เทคนิคการเขียน Marketing Plan ให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะปวดหัวในช่วงสิ้นปีที่ต้องมีการวางแผนธุรกิจสำหรับปีต่อๆไป โดยเฉพาะแผนการตลาด (Marketing Plan) ที่จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการดึงดูด Potential Customer และสร้าง Quality Lead ให้กับทีมขายเพื่อผลักดันยอดขายให้เกิดขึ้นได้เข้าเป้าหมายมากที่สุด และการวางแผนการตลาด (Marketing Plan) ในช่วงปลายปีนั้นก็นับว่ามีความวุ่นวายค่อนข้างมากที่นอกเหนือจากแผนที่ต้องวาง ซึ่งก็มีทั้งงานสนับสนุนส่วนงานต่างๆ การปรับแผนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และงานอื่นๆอีกมากมายเป็นแน่แท้ และสำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่มต้นในการวางแผนการตลาด ก็คงจะปั่นป่วนไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นและจับต้นชนปลายตรงไหน บทความนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด (Marketing Plan) ของคุณอย่างแน่นอนครับ

โดยก่อนอื่นนั้นผมขอสรุปรวมในสิ่งที่จำเป็นต้องมี และสิ่งที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการวางแผนการตลาด (Marketing Plan) เพื่อให้ทุกๆคนเห็นภาพไปพร้อมๆกัน

What's next?

Checklist กับสิ่งที่ควรรู้และควรมีสำหรับ
การวาง Marketing Plan

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจ B2B หรือ B2C ก็ตามคุณก็จำเป็นต้องรอบรู้ข้อมูลในด้านต่างๆในอุตสาหกรรมของคุณ ที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด (Marketing Plan) และทั้งหมดที่คุณควรต้องรู้นั่นก็คือ

1. บทสรุปภาพรวมธุรกิจของตัวเอง

ภาพรวมธุรกิจหรือ Business Summary ที่แสดงให้เห็นชื่อของธุรกิจคุณ ธุรกิจของคุณทำอะไร จัดอยู่ในประเภทไหน มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจอย่างไร มีโครงสร้างธุรกิจในเครืออย่างไร สินค้า/บริการมีอะไร โดยหากคุณไม่สามารถอธิบายความเป็นตัวคุณได้ ก็ไม่น่าที่จะไปต่อได้ในการวางแผนการตลาดจริงไหมครับ และนั่นก็ควรจะรวมในเรื่องของการทำ SWOT Analysis Link เข้าไปด้วยครับ

2. การกำหนดแนวคิดในการทำธุรกิจ

ส่วนประกอบหนึ่งของการวางแผนการตลาดนั่นก็คือการใส่ความคิดริเริ่มในการทำธุรกิจ ซึ่งมันจะช่วยอธิบายภาพให้เห็นถึงตลาดและกลุ่มเป้าหมายรวมถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดเยอะแยะมากมายจนใหญ่โตเพราะมันจะกลายเป็นระดับของแผนธุรกิจ (Business Plan) นั่นเองครับ

3. การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

การทำวิจัยหรือสำรวจตลาดเบื้องต้นนั่นก็คือการค้นหาดูว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ ซึ่งมันจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าและทำการตลาดได้ง่ายมากขึ้น และนั่นก็หมายถึงคุณต้องเข้าใจ Persona Link ของกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายให้ดีที่ลึกมากกว่าข้อมูลแค่เพียง เพศ อายุ การศึกษา รายได้ อาชีพ เช่น เป้าหมายในชีวิต แรงจูงใจ ความท้าทาย เป็นต้น

การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

4. การวิเคราะห์คู่แข่ง

นอกจากการเข้าใจในตัวกลุ่มเป้าหมายของคุณแล้ว ยังจำเป็นต้องเข้าใจและรู้จักคู่แข่งของคุณด้วย เพื่อดูว่าคู่แข่งในตลาดนั้นนำเสนออะไร มีตำแหน่งทางการตลาดอย่างไร Link มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ ราคาเป็นอย่างไร กลุ่มลูกค้าเป็นใคร เพื่อที่จะได้วางแผนการตลาดของคุณให้ดีกว่าคู่แข่งนั่นเอง

