผสานในการทำคอนเท้นต์ได้ แต่อย่าเอามาเยอะจนเกินไป ตัวอย่างเรื่องที่สามารถเช่าได้ เช่น

  • การท่องเที่ยว
  • แฟชั่น
  • ไลฟสไตล์
  • อาหารการกิน
  • กีฬา
  • ความสวยความงาม
  • การเล่นเกมส์
  • เทคโนโลยี
  • สายบันเทิง
  • ร้องเพลง
  • สุขภาพและการออกกำลังกาย
  • อสังหาริมทรัพย์
  • รถยนต์
  • การตลาด
  • อื่นๆ

รู้จักแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

การเป็น Influencer นั้นก็จำเป็นต้องเลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม และเป็นช่องทางที่กลุ่มผู้ฟังนั้นเปิดรับอยู่เป็นประจำ ซึ่งขาดไม่ได้เลยสำหรับการเป็น Influencer หากเรามองดันชัดๆ Instagram กับ LinkedIn นับเป็นช่องทางที่สำคัญสำหรับการทำ Influencer Marketing ที่เป็นที่นิยมมากขึ้น

Instagram นั้นมุ่งไปที่กลุ่ม Gen Z และกลุ่ม Millennials ที่ชื่นชอบพวกความสวยความงาม แฟชั่น อาหาร การออกกำลังกาย ไลฟสไตล์ และอื่นๆอีกมากมาย

ส่วน LinkedIn มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะอุตสาหกรรมพวกประเภทธุรกิจแบบ B2B ซึ่งจะชอบให้ความเห็น การตีความ การวิจารณ์ข้อมูลอุตสาหกรรมต่างๆ จากความรู้และประสบการณ์ ที่สร้างให้เกิดความน่าเชื่อถือกับตัว Influencer บริษัท และแบรนด์ของตนเอง อาทิ การทำธุรกิจ การบริหารจัดการ การศึกษา การจ้างงาน และอื่นๆ

นอกจากนั้นการ Live ผ่าน Facebook หรือ การใช้ Podcast ร่วมกับ YouTube ก็เป็นอีกช่องทางที่ใช้ได้กับ Influencer ในหลายๆช่วง Generation ของกลุ่มผู้ฟังที่มีความสนใจในเรื่องต่างๆได้อีก

ตั้งค่าโปรไฟล์และข้อมูลส่วนตัว

หลังจากทำการเลือกคอนเท้นต์ที่เหมาะสม และเลือกช่องทางในการสื่อสารเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงส่วนของการตั้งค่าโปรไฟล์ ซึ่ง Influencer ส่วนใหญ่ใช้แค่ 1-2 แพลตฟอร์มในการสื่อสารเพียงเท่านั้น ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ทุกแพลตฟอร์มที่มีในโลก การตั้งค่าโปรไฟล์นั้นทำได้โดย

  • การเปลี่ยนจาก Personal เป็น Business Account
    หากคุณตั้งใจจะยึดอาชีพเป็น Influencer แล้วนั้นก็จำเป็นต้องเปลี่ยนโปรไฟล์ให้เป็นแบบธุรกิจ เพื่อช่องทางในการทำการตลาดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter และอื่นๆ

  • สร้างประวัติให้น่าดู
    ประวัติส่วนตัวเป็นสิ่งแรกที่ผู้เข้ามาเยี่ยมชมจะมองดูเป็นอันดับแรกๆ ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างให้เกิดความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ประวัติจำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องราวเพื่อเชื่อมโยงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายคาดหวัง ซึ่งต้องมีข้อมูลทั้งชื่อ นามสกุล ที่ตั้ง รายละเอียดการติดต่อ ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ

  • ใส่รูปโปรไฟล์และภาพ Cover Photo
    นอกจากนั้นต้องใส่รูปภาพทั้งโปรไฟล์และ Cover Photo เพื่อแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์บุคคลที่เรานำเสนอ คนจะสามารถจดจำภาพเหล่านั้นได้ภาพรูปโปรไฟล์ ฉะนั้นควรเลือกภาพที่ดีและเหมาะสมรวมถึงคุณภาพของภาพต่างๆที่ต้องดีตามด้วย

รู้จักผู้ชมและผู้ฟังเป้าหมาย

ก่อนการสร้างคอนเท้นต์และโพสต์ลงโซเชียล มีเดีย เราต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ได้ก่อนเพราะ Influencer จะต้องสื่อสารและสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าใจในทุกอย่างของทุกๆคน แต่จำเป็นต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่ชอบหรือความชอบที่เหมือนๆกัน เพื่อสร้างให้เกิดผู้ติดตามที่ภักดีต่อเรา ฉะนั้นการรู้จักกลุ่มเป้าหมายเราต้องวิเคราะห์จากทั้งข้อมูลทางกายภาพ เช่น เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ รวมไปถึงความชอบ เพื่อการได้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่ดี

