Brand Communication Ecosystem ระบบนิเวศแห่งการสื่อสารแบรนด์ กับการเชื่อมคน เป้าหมาย และการรับรู้
แบรนด์ของคุณกำลังสื่อสารอยู่ตลอดเวลา แม้ในยามที่คุณไม่ได้ตั้งใจพูดอะไรออกมาก็ตาม ตั้งแต่โลโก้ บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึง วิธีตอบลูกค้า น้ำเสียงของพนักงานในร้าน ประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งโพสต์บนโซเชียลมีเดียของ CEO เอง ทุกการมีและสร้างปฏิสัมพันธ์ล้วนกลายเป็น “เสียง” หนึ่งที่ส่งสารถึงผู้คน โดยเสียงเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็น “ระบบนิเวศการสื่อสารของแบรนด์” (Brand Communication Ecosystem)
Perceived Value Strategy กลยุทธ์สร้างความหมายและมูลค่าเหนือสินค้า
การขายผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตามจะประสบความสำเร็จได้ยาก หากคุณมัวแต่พึ่งพาคุณสมบัติที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อเพียงแค่ “สิ่งที่ผลิตภัณฑ์เป็น” แต่พวกเขาซื้อ “ความหมายของผลิตภัณฑ์ที่มีต่อพวกเขา” ซึ่งถือว่าเป็นแก่นแท้ของ “คุณค่าที่รับรู้ได้” (Perceived Value) โดยเป็นการตีความมูลค่าของลูกค้า ที่หล่อหลอมขึ้นจากอารมณ์ การสร้างแบรนด์ และประสบการณ์ ในขณะที่ “คุณค่าที่แท้จริง” (Actual Value)
Brand Positioning vs. Market Positioning กับคู่มือเปรียบเทียบการวางตำแหน่งทางธุรกิจ
เมื่อธุรกิจพูดถึงคำว่า “การวางตำแหน่ง” (Positioning) ก็จะมีคำว่า “การวางตำแหน่งแบรนด์” (Brand Positioning) และ “การวางตำแหน่งทางการตลาด” (Market Positioning) ที่มักถูกนำมาใช้แทนกันอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้ง 2 คำจะมีความเกี่ยวข้องกันและบางครั้งก็มีส่วนที่ทับซ้อนกัน แต่มันก็มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์คนละส่วนกัน
Point of Parity vs Point of Difference กุญแจสำคัญสู่การวางตำแหน่งแบรนด์
ในโลกของการสร้างแบรนด์ (Branding) และการตลาด(Marketing) การวางตำแหน่ง (Positioning) คือ ทุกสิ่งทุกอย่างของการทำธุรกิจ ที่จะกำหนดความแตกต่าง สู่ศักยภาพในการทำธุรกิจเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน โดยแบรนด์ต้องตอบคำถามสำคัญหลักๆ 2 ข้อในใจของผู้บริโภคให้ได้ว่า “ทำไมฉันถึงควรพิจารณาคุณ” และ “ทำไมฉันถึงควรเลือกคุณเหนือแบรนด์อื่น” และคำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในแนวคิดสำคัญ 2 อย่าง ได้แก่ จุดเสมอเหมือน (Point of Parity หรือ POP) และ จุดเด่นที่แตกต่าง (Point of Difference หรือ POD)
Perceived Value vs Actual Value กับช่องว่างที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจ
คำว่า “คุณค่า” (Value) ในโลกของการทำธุรกิจและการตลาด คือ หัวใจสำคัญของทุกๆการตัดสินใจซื้อ แต่คุณค่าก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เรามองเห็นเสมอไปครับ ในปัจจุบันนั้นลูกค้าแทบไม่เคยตัดสินผลิตภัณฑ์หรือบริการ จากคุณสมบัติที่มองเห็นเป็นรูปธรรมเพียงอย่างเดียว แต่การรับรู้ของพวกเขาก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญมาก และนี่คือจุดที่ความแตกต่างระหว่าง “คุณค่าที่รับรู้ได้” (Perceived) และ “คุณค่าที่แท้จริง” (Actual Value) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในมุมของผู้บริโภค
กลยุทธ์การสร้าง Brand Aura ศาสตร์อันลึกซึ้งให้คนรักแบรนด์แบบไม่รู้ตัว
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสื่อสารผ่านแคมเปญอย่างมากมาย ที่ต่างก็พยายามสร้างความแตกต่างและน่าจดจำให้กับแบรนด์ แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์น่าจดจำอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก หรือคุณสมบัติของสินค้าและบริการ ซึ่งนั่นก็คือเรื่องของ “ความรู้สึก” (Feeling) ที่แม้ว่าจะดูละเอียดอ่อนแต่ก็ “ทรงพลัง” (Powerful) อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และหนึ่งในความรูกสึกอันทรงพลังนี้ ก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Brand Aura ครับ
รู้จัก Brand Image 13 ประเภท เพื่อสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งให้ลูกค้าจดจำ
ในโลกของแบรนด์นั้นการรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับแบรนด์ มีความสำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์อย่างยิ่งภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) คือ ภาพในใจที่ผู้บริโภคสร้างขึ้นเมื่อคิดถึงแบรนด์นั้นๆ ซึ่งรวมถึงทุกอย่างเมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส ตั้งแต่ชื่อแบรนด์ (Naming) โลโก้ ไปจนถึงข้อความ โทนเสียง และแม้กระทั่งความรู้สึกเชิงอารมณ์ การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและน่าจดจำ นั้นไม่ใช่แค่การออกแบบโลโก้ให้ดูโดดเด่น แต่คือการสร้างภาพที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายอย่างตั้งใจ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ในตัวแบรนด์ในมุมมองของลูกค้า
ขั้นแรกในการสร้างแบรนด์หรือธุรกิจใดๆให้ประสบความสำเร็จ คงหนีไม่พ้นการทำให้คนรับรู้ในการมีอยู่ของแบรนด์หรือที่เราเรียกว่าการสร้าง Brand Awareness ครับ ซึ่งมันก็คือการสร้างให้เกิดการรับรู้ในตัวแบรนด์ในมุมมองของลูกค้า (Customer Perception) นั่นเองที่เป็นผลมาจากการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ จนกลายเป็นที่จดจำในสายตาของลูกค้ารวมถึงมีการพูดถึงและบอกต่อหากลูกค้าได้รับการตอบสนองความต้องการรวมไปถึงประสบการณ์ดีๆ

 
					 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		