การเป็นนักขายนับเป็นงานที่ยากที่สุดงานหนึ่ง เพราะในแต่ละวันนั้นก็อาจต้องเผชิญกับทั้งปัญหาและความท้าทายทั้งในการพูดคุย เจรจา ปิดการขาย ที่ต้องรับมือกับความกดดันในหลากหลายรูปแบบ โดยนอกจากความรู้และประกบการณ์ที่เต็มเปี่ยมในทักษะด้านการขาย มันก็ยังมีองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เสริมศักยภาพในการขาย ซึ่งนั่นก็คือเรื่องของบุคลิกภาพแบบยอดนักขาย (Sales Personality) นั่นเอง เรามาดูกันครับว่าการจะเป็นนักขายที่ดีจนสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้นั้นต้องมีบุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร
1. ความเข้าอกเข้าใจ
นักขายที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่นั้นจะมีความเข้าอกเข้าใจ ความเห็นใจ และให้การสนับสนุนกับผู้คนที่อยู่โดยรอบอย่างสม่ำเสมอ บุคลิกในลักษณะนี้ทำให้คุณเป็นคนที่มองอะไรที่ลึกกว่าคนอื่นๆ มันจะทำให้คุณรู้ว่าคนแต่ละคนนั้นมีความต้องการอะไรคนพวกนั้นขาดอะไรกำลังมองหาอะไร ซึ่งนั่นก็คือการเข้าใจถึงปัญหาต่างๆของลูกค้าและนำเสนอในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ตรงใจมากที่สุด
2. ชัดเจนในการสื่อสาร
นักขายต้องมีความชัดเจนและมีความแม่นยำในการสื่อสาร โดยในบางครั้งคุณจะเป็นผู้สื่อสารถึงคุณค่าให้กับลูกค้า และในบางครั้งคุณอาจจะต้องเป็นผู้สื่อสารถึงเรื่องของการแก้ไขปัญหาของลูกค้า และการสื่อสารก็ต้องเข้าใจด้วยครับว่าในแต่ละสถานการณ์นั้นคุณควรจะสื่อสารแบบไหน ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมและระวังไม่ให้เกิดความอึดอัดหรือเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น
3. ความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
นักขายต้องอยู่ภายใต้ความกดดันในการสร้างผลลัพธ์ให้ดีในทุกๆวัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณต้องค้นหาลูกค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โน้มน้าวให้พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ และรักษาความสัมพันธ์กับพวกเขา หากขาดซึ่งความมุ่งมั่นก็อาจจะทำให้คุณถอดใจเมื่อหลายๆสิ่งหลายๆอย่างอาจไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้
4. ความมีวินัย
ไม่มีสิ่งใดสำเร็จได้หากไม่มีวินัยทั้งในด้านธุรกิจและด้านการขาย บริษัทส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะให้อิสระแก่พนักงานขายโดยที่พนักงานขายได้รับอนุญาตให้ทำงานได้อิสระตามต้องการ ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสียโดยหากพนักงานขายนั้นมีวินัยทำตามเป้าหมายได้แบบไม่บกพร่องก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมา แต่หากพนักงานเกิดใช้ช่องว่างและความไว้วางใจที่ทางบริษัทมอบให้ ก็อาจทำให้พนักงานขายเกิดความอิสะมากจนเกินไปจนหลายๆอาจทำให้ส่งผลเสียตามมา
5. การอดทนต่อแรงกดดัน
การเป็นนักขายเป็นหนึ่งในอาชีพที่ต้องเผชิญกับความกดดันมากที่สุดอาชีพหนึ่ง ในแต่ละวันต้องพูดคุยกับลูกค้ารับฟังปัญหาแก้ไขปัญหาและอาจถูกตำหนิติเตียนได้อยู่เสมอ อีกทั้งยังต้องทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้หนึ่งในคุณสมบัติและบุคลิกของนักขาย จำเป็นต้องปรับตัวและทนต่อกระแรงกดดันให้ได้ และต้องควบคุมอารมณ์ให้อยู่เพื่อไม่สร้างผลกระทบที่ร้ายแรง
6. ทำงานหนักอย่างเฉลียวฉลาด
เพื่อให้มีบุคลิกนักขายที่เหมาะสมคุณต้องสร้างสมดุลระหว่างการทำงานหนักและความฉลาดในการทำงานเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนั่นคือคุณต้องกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน มีแผนงานอย่างชัดเจน ในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า มีการวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นตอนและตีกรอบให้ชัดเจนว่าจะจับกลุ่มไหนเพราะเหตุผลอะไร โดยไม่ควรกวาดแบบหว่านแหไปทุกกลุ่มแบบไร้จุดหมายซึ่งจะทำให้ทั้งเสียเวลาจนอาจหมดไฟไปในที่สุด
7. มีความยืดหยุ่น (ปรับตัวได้)
ในบางสถานการณ์คุณอาจพบเจอกับลูกค้าที่อยากจะต่อรองเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีมากที่สุด โดยหากคุณยึดมั่นในเป้าหมายอย่างแข็งขันและไม่โอนอ่อนผ่อนปรนตามการต่อรองใดๆก็อาจทำให้คุณเสียลูกค้าได้ในทุกเมื่อ แน่นอนครับว่าคุณมีเป้าหมายที่ต้องทำยอดขายให้ได้ตามกำหนดแต่ก็จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นบ้าง แม้ว่าจะทำให้เป้าหมายหรือยอดขายหล่นหายไปบ้างก็ตาม ดังนั้นคุณควรวางแผนกับทีมงานให้ดีมีการกำหนดและซ้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ต่างๆขึ้น
8. มีความหลงใหล
ในเรื่องของการขายนั้นคุณจำเป็นต้องมีความหลงใหลในสิ่งที่คุณทำเป็นอย่างมาก เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้พวกคุณประสบความสำเร็จ กระตุ้นให้เอาชนะความท้าทาย และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้า ความหลงใหลสามารถช่วยกระตุ้นความพยายามในการขาย สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความไว้วางใจ และทำให้นักขายสามารถสื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. การโน้มน้าวใจ
การพูดแบบการโน้มน้าวใจถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักขาย เนื่องจากช่วยให้คุณสามารถพูดถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้อย่างรวดเร็วตรงจุด ทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ความรู้สึกร่วม และยังช่วยลดอัตราการต่อต้านจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีความสามารถในการโน้มน้าวใจจะสามารถสร้างความไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือ จนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้