จิตวิทยาการใช้ตัวเลขกับงานด้านการตลาด (Numbers & Marketing)

สำหรับนักการตลาดทุกๆคนคงจะคุ้นเคยกับการนำเอาตัวเลขมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคา (Pricing) การคิดหัวข้อคอนเทนต์ (Topic) หรือนำไปปรับใช้กับการตลาดรูปแบบอื่นๆ ซึ่งมันไม่ใช่แค่เพียงการคิดจะตั้งแล้วก็ตั้งขึ้นมาแบบเฉยๆครับ แต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของจิตวิทยาที่เกี่ยวกับตัวเลข ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน ซึ่งมันก็เหมือนกับเรื่องของจิตวิทยาการใช้สีที่ส่งผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภคนั่นเองครับ เรามาดูไปพร้อมๆกันครับว่าจิตวิทยาการใช้ตัวเลขกับงานด้านการตลาด (Numbers & Marketing) นั้นมีอะไรบ้าง

What's next?

เลข 1 (One)

เลขหนึ่ง (1) หรือ One มักจะเชื่อมโยงกับการเริ่มต้นอยู่เสมอ นับเป็นเลขแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เลขหนึ่ง (1) หมายถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการแข่งขัน ใครก็ตามเป็นผู้ชนะจะถูกกำหนดให้เป็นอันดับที่ 1 ใครที่ไม่ได้อันดับที่ 1 จะถูกเรียกว่า “ผู้แพ้” หากดูแล้วอาจถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่โดดเดี่ยวที่สุดแต่ยังคงแสดงถึงชัยชนะ ความแข็งแกร่ง และความเป็นอิสระ เรามักจะเห็นการใช้คำว่า One ในภาษาอังกฤษกับการตั้งชื่อธุรกิจรวมไปถึง การนำเสนอจุดเด่นของธุรกิจ และยังแสดงหรือสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับลูกค้ามาก่อนเป็นอันดับแรก เช่น

  • การที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1
  • การเป็นธุรกิจอันดับ 1 ด้านธรรมาภิบาล
  • โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) ทำเลเด่นใจกลางกรุงเทพฯ กับแนวคิด Smart City
  • หนึ่งในผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์

เลขคู่ (Even) และเลขคี่ (Odd)

ในทางจิตวิทยานั้นเลขคู่กับเลขคี่มีผลต่อความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน โดยเลขคู่ (Even Numbers) นั้นหมายถึงความมั่นคง ความสมดุล ความปลอดภัย เลขคู่จึงดูแล้วมีความน่าเชื่อถือและเป็นอะไรที่คาดเดาได้ เลขคู่ (Even Numbers) จึงมักถูกใช้กับเรื่องของคณิตศาสตร์และการเงินเป็นส่วนใหญ่ และเรามักจะเห็นในการเพิ่มมูลค่าให้กับอะไรบางอย่าง เช่น เพิ่มกำไรให้คุณ 30 เท่า ช่วยให้ประหยัด 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเลขคี่ (Odd Numbers) จะเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ ความพิเศษไม่เหมือนใคร ที่สร้างให้เกิดการจดจำและดึงดูดความสนใจได้ค่อนข้างดี เราจึงเห็นเลขคี่ (Odd Numbers) นั้นถูกนำมาใช้กับงานการตลาดและการโฆษณามากเป็นพิเศษ เพราะมันช่วยให้สินค้าหรือบริการนั้นโดดเด่นจากคู่แข่งได้

การใช้เลขคู่กับจิตวิทยาการตั้งตัวเลขทางการตลาด

Source: www.lifehack.org/615485/how-to-read-10x-faster-and-retain-more

เลขคี่ (Odd Numbers) นั้นเหมาะกับการนำมาใช้กับเรื่องของการกำหนดราคาทั้งแบบปกติ การทำส่วนลด การทำโปรโมชั่น หรือเสนอราคาพิเศษ เช่น กระเป๋าราคา 499 บาท ย่อมขายได้ดีกว่า 500 บาท แต่มันก็มีข้อยกเว้นบางอย่างที่เลขคี่ (Odd Numbers) ไม่สามารถนำมาใช้กับการตั้งราคาได้เสมอไป หากเป็นสินค้าที่เป็นระดับหรูคุณภาพสูง (Luxury) ที่มีราคาแพงๆ เช่น รถสปอร์ตคันงามกับการตั้งราคาที่ 7,600,000 บาท ย่อมดีกว่าการตั้งราคาที่ 7,599,999 บาท

