Case Study: Apple กับตัวอย่างการทำ Business Model Canvas (BMC)
Apple มีชื่อเสียงในการก้าวข้ามขีดจำกัดทางนวัตกรรม โดยนำเสนอเทคโนโลยีและคุณสมบัติอันล้ำสมัยในตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ชิป M1, M2, M3 และ M4 รวมถึง Apple Silicon ที่ออกแบบโดย Apple ที่มอบความเร็วและประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่มีใครเทียบได้ มีระบบ Face ID และ Touch ID เทคโนโลยีการตรวจสอบ Biometric การสร้างประสบการณ์ความแบบเสมือนจริง (Augmented Reality – AR) ที่ได้รับการพัฒนาบน iPad และ iPhone
Case Study: ตัวอย่างการทำ Business Model Canvas (BMC) ของ Netflix
Netflix แพลตฟอร์ม Online Streaming ความบันเทิงรูปแบบใหม่ ที่เริ่มต้นธุรกิจในปี 1997 โดย Reed Hastings และ Marc Randolph ในฐานะผู้ให้บริการเช่า DVD และในเวลาต่อมาในช่วงปี 2007 Netflix ก็ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมบันเทิง ด้วยการนำเสนอวิดีโอสตรีมมิ่งแบบออนดีมานด์ (On-Demand Video Streaming) ด้วยความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์คอนเทนต์ ที่ตรงตามความต้องการเฉพาะแบบบุคคล และที่โด่งดังก็เห็นจะเป็นการลงทุนในผลงานต้นฉบับ (Original Content) อย่าง Stranger Things และ The Crown ที่ทำให้ Netflix กลายเป็น Online Streaming Platform ระดับโลก ด้วยการมุ่งเน้นในการให้คำแนะนำกับการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven)
Case Study: ตัวอย่างการทำ Business Model Canvas (BMC) ของ Amazon.com
Amazon.com ร้านที่ขายแทบทุกสิ่งที่ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ในปี 1994 โดยเริ่มต้นจากการเป็นร้านหนังสือออนไลน์ และพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน Amazon นำเสนอและขายแทบทุกสิ่งตั้งแต่ร้านขายของชำไปจนถึงบริการประมวลผลบนคลาวด์ผ่าน Amazon Web Services (AWS) ด้วยแนวทางที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆอย่าง Amazon Prime ทำให้บริษัทโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาด
การใช้ Marketing และ Social Media อย่างผิดๆ สู่การเป็น Influencer สาย Dark: กรณีศึกษาอาชีพทนายความ (Lawyer)
การตลาด (Marketing) และการสร้างแบรนด์บุคคล (Personal Brand) ได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับทุกสาขาอาชีพ รวมถึงอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายโดยเฉพาะอาชีพทนายความ (Lawyer) โดยทุกวันนี้ทนายความหลายคนก็ได้กลายมาเป็น lnfluencer หรือผู้ทรงอิทธิพลทั้งด้านการกระทำและความคิดกันมากขึ้น
เจาะกลยุทธ์ความสำเร็จในการทำ Engagement Community บน Instagram ของ Nike
Nike เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ระดับโลกที่มีผู้ติดตามหรือ Followers บน Instagram มากกว่า 179 ล้านคน ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของแบรนด์ต่างๆทั่วโลก ที่ไม่ใช่แค่เพียงจำนวนผู้ติดตามอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีการสร้างปฏิสัมพันธ์หว่างแบรนด์กับผู้ติดตามหรือที่เราเรียกว่า Engagement ในรูปแบบการพูดคุยอีกมากกว่า 1,000,000 ครั้งต่อปี
Case Study: กลยุทธ์การตลาดของ Apple
Apple คือ แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดแบรนด์หนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ก่อตั้งมาตั้งแต่เมษายน ปี 1976 ที่สร้างรายได้ทั่วโลกกว่า 260,000 ล้านเหรียญ ณ ปี 2021 จากการจัดอันดับของ Forbes ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ถือว่าครองอันดับหนึ่งที่มีรายได้สูงสุดในโลกมาหลายปีติดต่อกัน โดยสาเหตุที่ Apple ทำรายได้ทั่วโลกได้มหาศาลขนาดนี้นั่นก็เพราะผลิตภัณฑ์ของ Apple
Google ประกาศแนวทางการทำงานแบบ “ไฮบริด” เข้าออฟฟิศ 3 วัน
ในปี 2020 ที่ผ่านมา Google เป็นบริษัทที่เรียกได้ว่าสามารถปรับตัวเข้าสู่การทำงานในรูปแบบใหม่ ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้เป็นอย่างดี โดยประกาศให้พนักงานสามารถ Work From Home ได้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2021 นี้ รวมถึง Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของ Google ก็เคยพูดถึงแนวโน้มที่ Google จะให้พนักงานทำงานแบบไฮบริดมาก่อนหน้านี้เช่นกัน
ตัวอย่างการตลาดที่ผิดพลาดจากการไม่ใส่ใจบริบท
บริบทหรือ Context นั้นถือว่ามีความสำคัญรองลงมาจากคำว่า Content โดยหากจะทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์เพื่อการโฆษณา การสื่อสาร การทำแคมเปญการตลาด หรือแม้แต่การออกแบบรวมไปถึงการตั้งชื่อสินค้าหรือบริการ ก็จำเป็นต้องนำเอาบริบทรอบๆด้านเข้ามาเป็นส่วนในกระบวนการคิดและวางแผนด้วยเช่นกัน เพราะหากคุณลืมนำบริบทรอบๆด้านมาช่วยในการวางแผนทำคอนเทนต์และสื่อสารออกไปสู่กลุ่มเป้าหมาย
Case Study: Whiskas เปิดตัวโรงเรียนน้องแมวผ่าน YouTube
Whiskas ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อน้องแมวต้องการขยายตลาดอาหารแมวให้กว้างมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้าง YouTube โรงเรียนลูกแมว (Kitten Kollage) โดยออกเป็นซีรีย์หลายตอนจนสร้างให้เกิดการจดจำในแบรนด์ Whiskas มากขึ้นถึง 47% และยอดผู้ชมกว่า 39 ล้านวิว
Case Study: Pepsi Max สร้าง Viral ด้วยสัตว์ประหลาดในกระจก
ในปี 2014 Pepsi Max สร้างความสร้าง Viral แคมเปญวันฮาโลวีนกับคนที่เข้าไปดูหนังในโรงหนัง Odeon Bayswater กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ด้วยการใส่สัตว์ประหลาดไว้ในกระจกห้องน้ำ ซึ่งนับเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเสมือนจริงประเภท AR (Augmented Reality) มาใช้และได้สร้างความช็อคให้กับคนที่เข้าห้องน้ำเวลาส่องกระจกจนกลายเป็น Viral ได้อย่างรวดเร็ว