โดยส่วนใหญ่โซเชียล มีเดียต่างๆก็มีเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้ชมได้แล้ว

พัฒนาและวางกลยุทธ์การสร้างคอนเท้นต์เหมาะสม

หลังจากที่เรารู้ว่าเราเป็นใคร ถนัดด้านไหน จะพูดหรือสื่อสารอะไร ก็ได้เวลาในการทำให้คนรู้จักกันแล้ว ด้วยการสร้างคอนเท้นต์ที่ยึดพื้นฐานจากเรื่องที่เรารู้จักเป็นอย่างดี เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ โดยคอนเท้นต์นั้นจะถูกวัดผลจากคุณค่าที่ผู้ชมหรือผู้ฟังจะได้รับ

ทุกวันนี้ก็มีหลายแพลตฟอร์มให้ได้สร้างสรรค์คอนเท้นต์ดีๆได้ เช่น การสร้างบล็อก ทำวีดิโอ วีดิโอเสียง การเขียนโพสต์ และอื่นๆอีกมาก โดยไม่ว่าคุณจะใช้แพลตฟอร์มหรือรูปแบบไหนในการสื่อสาร ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเพื่อการกระจายคอนเท้นต์ให้คนได้รับรู้ และเราสามารถใช้สื่อต่างๆในการถ่ายทอดความรู้ของเราได้ อาทิ

  • การทำ Webinar
  • การทำ Podcast
  • รูปแบบ Slideshows
  • การสร้างวีดิโอ
  • การทำอินโฟร์กราฟิก
  • การทำเป็นเอกสาร Whitepapers
  • หรือแม้แต่การเขียนหนังสือเลยก็ได้

Influencer ต้องวางกลยุทธ์การสร้างคอนเท้นต์ด้วยการผสมผสานคอนเท้นต์หลายๆแบบเข้าด้วยกันเพื่อให้เข้ากับสิ่งที่ผู้ชมชอบมากที่สุด โดยบางคนก็เลือกที่จะโพสต์ทุกอย่างในขอบเขตความชอบทั้งหมด เช่น อาหาร ท่องเที่ยว แฟชั่น ความสวยความงาม ลงในทั้งโพสต์ส่วนตัวและโพสต์ Business แต่ Influencer ที่เป็นมืออาชีพจะเลือกโพสต์คอนเท้นต์ที่เกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงโดยไม่รวมสิ่งที่ตัวเองชอบในเรื่องอื่นๆเข้ามาโพสต์บนหน้า Business ของตัวเอง เช่น หากคุณเป็น Influencer ด้านอาหาร คุณอาจโพสต์เกี่ยวกับสูตรการทำอาหาร รูปภาพภัตตาคารหรือร้านอาหารที่ไปทาน การรีวิวร้านต่างๆ หรือแม้แต่โปโมชันของร้านต่างๆ เป็นต้น

Audrey's IG

Source: influencermarketinghub.com/how-to-become-an-influencer/

โปรโมทคอนเท้นต์ให้ถูกช่องทาง

การจะเป็น Influencer นั้นต้องมีการป่าวประกาศให้คนอื่นๆรู้ในความคิดเห็น ไอเดีย ความคิดที่เรามี โดยหากสิ่งที่คุณนำเสนอนั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงพอและสามารถจูงใจให้คนติดตาม ก็สามารถการันตีในเบื้องต้นได้ว่าคุณเริ่มมาถูกทางแล้ว การเป็น Influencer นั้นควรเลือกให้ความรู้ วิจารณ์หรือให้ความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆอย่างมั่นใจ ด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉานมากกว่าเน้นความนุ่มนวล และควรเลือกช่องทางโซเชียล มีเดีย เพียงหนึ่งช่องเพื่อการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่คุณเป็น

นอกจากนั้นการทำคอนเท้นต์ที่ผู้ชมอยากรู้หรือเป็นเรื่องราวที่กำลังเป็นที่พูดถึง จะยิ่งสามารถสร้างให้เกิดความชื่นชอบในตัวคุณได้ ผู้ชมที่ติดตามคุณจะรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เอาใจใส่ในสิ่งที่คนอยากรู้ และอาจเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างจากคนอื่นๆอีกด้วย

