คอนเทนต์คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาดในยุคนี้ โดยนักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ การขายสินค้าหรือบริการ การสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ (Brand Awareness) รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในแคมเปญต่างๆ และเป้าหมายของการทำคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ การทำให้เกิด Conversion หรือ การเปลี่ยนไปเป็นยอดขาย เกิดยอดติดตาม เกิดยอดคอมเม้นท์ เกิดการอ่าน เกิดการแชร์ให้ได้มากที่สุด ด้วยวิธีง่ายๆดังนี้
เริ่มด้วยการรู้จักกลุ่มเป้าหมาย
เวลาจะเขียนคอนเทนต์อะไรก็ตามต้องรู้ว่าใครจะเป็นกลุ่มผู้ฟังเป้าหมายเสมอ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ฟังนั้นต้องการรู้อะไร อยากได้อะไร อะไรที่ทำให้พวกเค้ารู้สึกดี อะไรที่ทำให้พวกเค้ารู้สึกหงุดหงิด พวกเค้ากำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ และในส่วนนี้ถือว่าสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์เพื่อให้เกิด Conversion ในแบบต่างๆ ซึ่งมีลักษณะดังนี้
- เจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
- แก้ปัญหาต่างๆหรือ pain point ที่กลุ่มเป้าหมายกำลังเผชิญอยู่ให้ได้
- มอบคุณค่าให้กลุ่มเป้าหมายด้วยการเสนอวิธีการ ข้อคิดเห็น ที่สามารถช่วยกลุ่มเป้าหมายให้ก้าวข้ามปัญหาต่างๆได้
Headline ต้องโดน
หัวข้อหรือ Headline เป็นสิ่งแรกที่กลุ่มเป้าหมายจะได้เห็นและมักจะดึงดูดให้คนเข้ามาดู หากหัวข้อที่เขียนมันธรรมดาจนเกินไปและไม่สามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ ก็คงไม่สามารถสร้างให้เกิด Conversion ในการเข้ามาดูคอนเทนต์ที่เราอุตส่าห์เขียน และในทางกลับกันหากหัวข้อดีน่าดึงดูดแต่คอนเทนต์ด้านในไม่น่าสนใจอย่างที่คิดก็อาจส่งผลเสียต่อ Conversion Rate ได้เช่นเดียวกัน โดยหัวข้อนั้นก็ควรมีลักษณะดังนี้
- หัวข้อเคลียร์และชัดเจนเพื่อบอกให้กลุ่มเป้าหมายรู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร
- ใช้ตัวเลขหรือสถิติมาใช้ในหัวข้อ เช่น “ผลการวิจัยกว่า 90% พบว่า” “70% ของผู้ใช้”
- เขียนหัวข้อแบบกระตุ้นอารมณ์ (Emotional)
- เน้นเอาปัญหาของกลุ่มเป้าหมายมาเขียนเป็นหัวข้อ
Source: kapook.com
โครงสร้างของคอนเทนต์ต้องมีความเหมาะสม
หัวข้อคอนเทนต์จะดีแค่ไหนแต่หากจัดระเบียบการเขียนคอนเทนต์ไม่เหมาะสม อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาอ่านเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและเลิกอ่านไปได้ง่ายๆ ซึ่งโครงสร้างที่เหมาะสมนั้นก็มีลักษณะดังนี้
- มีการเกริ่นนำและอธิบายว่าคอนเทนต์นั้นเกี่ยวกับอะไร ผู้อ่านจะได้อะไร
- ใช้ประโยคสั้นๆ ย่อหน้าสั้นๆ หรือการทำเป็นหัวข้อ (Bullet) สรุปว่าเนื้อหาภายในมีอะไรบ้าง เพราะผู้อ่านคงไม่อยากอ่านอะไรที่มันยาวจนเกินไป ควรจัดระเบียบเนื้อหาให้ลงตัวอ่านง่าย
- แบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆเพื่อให้น่าอ่านมากยิ่งขึ้น
- นำภาพเข้ามาประกอบในเนื้อหาบ้างเพื่อดึงดูดความสนใจ
- หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่สวยหรูจนเกินไปจนยากแก่การเข้าใจ
- สรุปใจความสำคัญและอาจเสริมด้วยการนำเสนอแนวทางการนำไปใช้ หรือพวก Key take away ก็น่าสนใจครับ
เขียน Personalized Content
Personalized Content หรือ คอนเทนต์แบบเฉพาะเจาะจงที่จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจคุณได้ ด้วยการเขียนคอนเทนต์ให้กับสมาชิกแต่ละคนในแบบที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เค้ารู้สึกว่าเป็นคนที่พิเศษ บางคอนเทนต์ก็เป็นแบบใช้ทั่วๆไปที่ส่งให้ทุกๆคนแต่บางคอนเทนต์ก็ควรตั้งเป้าแบบชัดเจนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงครับ
ใส่เนื้อหาแบบ Interactive ลงในคอนเทนต์
อะไรที่สร้างให้เกิดการสื่อสารหรือการมีส่วนร่วมในคอนเทนต์ จะช่วยสร้างให้เกิด Conversion ได้ดีและในหลายๆครั้งก็สร้างให้เกิด Conversion Rate ได้มากขึ้นสองถึงสามเท่าเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลดีกับการที่กลุ่มเป้าหมายนั้นใช้เวลาอยู่กับเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้นอ่านเนื้อหามากยิ่งขึ้น ที่สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น
- เกมตอบคำถาม
- ภาพอินโฟกราฟิกที่สร้างให้เกิดการพูดคุย
- ทำ Quiz หรือคำถามต่างๆให้ผู้อ่านตอบ
- ระบบคำนวณราคา เช่น เงินผ่อน ดอกเบี้ย เงินดาวน์ การวางแผนทางการเงิน
Source: elleandcompanydesign.com/blog/quiz-opt-in
วัดผลคอนเทนต์
สุดท้ายคือการวัดผลในทุกๆคอนเทนต์ที่มีการโพสต์ในสื่อต่างๆ เพื่อดูว่าคอนเทนต์รูปแบบไหนประเภทไหนสร้าง Conversion ได้มากที่สุด หัวข้อแบบไหนดึงดูดให้คนเข้ามาดูมากที่สุด รูปแบบเกมประเภทไหนสร้างการมีส่วนร่วมมากที่สุด ซึ่งควรวัดผลทั้ง Traffic จำนวนคลิก การเข้าชม การตอบคำถาม การร่วมแสดงความเห็น ไปจนถึงการแชร์ต่อ เพื่อนำมาปรับปรุงคอนเทนต์ให้ดีอย่างต่อเนื่องต่อไป
Photos by freepik – www.freepik.com