Apple ผู้เปลี่ยนโลกแห่งเทคโนโลยีด้วยสโลแกน Think Difference ด้วยการนำเสนอสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่ใครๆก็ต้องมีไว้ใช้สักเครื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด ไอพอด ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกมาหลายปีติดต่อกัน เรามาทำความรู้จักกับเรื่องราวของ Apple กันครับ
Apple Computer, Inc. ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 1976 โดยนักเรียนสองคน คือ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) และ สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) ผู้ซึ่งนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ๆกับการเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อคอมพิวเตอร์ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองต้องการให้อยากทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีความเล็กกระทัดรัด สามารถใช้งานง่าย สำหรับทุกๆบ้านและทุกๆออฟฟิศ
สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) / สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs)
ทั้งสองได้เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ Apple I ในโรงรถของจ็อบส์ และขายโดยไม่มีหน้าจอ คีย์บอร์ด หรือแม้แต่เคสใดๆทั้งสิ้น ในปี 1977 พวกเขาก็คิดได้ว่าควรใส่ทั้งหมดลงไปในการขาย และในปี 1978 คอมพิวเตอร์รุ่น Apple II ก็ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ด้วยการเป็นคอมพิวเตอร์จอสีเครื่องแรก ที่ทำยอดขายพุ่งทะยานจาก 7.8 ล้านเหรียญในปี 1978 ไปสู่ 117 ล้านเหรียญในปี 1980 หลังจากเปิดตัวสู่สาธารณชน
สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) / จอห์น สคัลลี่ (John Sculley)
Source: board.postjung.com/1051516
แต่วอซเนียกก็ออกจาก Apple ในปี 1983 และจ็อบส์ ก็ได้ว่าจ้าง จอห์น สคัลลี่ (John Sculley) จาก PepsiCo มาเป็น CEO แต่หลังจากสคัลลี่ เข้ามารับตำแหน่งก็มีการโต้เถียงกันอย่างมากมายทำให้จ็อบส์ ลาออกในปี 1985 เพื่อไปทำสิ่งใหม่ๆที่ท้าทายกว่าโดยการตั้งบริษัท NeXT Software และยังซื้อบริษัท Pixar จาก จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ซึ่งกลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการทำคอมพิวเตอร์ อนิเมชั่น อย่างเช่น Toy Story, A Bug’s Life, Monsters และ Finding Nemo
ในช่วงปี 1980 สคัลลี่ได้ปฏิเสธคำขอจาก บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ที่ต้องการให้จดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึ่งกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่และหลอกหลอนเข้าไปตลอด จนทำให้ไมโครซอฟต์กลายเป็นคู่แข่งที่หนักหนาสาหัสที่สุดของ Apple เพราะระบบปฏิบัติการนั้นมีความเหมือนกัน Apple เป็นอย่างมาก
หลังจากเจ็บตัวจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลงมาหลายปี โดยในช่วงปี 1990-1996 ถือว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดที่อาจต้องปิดตัว แต่แล้วในปี 1997 Apple ก็ตัดสินใจว่าต้องมีระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองเลยจำเป็นต้องซื้อบริษัท NeXT Software ที่เป็นของจ็อบส์ โดยบอร์ดบริหารของ Apple ก็ขอร้องให้จ็อบส์เข้ามาเป็นประธานบริหารชั่วคราว (Interim CEO) แต่จ็อบส์ต้องการเรียกตัวเองว่า iCEO และในปี 2000 จ็อบส์ก็ได้เป็น CEO แบบเต็มตัว และจ็อบส์ก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆกับแบรนด์ Apple ด้วยการจับมือกับไมโครซอฟต์เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการสำหรับ Mac ที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
จากนั้นไม่นานจ็อบส์ก็ยกเครื่องและเปลี่ยนโฉมคอมพิวเตอร์ใหม่เป็น iBook (คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) และเริ่มขยายไปทำ iPod (เครื่องเล่นเพลง MP3) รวมไปถึงโปรแกรมสำหรับเล่นหนังอย่าง iTunes ซึ่งทั้ง iPod และ iTunes ก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรมากที่สุดในกลุ่มเลยทีเดียว หลังจากนั้น Apple ก็ได้มีการเปิดตัว iPhone โทรศัพท์มือถือที่เรียกได้ว่าสร้างอีกปรากฎการณ์ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกในลำดับต่อมา
Source: https://www.investopedia.com/articles/fundamental-analysis/12/steve-jobs-apple-story.asp
ในวันที่ 5 ตุลาคม ปี 2011 จ็อบส์ก็เสียชีวิตลงแต่ Apple ก็ยังสร้างตำนานบทใหม่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะด้วยความที่ Apple เป็นผู้บุกเบิกและปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มาโดยตลอด Apple เชื่อในความคิดสร้างสรรค์ว่ามันจะสร้างความน่าสนใจและคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับทุกๆคน
ผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Apple
- iMac
- iMac Pro
- iBook
- Mac Pro
- Mac mini
- MacBook (Pro, Air)
- iPhone
- iPad (Pro, Air, Mini)
- Apple TV
- Apple Watch
- iPod Touch
- อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
Source:
https://www.loc.gov/rr/business/businesshistory/April/apple.html
http://www.applemuseum.com/en/apple-history
https://www.apple.com/