Social Media Icon

Source: flaticon.com

สร้างเครือข่ายและเพิ่มฐานคนติดตาม

ได้เวลาในการสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงให้คนรู้จักคุณในฐานะ Influencer มากยิ่งขึ้น ซึ่งทางที่ดีที่สุดทางหนึ่ง คือ การสร้างเครือข่ายกับ Influencer ต่างๆด้วยกันเอง คุณต้องจำไว้ว่าเมื่อคุณเริ่มการเป็น Influencer แล้ว หากไม่สร้างตัวเองให้เป็นจุดสนใจก็คงจะไม่มีใครรู้จักคุณ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องพยายามในการเข้าถึงกลุ่มคนต่างๆให้ได้มากที่สุด

คุณสามารถเริ่มต้นจากการแสดงความคิดเห็นตามบล็อก ตามโพสต์ต่างๆ หรือในสื่อออนไลน์ต่างๆที่มี เพื่อสร้างให้คนเริ่มจดจำในสิ่งที่เราพูดหรือคิดในการต่อยอดเป็นผู้ติดตามเราในอนาคต นอกจากนั้นการเข้าร่วมงานสัมมนา งานประชุม งานเทรดโชว์ หรืออีเว้นท์ต่างๆก็เป็นเรื่องที่ Influencer นั้นควรจะทำเพื่อพบปะผู้คนและอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ และนำมาแสดงความคิดเห็นต่างๆในช่องทางของตัวเองได้

สื่อสารอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

หลังจากที่คุณสามารถเลือกคอนเท้นต์และช่องทางในการนำเสนอเรื่องราวต่างๆได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาบริหารจัดการคอนเท้นต์ต่างๆด้วยการสร้างตารางเพื่อกำหนดความถี่และช่วงเวลาในการโพสต์ข้อมูลต่างๆ ซึ่งคุณสามารถทดลองการโพสต์ต่างๆแล้วดูจากสถิติในโซเชียล มีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ หรือการดูเทรนด์จากเว็บไซต์ต่างๆก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถนำเสนอคอนเท้นต์ไปยังกลุ่มผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่าง Instagram ที่มีการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้ Influencer สามารถเลือกช่วงเวลาในการทำคอนเท้นต์ดีๆเพื่อโพสต์ไปยังกลุ่มผู้ชม และกลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่จำเป็นสำหรับนักการตลาดเลยทีเดียว

IG Global Engagement

Source: influencermarketinghub.com/how-to-become-an-influencer/

คุณสามารถเลือกว่าจะโพสต์เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือตามความถี่ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแพลตฟอร์ม ทั้ง Twitter, Facebook, YouTube หรือ Facebook โดยแต่ละแพลตฟอร์มนั้นก็จะมีความแตกต่างในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร แต่อย่าลืมนะครับว่า Influencer ต้องโพสต์หรือพูดคุยกับผู้ชมอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างให้เกิดความประทับใจระหว่างตัว Influencer เองและกลุ่มผู้ชม

รับฟังและพูดคุยกับผู้ชมอยู่เสมอๆ

คีย์หลักของการเป็น Influencer นั้นคือ คุณได้กลายเป็นคนที่มีคนติดตามอยู่อย่างสม่ำเสมอ และอยากที่จะพูดคุย สนับสนุนความคิดเห็นของคุณในทุกๆครั้งที่คุณโพสต์อะไรออกไป การติดตามและตรวจสอบปฏิกิริยาของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะ การกดไลค์ การกดแชร์ หรือแม้แต่คนที่ไม่ชอบในสิ่งที่เราโพสต์นั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการตรวจสอบจากโพสต์ต่างๆที่คุณโพสต์ในแพลตฟอร์มต่างๆด้วยตัวเอง หรือการใช้ Social Listening Tools ที่จะทำให้คุณรู้ว่าแบรนด์บุคคลของคุณมีสุขภาพอย่างไร มาเก็บข้อมูลเหล่านี้ก็ได้

ในฐานะที่คุณเป็น Influencer คุณไม่สามารถเพิกเฉยต่อความคิดเห็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่ดีและไม่ดี คุณต้องพูดคุยกับผู้ชมอย่างสม่ำเสมอทั้งรูปแบบการตอบกลับ การกดไลค์คอมเม้นท์ รวมถึงหากผู้ชมเสนอแนะอะไรใหม่ๆคุณอาจจะนำมาปรับปรุงและเสนอคอนเท้นต์ที่กลุ่มผู้ฟังสนใจ ก็จะยิ่งทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจในตัวคุณที่มากขึ้น

การเริ่มถามคำถามต่างๆเพื่อให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ชม ที่ส่งผลให้ความเป็น Influencer ในตัวคุณเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น