เลขคี่กับจิตวิทยาทางการตลาดในการตั้งราคา

Source: ecommerce-platforms.com/crm-reviews/free-crm-software

นอกจากนั้นเลขคี่ (Odd Numbers) ยังเหมาะกับความเป็นผู้ชาย และเลขคู่ (Even Numbers) มักจะเหมาะกับความเป็นผู้หญิงมากกว่า

เลข 7 (Seven)

สำหรับเลข 7 ถือว่าเป็นเลขโปรดของใครหลายๆคน และเลข 7 สามารถดึงดูดความสนใจของคนได้ค่อนข้างมาก เลข 7 ได้รับความนิยมในด้านความเชื่อมโยงทางศาสนาและถือเป็นเลขนำโชคที่มีแต่คนยอมรับ เลข 7 ยังคงเป็นตัวเลขยอดนิยมทั่วโลก และเรามีสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับ 7 สิ่ง หรือ 7 ประการ เช่น ทวีปทั้ง 7 สิ่งมหัศจรรย์ของทั้ง 7 ของโลก สีสันในสายรุ้ง 7 สี สวรรค์ทั้ง 7 บาปมหันต์ 7 ประการ เป็นต้น

ในด้านการตลาดเราจึงเห็นเลข 7 ถูกนำมาใช้ในหัวข้อคอนเทนต์โดยเฉพาะบทความ เช่น 7 วิธี 7 เทคนิค และหลายๆครั้งก็ถูกนำมาใช้กับเรื่องของราคากับตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 7 เช่น สินค้าราคา 197 บาท ทำให้คนรู้สึกว่าได้ราคาที่ดีจริงๆเมื่อเทียบกับ 199 บาท จากราคาเต็มที่ 200 บาท เป็นต้น

เลข 10 (Ten)

เลข 10 หรือจุดสิ้นสุดของการเดินทางอย่างเป็นทางการ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการผสมตัวเลข 2 หลักขึ้นไป ให้ความรู้สึกถึงความสมบูรณ์แต่อาจมีประโยชน์ในบางกรณีเท่านั้น ถ้านำเอาเลข 10 มามองเป็นรูปแบบของสี ก็มักจะเป็นสีน้ำเงินเพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ ตรงไปตรงมา ตรงประเด็น เน้นความเป็นเหตุผลไม่เน้นเรื่องจินตนาการ เลข 10 จึงอาจไม่ใช่ชุดตัวเลขที่น่าสนใจที่สุดที่จะนำมาใช้ในทางการตลาดเท่าที่ควรครับ แต่เรามักจะเห็นกับคอนเทนต์จำพวกบทความหรือวีดิโอ ที่กระตุ้นและดึงดูดความสนใจโดยทันที เช่น

  • 10 วิธีประหยัดงบการตลาดด้วยตัวคุณเอง
  • รวม 10 เทคนิคโปรโมทธุรกิจแบบฟรีๆ

เลข 11 (Eleven)

หากเลข 10 หมายถึงความสมบูรณ์หรือจุดสิ้นสุดของการเดินทาง เลข 11 คือการเพิ่มเลข 1 เข้าเป็นหลังจากเลข 10 ก็จะหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ที่เหนือไปกว่าจุดสิ้นสุดที่ผ่านมา เลข 11 จะเกี่ยวข้องกับปริศนาหรืออะไรที่ดูลึกลับ เลข 11 ไม่ใช่แค่เพียงเลขคี่ธรรมดาๆครับ เพราะมันมีความโดดเด่น มีความแหวกแนว และอะไรที่ออกนอกกรอบ ซึ่งเหมาะกับการทำอะไรให้ดูแตกต่างออกไป บางแบรนด์ใช้ส่วนประกอบของการเพิ่มเลข 1 เข้าไปกับรุ่นของผลิตภัณฑ์ จนสร้างให้เกิดเป็นตำนานที่น่าจดจำของผลิตภัณฑ์รุ่นนั้นๆไปเลย ลองเดาดูครับว่าแบรนด์ใดที่ใช้เลขในลักษณะนี้ คำตอบก็คือ Levi’s 501 นั่นเองครับ

