Generative AI ได้เข้ามามีบทบาทครั้งใหญ่และครั้งสำคัญแทบทุกๆสายอาชีพและหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเราจะเห็นการเติบโตของผู้ใช้งานอย่างรวดเร็วจากการเปิดตัว ChatGPT ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นับเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญที่เรียกได้ว่า Generative AI เกิดมาเพื่อเขย่าหลายๆวงการ ซึ่งแน่นอนครับว่ามันสร้างทั้งประโยชน์อย่างมหาศาล ที่ช่วยให้การทำงานออกมารวดเร็วขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวมากขึ้น แต่ในทางกลับกันก็อาจจะส่งผลกระทบอยู่บ้างที่ระบบยังไม่มีความเสถียรแบบ 100% ปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์หรือแหล่งที่มาของข้อมูล การที่ AI จะเข้ามาแย่งงานคน และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย แต่ในบทความนี้ผมไม่ได้มาวิเคราะห์ในประเด็นดังกล่าวครับ ผมอยากให้ผู้อ่านได้มองภาพรวมให้เห็นว่า Generative AI นั้นมีกี่หมวดหมู่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจและสามารถเลือกใช้งานให้ได้อย่างเหมาะสม
Generative AI คืออะไร ทำไมถึงสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้
Generative AI หรือ Generative Artificial Intelligence คือ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างผลลัพธ์ใหม่ๆ มีความสามารถในการคิดอย่างสร้างสรรค์ที่อาจนอกเหนือจากขอบเขตที่มนุษย์จะคิดได้ Generative AI สามารถสร้างผลลัพธ์ได้หลากหลายรูปแบบที่นอกเหนือจากการตอบสนองต่อข้อความในการสืบค้นและการป้อนข้อมูล ยังสามารถสร้างรูปภาพ เสียง และวิดีโอได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถออกแบบ สร้างรหัสคอมพิวเตอร์ และสามารถสร้างข้อมูลสังเคราะห์ได้อีกเช่นกัน
Generative AI ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์และสมจริงในขอบเขตต่างๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม นับเป็นการท้าทายแนวความคิดดั้งเดิมของความคิดสร้างสรรค์ Generative AI จึงต่างจาก AI แบบดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้สำหรับงานต่างๆได้ เช่น การทำนายโดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาใหม่ แทนที่จะเป็นเพียงแค่การเลียนแบบรูปแบบข้อมูลที่มีอยู่เดิม Generative AI ยังมีความสามารถในการสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงและสมจริงได้อีก ด้วยการใช้ประโยชน์จากโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกขนาดใหญ่
ด้วยศักยภาพของ AI ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ นับเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมจึงได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบันและอนาคต ตัวอย่างเช่น ในสาขาศิลปะและการออกแบบ เครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์สามารถช่วยศิลปินในการสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆที่มีจินตนาการ สามารถสร้างภาพที่น่าทึ่ง ช่วยในการจัดองค์ประกอบ หรือแม้แต่สร้างงานศิลปะขึ้นมาทั้งชิ้น ศิลปินสามารถสำรวจแนวคิดใหม่ๆที่พวกเขาอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน เพื่อเปิดประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆที่ไม่เคยเป็นไปได้ในอดีต Generative AI จึงมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการสร้างสรรค์ การปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน พาทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ของความก้าวหน้าที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และ ChatGPT ก็ถือเป็นหนึ่งใน Generative AI ที่เรียกได้ว่าเขย่าทุกวงการและมาแรงที่สุดในขณะนี้ ที่ช่วยให้งานและธุรกิจของคุณมันง่ายและสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หมวดหมู่ของ Generative AI ในปัจจุบัน
เราได้เห็น Generative AI ในหลากหลายออนไลน์แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่น ที่สร้างประสบการณ์และจินตนาการใหม่ๆที่ถูกปรับใช้กับแทบทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ ความบันเทิง งานโฆษณา การตลาด วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ที่เรารู้จักและคุ้นหูกันก็ได้แก่ ChatGPT, DALL-E, Ryrt, Copi.AI, OpenAI, Bard, Midjourney หรือ Bing AI และโดยหลักๆจะถูกแบ่งออกเป็น 7 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้
1. Text Generation
Generative AI ที่เรียกว่า Text Generation คือ ลักษณะของการสร้างข้อความที่เหมือนกับมนุษย์เขียนขึ้นมา ด้วยการสร้างและกำหนดข้อความคำสั่งหรือที่เราเรียกกันว่า Prompt โดยคุณสามารถสร้างออกมาเป็นเรื่องราว บทกวี บทความ บทพูด บทละคร คำแนะนำ คำโฆษณา และอื่นๆ ตั้งแต่เขียนสคริปต์แนะนำธุรกิจ สคริปต์แนะนำสินค้าและบริการ เขียนสรุปบทความที่น่าสนใจ ไปสู่เรื่องลึกๆอย่าง เช่น การวางแผนกลยุทธ์ การแนะนำงบประมาณการตลาดที่เหมาะสม เป็นต้น Generative AI ในกลุ่มของ Text Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ ChatGPT, Bard, Jasper, Copi.AI, Rytr และ Notion AI เป็นต้น
2. Code Generation