5. การกำหนดกลยุทธ์การแข่งขันในตลาด

ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจคือคุณจะเจาะตลาดด้วยกลยุทธ์อย่างไรบ้าง ซึ่งมันไม่ได้หมายถึงกลยุทธ์การตลาดแบบเต็ม Max ในขั้นตอนนี้นะครับ แต่เป็นกลยุทธ์ที่เป็นพื้นฐานมาจากส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) โดยหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่าการกำหนด 4Ps และ 7Ps เป็นต้น

6. การกำหนดงบประมาณ

สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่มีผลต่อการวางแผนการตลาดนั่นก็คือเรื่องของงบประมาณครับ โดยเรากำลังพูดถึงทั้งต้นทุนที่เป็นทั้งค่าแรงทีมงาน ต้นทุนที่ต้องใช้ในการนำเอาโปรแกรมทางการตลาดมาใช้ การว่าจ้างทีมงานเอเยนซี่ ค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา การจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องนำมาคำนวณร่วมกับทีมผู้บริหารและฝ่ายการเงินเพื่อดูว่ามันคุ้มค่าในการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจมากน้อยแค่ไหน

7. การกำหนดช่องทางการทำการตลาด

ก่อนจะถึงสิ่งที่ต้องเตรียมอันท้ายสุดก็คือการวางแผนช่องทางการตลาด คุณต้องมีการเตรียมรายชื่อช่องทางในการโปรโมทสินค้าและบริการ รวมถึงการสื่อสารแบรนด์ของคุณเอาไว้ โดยแต่ละช่องทางก็ต้องให้มีความสัมพันธ์กับรูปแบบสื่อที่จะใช้ วัตถุประสงค์ทางการตลาด และการมีอยู่ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลดีเดีย ช่องทางออนไลน์ หรือจะเป็นออฟไลน์อีเว้นท์ก็ตาม

8. การวางแผนการเงิน

สุดท้ายที่ต้องรู้นั่นก็คือการเตรียมการคาดการณ์ทั้งรายจ่ายและรายรับ ว่ากิจกรรมทางการตลาดที่จะเกิดนั้นต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งต้องยึดตามหลัก ROI หรือ Return On Invesment เพื่อดูว่ามันคุ้มค่ามากเพียงใด โดยอาจวางแผนเป็นรายไตรมาส รายครึ่งปี และรายปี ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ถูกต้องแบบ 100% ซะทีเดียว แต่มันก็จะช่วยให้คุณวางแผนได้ดีมากขึ้นครับ

การวางแผนการเงิน

ขั้นตอนการทำ Marketing Plan ให้มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณได้รู้แล้วว่าการจะวางแผนการตลาด (Marketing Plan) นั้นมีข้อควรรู้หลักๆอยู่ด้วยกัน 8 ข้อ ทีนี้เรามาดู 5 ขั้นตอนในการเริ่มวาง Marketing Plan กันครับ

ขั้นตอนการทำ Marketing Plan ให้มีประสิทธิภาพ

1. ทำบทวิเคราะห์สถานการณ์

อันดับแรกเลยก่อนจะเริ่มวางแผนใดๆจะต้องเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์ (Situation Analysis) เพื่อให้เห็นว่าสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของคุณนั้นอยู่ตรงไหนแล้ว อะไรคือจุดเด่น จุดด้อย โอกาสที่มี และอุปสรรคในการทำธุรกิจ ซึ่งนั่นก็คือ การทำ SWOT Analysis Link นั่นเองครับ ที่ถือเป็นพื้นฐานไม่ว่าคุณจะเริ่มธุรกิจใดๆก็ตาม และเวลาคุณทำ SWOT Analysis Link คุณอาจลองตั้งคำถามเหล่านี้เพื่อเตรียมตัวในการวางแผนต่อไป เช่น

  • คุณเจอช่องว่างอะไรในตลาดที่จะเข้าไปเติมเต็มได้บ้าง
  • คุณจะสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) Link ได้อย่างไร
  • อะไรคือคุณค่าที่จะมอบให้กับลูกค้า
  • จะผลิตสินค้า / บริการให้ดีกว่าคู่แข่งขันได้อย่างไร

2. ระบุกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

เมื่อคุณทำการวิเคราะห์สถานการณ์ (Situation Analysis) เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นต่อไปก็คือคุณต้องเข้าใจตลาดที่คุณทำการแข่งขันให้ดีที่สุด และนั่นก็คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของธุรกิจคุณ โดยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนั้นคุณต้องแตะลงลึกไปในระดับที่เรียกว่า Persona Link ของลูกค้าให้ได้ละเอียดมากที่สุดครับ เพราะมันจะทำให้คุณมองเห็นถึงปัญหาที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายมีอยู่ และคุณจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร ที่สามารถนำมาวางแผนและตั้งเป้าหมายทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพได้

3. กำหนดเป้าหมายแบบ SMART Goal

เป้าหมายที่มีประสิทธิภาพคือเป้าหมายที่เรียกว่า SMART Goal Link ครับ เพื่อที่คุณจะสามารถวัดผลแผนหรือแคมเปญการตลาดที่ล้อไปกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแม่นยำมากที่สุด โดย SMART Goal Link นั้น ก็ประกอบไปด้วย

  • Specific – เจาะจงรายละเอียด ชัดเจน
  • Measurable – วัดผลได้
  • Achievable / Attainable – เป้าหมายที่ท้าทายและทำได้จริง
  • Realistic / Relevant – มีความเกี่ยวเนื่องกัน ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
  • Timely / Time-bound – มีกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจน

4. วิเคราะห์และกำหนดกลยุทธ์ / กลวิธี

เมื่อคุณได้เป้าหมายทางการตลาดแล้วก็ได้เวลากำหนดกลยุทธ์และกลวิธี (Strategy & Tactics) เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น คุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเพิ่มยอดผู้ติดตามบน Facebook ให้ได้ 15% ใน 3 เดือน คุณอาจต้องวางแผนให้ร่วมเล่นเกมหรือกิจกรรมที่มีของแจกในทุกๆ 2 วัน เป็นต้น

5. กำหนดงบประมาณ

ข้อสุดท้ายที่ถือว่าสำคัญมากที่สุดข้อหนึ่งก็คืองบประมาณครับ การวางแผนใดๆหากไม่สามารถระบุงบประมาณที่เหมาะสมและส่งผลดีต่อธุรกิจได้ ก็ยากที่ผู้บริหารจะอนุมัติและนั่นก็จะทำให้งานของคุณหมดประสิทธิภาพไปในที่สุด ดั้งนั้นเมื่อคุณได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้วก็จำเป็นต้องวางแผนเรื่องงบประมาณ ที่สามารถสนับสนุนการวัดผลในแต่ละแผนงานได้ ซึ่งงบประมาณนั้นก็รวมไปถึงเรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกันครับ


Share to friends


Related Posts

วิเคราะห์ SWOT ให้ชัดเจน สำหรับการวางแผนธุรกิจ

SWOT Analysis ถือเป็นเทคนิคการวางแผนกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจ ในการระบุจุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และ ภัยคุกคาม (Threats) เพื่อให้ทราบว่าเราเป็นใคร เรามีจุดแข็งตรงไหน จุดอ่อนของเรามีอะไร มีโอกาสอะไรบ้างในตลาด และอะไรคืออุปสรรคหรือภัยคุกคามในธุรกิจของเรา ดังนั้น การทำ SWOT Analysis


วิเคราะห์ขีดความสามารถธุรกิจ กับ VRIO Analysis Framework

VRIO Analysis คือ อีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ รวมถึงประเมินทรัพยากร (Resource) และขีดความสามารถขององค์กร (Competitive Advantage) ที่ถูกพัฒนาโดย Jay B. Barney ศาสตราจารย์ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ชาวอเมริกัน โดย VRIO Analysis นั้นถือเป็นการวิเคราะห์จากมุมมองภายในขององค์กร


เทคนิคการสร้าง Personal Brand ให้มีประสิทธิภาพ

Branding ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนของแบรนด์ และมันก็ได้ขยายไปถึงตัวของพนักงานในองค์กรที่จะต้องสะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องกับแบรนด์นั้นๆด้วยเช่นกัน และมันก็คือแนวคิดในการทำ Personal Brand หรือการสร้างแบรนด์บุคคลนั่นเองครับ ซึ่งการทำ Personal Brand นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการสร้างให้ตัวเองนั้นสะท้อนถึงความเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร




7 thoughts on “เทคนิคการเขียน Marketing Plan ให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

Comments are closed.

copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์