Source: https://pauls-chemnitz.de/Levi-s-501-Onewash/005010101.7

เลข 13 (Thirteen)

ทุกคนทั่วโลกน่าจะคุ้นเคยกับเลข 13 เป็นอย่างดีเพราะความเชื่อที่ว่ามันเป็นเลขแห่งความโชคร้าย (ในมุมมองของโลกตะวันตก) โดยเราจะเห็นจากลิฟต์ในศูนย์การค้า โรงแรม หรือคอนโดมิเนียม นั้นมีการข้ามชั้นที่ 13 ไป แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเลขที่ใช้ไม่ได้ครับ เพราะบางความเชื่อในแต่ละวัฒนธรรมก็สามารถใช้เลข 13 ได้เช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้คุณดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ดังนั้นการเลือกใช้เลข 13 จึงต้องวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าด้วยว่าพวกเขามีความเชื่อเป็นอย่างไร เช่น Lucky 13 Sandwich ที่มีหลากหลายสาขาในประเทศไทย กับแนวคิด Making People Feel Lucky หรือทำให้คุณรู้สึกโชคดีนั่นเอง

การตลาดนั้นมีหลากหลายปัจจัยที่ช่วยส่งผลต่อยอดขาย และหนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือเรื่องของจิตวิทยาครับ โดยหากคุณสามารถนำเอาจิตวิทยาเกี่ยวกับตัวเลขเข้ามาปรับใช้กับการวางแผนงานการตลาดของคุณ ไม่ว่าจะนำมาคิดหัวข้อคอนเทนต์ การตั้งราคา การตั้งชื่อแบรนด์ หรือการตั้งชื่อสินค้า มันจะช่วยให้คุณเชื่อมโยงความคิดและความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ที่จะช่วยดึงดูดความสนใจจนเปลี่ยนเป็นยอดขายสินค้าหรือบริการได้นั่นเอง


Share to friends


Related Posts

การเลือกสีเพื่อออกแบบเว็บไซต์กับการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้เยี่ยมชม

เว็บไซต์นับเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง โดยเว็บไซต์นั้นเปรียบเสมือนหน้าบ้านบนโลกออนไลน์ครับ ดังนั้นการออกแบบจึงถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการสร้างประสบการณ์ดีๆให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม หรือที่เรามักจะเรียกว่าการออกแบบ User Experience (UX) หรือประสบการณ์ของผู้ใช้งาน


ความหมายของรูปทรง (Shapes) สำหรับการออกแบบ

ในงานการออกแบบใดๆก็ตามจะประกอบไปด้วยพื้นฐานที่มาจากรูปทรงเรขาคณิตอยู่เสมอ และแต่ละรูปทรงนั้นก็มีผลในเชิงจิตวิทยาที่ใช้กับการออกแบบซึ่งมีความหมายอันลึกซึ้งซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) เช่น โลโก้ของแบรนด์ การวางเลย์เอาท์ และองค์ประกอบอื่นๆที่ต้องนำรูปทรงต่างๆเข้ามาปรับใช้


จิตวิทยาในการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์

การสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ถือเป็นภาระกิจสำคัญที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดไปแบบขาดไม่ได้ และมันส่งผลให้กับการเติบโตของธุรกิจซึ่งมันเป็นมากกว่าการมีสินค้าที่ดีและบริการที่น่าประทับใจ แต่มันคือการรับรู้ถึงคุณค่าที่แบรนด์มอบให้ที่กลายเป็นตัวตัดสินความสำเร็จให้กับธุรกิจ



copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์