อัลกอริธึมของ AI ที่สามารถสร้างโค้ดจากคำอธิบายได้ ซึ่งช่วยให้วิศวกรเขียนโค้ดได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อคุณพิมพ์โค้ดแบบเรียลไทม์ระบบจะสร้างโค้ดตามข้อความหรือแนะนำให้แบบอัตโนมัติ AI สามารถแปลภาษาการเขียนโปรแกรมต่างๆและเขียนโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว Generative AI ประเภทนี้สามารถวิเคราะห์โค้ดและระบุจุดบกพร่องหรือช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับงานสายโปรแกรมเมอร์ คนออกแบบฐานข้อมูล คนเขียนเว็บไซต์ หรือออกแบบระบบต่างๆ Generative AI ในกลุ่มของ Code Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ OpenAI Codex, GitHub Copilot, GhostWriter Replit หรือแม้แต่ ChatGPT เป็นต้น
3. Image Generation
การสร้างรูปภาพจากการอธิบายข้อความทำให้เกิดการสร้างภาพที่สมจริง ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งภาพ Sketch ภาพ Art ภาพวาด ภาพ 3 มิติ หรือภาพแบบสมจริง ที่นำไปใช้ได้กับการสร้างงานศิลปะ ช่วยในการออกแบบกราฟิก การออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างรูปคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ และอื่นๆ Generative AI ในกลุ่มของ Image Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ DALL-E, Midjourney, Visme และ Jasper Art เป็นตัน
Source: https://www.fotor.com/blog/best-ai-painting-generators/
4. Music Generation
Generative AI ที่สามารถสร้างหรือแต่งเพลงต้นฉบับใหม่ๆ โดยนักดนตรี โปรดิวเซอร์ หรือนักร้อง ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI ลักษณะนี้เพื่อเป็นไอเดียในการแต่งเพลงได้ และยังสามารถในไปทำเสียงเพลงประกอบภาพยนต์ได้อีก ในกระบวนการสร้างเพลงนั้น AI จะเริ่มต้นด้วยโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลเพลงที่มีอยู่ เช่น การเรียบเรียงดนตรี การบันทึกเสียง และโน้ตเพลง ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อฝึกอัลกอริธึมให้เกิดการเรียนรู้ เพื่อสร้างเพลงใหม่ๆตามรูปแบบและโครงสร้างที่ผู้ใช้งานกำหนดขึ้น Generative AI ในกลุ่มของ Music Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ MusicLM, Amper Music, Beetoven.ai และ Moises เป็นตัน
5. Audio Generation
ความสามารถของ Generative AI ในกลุ่มของการสร้างเสียงเลียนแบบให้ออกมาเหมือนกับมนุษย์พูด หรือที่เราเรียกว่า Text-to-Speech สามารถนำมาปรับใช้กับการทำ Audio Book การเล่าเรื่องราวทั้งในรูปแบบประวัติธุรกิจ แนะนำหรืออธิบายสินค้า เป็นผู้ช่วยแบบ Voice Assistant อัดสคริปต์ต่างๆสำหรับทีมขายหรือทีมบริการลูกค้า ซึ่งนำไปสนับสนุนการทำวีดิโอหรือคอนเทนต์ในแบบต่างๆ โดยสามารถกำหนดโทนเสียงได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนมีอายุ น้ำเสียงแบบจริงจังทางการ หรือแบบสนุกสนานร่าเริง ก็ได้เช่นกัน Generative AI ในกลุ่มของ Audio Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ Play.ht, Murf.AI, Listnr และ Speechify เป็นตัน
6. Video Generation
การสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบ Video ด้วย AI ที่ช่วยให้คุณทำงานได้สะดวกขึ้น ที่ทำได้ตั้งแต่การสร้างวีดิโอชิ้นใหม่ขึ้นมาหรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนตัวที่มีอยู่ให้ออกมาดีกว่าเดิม Generative AI ในกลุ่ม Video Generation มีความสามารถในการสร้างวีดิโอเสมือนจริงที่ตัวเราเองสามารถเป็นผู้พูด เป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือผู้สอน ด้วยการใส่ภาพของตัวเองลงไปแล้วให้ AI ทำหน้าที่ในการสร้างคำพูดที่มีการเคลื่อนไหวตรงกับปากของผู้พูดจนดูเป็นธรรมชาติ หรือสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาเลยก็ได้เช่นกัน บางแพลตฟอร์มนั้นก็ยังสามารถทำหนังสั้นหรือวีดิโอแนะนำธุรกิจด้วยการป้อนชุดข้อมูลคำสั่งเข้าไป สร้างเป็น Storyboard ใส่เอฟเฟคต่างๆ และตัดต่อให้เสร็จสรรพ Generative AI ในกลุ่มของ Video Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ D-ID, InVideo, Snapbar, และ Veed.io เป็นตัน
Source: https://www.mindphp.com
7. Design Generation
Generative AI ที่ช่วยให้งานออกแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานโฆษณา โบรชัวร์ พรีเซ็นเทชั่น อินโฟกราฟิก โปสเตอร์ หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น โดยที่แทบจะไม่ต้องใช้ทักษะด้านการออกแบบใดๆเลย Generative AI ในกลุ่มของ Design Generation ที่เด่นๆนั้น ได้แก่ Canva, Designs.ai, Fronty AI, Fotor และ Colormind เป็นตัน
ทั้งหมดเป็นแค่เพียงตัวอย่างของ Generative AI ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากลงลึกเข้าไปจริงๆจังๆยังมีอีกหลากหลายหมวดหมู่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามก็ไม่ควรมองข้ามพลังของ AI ในทุกๆรูปแบบ เพราะมันเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้คุณมีขีดความสามารถที่มากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ขับเคลื่อนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมและไม่สร้างให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้อื่นด้วยนะครับ
Source:
www.seo.ai/blog/the-generative-ai-application-landscape
www.toloka.ai/blog/generative-ai-market-and-landscape
www.research.aimultiple.com/generative-ai-tools
www.krungsri.com/en/research/research-intelligence/generative-ai-2023