อย่าลืมติด #แฮชแท็ก

Hashtag

#แฮชแท็ก ถือเป็นเทคนิคหนึ่งทางการตลาดที่สำคัญสำหรับ Influencer โดย #แฮชแท็ก จะช่วยกระจายการเข้าถึงคอนเท้นต์ที่คุณมีไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่กว้างยิ่งขึ้น นั่นหมายถึงโอกาสในการขยายกลุ่มผู้ชมของตัวคุณเอง ดังนั้นการติด #แฮชแท็ก ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณนำเสนอ หรือ #แฮชแท็ก ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ธุรกิจต่างๆจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ความเป็น Influencer ได้อย่างมากเลยทีเดียว

คุณสามารถค้นหา #แฮชแท็ก ที่กำลังเป็นที่นิยมหรือมีคนพูดถึงได้จากหลายๆที่ หรือแม้แต่การตรวจสอบจาก Social Listening Tools ต่างๆ หรือแม้แต่การดูจาก Influencer คนอื่นๆก็ได้ และอย่าลืมโน้มน้าวหรือจูงใจให้ผู้ชมของคุณให้ติด #แฮชแท็ก เวลาไปโพสต์ในแพลตฟอร์มต่างๆด้วยก็จะยิ่งดี

ลองเล่นกิจกรรมสนุกๆดูบ้าง

การเป็น Influencer มืออาชีพในสิ่งที่คุณถนัดนั้น สิ่งหนึ่งคือความสามารถในการตอบข้อสงสัย ความอยากรู้ และคำถามต่างๆที่ผู้ชมคอยเฝ้าถามอยู่เสมอ คุณสามารถลองทำกิจกรรมหรือเกมส์สนุกๆเพื่อสร้างให้เกิดการพูดคุยกับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง และสร้างความน่าเชื่อถือได้ อาทิ การถามเรื่องที่อยากรู้ การตอบคำถามชิงของรางวัล การมอบของที่ระลึก การ Live สดและให้คนเข้ามาตอบคำถาม หรือกิจกรรมที่ให้ผู้ชมแชร์ภาพต่างๆ ทั้งในรูปแบบการแชร์โพสต์ต่อ การคอมเม้นท์ หรือการชวนเพื่อนๆมากดติดตาม

การทำกิจกรรมต่างๆจะทำให้คุณเกิดความเข้าใจกลุ่มผู้ชมมากยิ่งขึ้น และเผลอๆคุณอาจจะได้คอนเท้นต์ดีๆในการพูดคุยหรือนำเสนอในครั้งต่อๆไปจากคำถามต่างๆของผู้ชมอีกก็ได้

บอกให้แบรนด์ต่างๆรู้ว่า คุณพร้อมที่จะช่วยโปรโมท

เมื่อคุณได้กลายเป็น Influencer มืออาชีพที่มีกลุ่มผู้ชมจำนวนมากก็ได้เวลาที่คุณจะประกาศให้ธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องรู้ว่า คุณพร้อมที่จะร่วมงานในการช่วยรีวิวหรือโปรโมทสินค้าต่างๆ โดยในกรณีนี้คุณควรทำเป็น Presentation หรือเขียนประวัติส่วนตัวส่งเป็นจดหมายหรืออีเมล์ เพื่อให้บริษัทต่างๆพิจารณาคุณเป็นตัวเลือกหนึ่งในการที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้


Cover photo by David Dräyer from FreeImages

Share to friends


Related Posts

สร้าง Social Media Content อย่างไร ให้มีคนแชร์

คอนเท้นต์กลายเป็นหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการวางกลยุทธ์การตลาดและการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน และเมื่อรวมกับโลกโซเชียล มีเดียแล้วก็ยิ่งทำให้การวางกลยุทธ์ในการทำคอนเท้นต์เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องหันมาใส่ใจเป็นอันดับแรก หลายๆองค์กรพยายามสร้างคอนเท้นต์ที่แปลกใหม่และผลิตคอนเท้นต์ออกมาเรื่อยๆ


สร้าง Storytelling ให้กับแบรนด์

Storytelling หรือการเล่าเรื่องราว แท้ที่จริงแล้วมีมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่เราเห็นหลักฐานจากการวาดภาพในถ้ำต่างๆที่ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับถิ่นกำเนิด การใช้ชีวิต การดำรงชีพ ไปสู่การเล่าเรื่องราวแบบปากต่อปากถ่ายทอดมาเรื่อยๆสู่สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์


มาตรวจสุขภาพของแบรนด์กันเถอะ (Brand Health Check)

เมื่อคุณสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนอกเหนือจากการพัฒนาคุณภาพสินค้าหรือบริการให้ดียิ่งๆขึ้นไปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การตรวจสอบผลลัพธ์ของสิ่งที่แบรนด์ได้สร้างว่ามีเสียงสะท้อนอย่างไร



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์