หากพูดถึงแบรนด์ Virgin หลายๆคนอาจยังไม่คุ้นหู แต่อาจมีผ่านตากับ Virgin Active ฟิตเนสระดับโลกที่มาเปิดในประเทศไทยได้ไม่นาน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของแบรนด์ Virgin นั่นเองครับ เรามาทำความรู้จักกับต้นกำเนิดของแบรนด์ Virgin ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สายกบฎแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเลยก็ว่าได้
เจ้าของ Virgin คือ เซอร์ริชาร์ด แบรนสัน (Sir Richard Branson) ที่ได้รับฉายาว่ามหาเศรษฐีกบฎแห่งการทำธุรกิจ ที่มีธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกธุรกิจหนึ่ง และเป็นเจ้าของกว่า 400 บริษัทใน 30 ประเทศทั่วโลก ความกบฏที่ว่านั่นก็คือวิธีคิดที่แปลกใหม่และไม่อยู่ในกรอบเดิมเลยแม้แต่น้อย ด้วยการท้าทายขีดจำกัดของทุกสิ่งและมุ่งไปในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น และความเชื่อมั่นนั้นมันไม่ใช่แค่การมีศักยภาพในการแข่งขันกับธุรกิจใหญ่ๆ แต่ยังสามารถทำได้ดีกว่าและกล้าเข้าไปในทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรมที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้จัก จนได้ประสบการณ์ลองผิดลองถูกแบบใหม่ๆที่ไม่อาจมีใครเทียบได้เท่า
Source: maltawinds.com
Virgin เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ โดยนายริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) จากเมือง Surrey ในวัย 16 ปี (1966) กับการเริ่มเป็นเจ้าของกิจการที่เริ่มทำนิตยสารเป็นอาชีพที่ชื่อว่า “Student” แค่เพียงเล่มแรกก็สามารถหารายได้ที่เป็นโฆษณามาลงในนิตยสารได้กว่า 8,000 เหรียญ และมียอดพิมพ์กว่า 50,000 เล่ม
หลังจากนั้นในช่วงอายุ 17 ปี ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) กับ นิค พาวเวลล์ (Nik Powell) ซึ่งอาศัยอยู่แถว London commune ก็เกิดไอเดียตั้งบริษัทซื้อขายแผ่นเสียงที่ชื่อว่า Virgin Records และมีการโฆษณาผ่านนิตยสาร Student อีกนัยหนึ่งของตั้งบริษัทนี้ก็เพื่อหาทุนมาสนับสนุนการทำนิตยสารของตัวเอง ซึ่งเติบโตอย่างดีและได้เปิดสตูดิโอบันทึกเสียงขึ้นในปี 1972 ที่ Oxfordshire และนั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Virgin โดยสาเหตุที่ตั้งชื่อว่า Virgin นั่นก็คือทั้งคู่เป็นผู้ประกอบการหนุ่มมือใหม่ไม่ค่อยรู้อะไรมากมายนั่นเอง
ผลงานของ Virgin Records คือการอัดซิงเกิ้ลของ Mike Oldfield ที่ชื่อว่า Tubular Bells โดยติดอันดับ UK chart อยู่ถึง 247 สัปดาห์เลยทีเดียว และปีต่อๆมาก็ได้เซ็นสัญญากับอีกหลายวงดนตรี เช่น Sex Pistols, The Culture Club, The Rolling Stones รวมไปถึง Genesis ทำให้ Virgin Records กลายเป็นค่ายเพลงยอดนิยมอันดับ 6 ของโลกภายใต้ชื่อ Virgin Music ในช่วงเวลานั้น
และในปี 1984 ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ก็ได้ขยายกิจการไปยังธุรกิจท่องเที่ยวและเกิดสายการบินชื่อ Virgin Atlantic ขึ้น แต่ก็ต้องประสบปัญหาทางการเงินในช่วงปี 1992
แต่ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ก็ไม่ได้สูญเสียกำลังใจและความตั้งมั่นเลยสักนิดเดียว โดยในปี 1983 ก็เปิดตัว Virgin Radio และเปิดค่ายเพลงแห่งที่ 2 ขึ้นในปี 1996 ที่ชื่อว่า V2 กระนั้นเองในช่วงปี 1997 ก็ได้เปิดตัว Virgin Trains ซึ่งกลายเป็นผู้บริหารจัดการเส้นทางเดินรถไฟที่นับว่าถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง และในปี 1988 ก็เกิดธุรกิจมือถือภายใต้ชื่อ Virgin Mobile
ในปี 2004 ก็เขย่าวงการด้วยการเปิดตัว Virgin Galactic ยานท่องอวกาศสำหรับมหาเศรษฐีกระเป๋าหนักที่อยากสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวนอกโลก และในปีถัดมาก็เปิดเชนฟิตเนสที่ชื่อว่า Virgin Active ที่กระจายออกไปหลายสาขาทั่วโลก จากนั้นในปี 2015 ก็เป็นจุดถือกำเนิดเรือท่องเที่ยวเดินสมุทร Virgin Voyages และนั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของธุรกิจภายใต้แบรนด์ Virgin นั่นเองครับ
นอกจากนั้น Virgin ยังมีแบรนด์อื่นๆในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม พลังงาน สื่อโฆษณา การเงิน สุขภาพ รวมไปถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อสังคม ซึ่งดูแล้วยังไม่น่าจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้
เรื่องราวของ Virgin นับว่าฉีกแนวคิดในการทำธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยความเชื่อมั่น ความใฝ่ฝันและความกล้าของเด็กที่ไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือคนหนึ่ง ก็สามารถผลักดันให้เค้ากลายเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจที่มีรายได้รวมกว่า 19.5 พันล้านปอนด์ (ราว 7.8 แสนล้านบาท) ซึ่งนับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆด้านสำหรับคนที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว
Source :
http://www.virgin.com
http://www.startupstories.in/stories/inspirational-stories/virgin-group-started