Toms Logo

จากนักธุรกิจและนักเดินทางสู่การผลิตรองเท้ากับ Concept
ที่ชุ่มชื่นหัวใจของคนทั้งโลก


TOMS แบรนด์รองเท้าผ้าใบของประเทศอเมริกาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 โดย Blake Mycoskie ผู้ประกอบการ นักเขียนและผู้ใจบุญชาวอเมริกัน จากเมืองอาร์ลิงตัน (Arlington) รัฐเท็กซัส โดยเชื่อในการทำสิ่งที่ดีและการสร้างความแตกต่าง ซึ่งชื่อแบรนด์ TOMS นั้นก็มาจากแนวคิดที่อยากจะให้ TOMS เป็นรองเท้าสำหรับวันพรุ่งนี้หรือรองเท้าสำหรับอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า (Shoe for Tomorrow Project) จนกลายมาเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจเพื่อสังคมที่โด่งดังระดับโลก

TOMS-One-for-One

Source: https://ourgoodbrands.com/one-for-one-model-started-revolutionary-business/

การทำธุรกิจรองเท้าของ Blake นั้นเกิดขึ้นจากความบังเอิญล้วนๆ แต่ก็เกิดมาจากพื้นฐานความมีจิตกุศลที่อยากช่วยเหลือผู้อื่น โดยไอเดียของการทำรองเท้านั้นก็มาจากการที่ Blake ซึ่งเป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบการในการปั้นธุรกิจ Startup มาแล้วหลายแห่ง ได้ใช้เวลาพักผ่อนเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศอาเจนติน่า เพื่อไปเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนที่นั่น และได้มีโอกาสใส่รองเท้าท้องถิ่นของอาเจนติน่า ที่เรียกว่า Alpargata ซึ่งมันเป็นรองเท้าที่ทำมาจากผ้า ส่วนพื้นทำมาจากเชือกถัก มีความทนทาน และมันก็ใส่นุ่มสบาย โดย Blake เห็นว่าคนพื้นที่นั้นใส่รองเท้าลักษณะนี้กันหมด จึงเกิดเป็นไอเดียเล็กๆขึ้นมาว่าถ้านำไปทำให้ชาวอเมริกันใส่ก็น่าจะดี

ก่อนจบจะทริปท่องเที่ยวนี้ Blake ได้พบกับอาสาสมัครหญิงชาวอเมริกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ที่เป็นอาสาสมัครในการขับเคลื่อนกิจกรรมเกี่ยวกับรองเท้า โดยอาสาสมัครหญิงได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าเด็กที่นี่หลายๆคนยังขาดแคลนรองเท้า แม้ว่าประเทศอาเจนตินาจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตาม องค์กรที่เธอกำลังทำอยู่นั้นได้ทำการรวบรวมรองเท้าจากการบริจาคเพื่อนำมาให้กับเด็กที่ต้องการ แต่มันก็ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอไปเพราะได้รองเท้าที่ไม่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง ทำให้เด็กหลายๆคนยังคงไม่มีรองเท้าใส่อยู่เหมือนเดิม ซึ่งมันทำให้เธอหัวใจแทบสลายเลยจริงๆ

พอได้ยินเรื่องราวจากอาสาสมัครหญิงคนนี้ Blake ก็ตัดสินใจเดินทางไปกับอาสาสมัครหญิงและกลุ่มเพื่อนๆไปตามหมู่บ้านต่างๆ และ Blake ได้ตระหนักและเห็นทุกๆอย่างด้วยตาตนเองกับเด็กๆที่ยากจนที่เดินเท้าเปล่า โดยไม่มีรองเท้าใส่สักคู่ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทำให้ Blake เข้าใจปัญหาของการไม่มีรองเท้าอย่างแท้จริงเพราะการเดินเท้าเปล่ามันส่งผลต่อโรคติดเชื้อหลายอย่าง จึงเกิดเป็นไอเดียในการทำรองเท้าในลักษณะเชิงการกุศล (shoe-based charity) แต่เป็นการขอให้เพื่อนๆและครอบครัวบริจาคเงินเพื่อซื้อรองเท้าที่เหมาะสมกับเด็กๆเป็นประจำ และแน่นอนว่าแค่ลำพังเพื่อนและครอบครัวคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก

toms-one-for-one

Source: https://hauteliving.com/2015/11/find-out-how-toms-is-saving-the-world-one-shoe-at-a-time/592060/

Blake จึงพยายามหาทางออกและได้ตัดสินใจทำเป็นธุรกิจขึ้นมา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กๆในระยะยาวโดยไม่ใช่แค่การบริจาคเป็นครั้งคราว Blake รู้สึกตื่นเต้นกับไอเดียนี้มากและไปพูดคุยกับ Alejo เพื่อนชาวอาเจนตินาที่เป็นคูรสอนโปโลว่า “ฉันจะเปิดบริษัทผลิตรองเท้า Alpargata เพื่อนำมาขายและทุกๆคู่ที่ขายได้นั้น ฉันก็จะมอบรองเท้าคู่ใหม่ให้กับเด็กๆที่ต้องการจริงๆ โดยไม่มีการคิดเงินส่วนแบ่งใดๆทั้งสิ้น” นับเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่มาจากแนวคิดที่เรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือ “ขายรองเท้าวันนี้ เพื่อมอบรองเท้าในวันต่อๆไป” (Sell a pair of shoes today, give a pair of shoes tomorrow) ทำให้ Blake คิดไอเดียในการตั้งชื่อแบรนด์ขึ้นได้ในทันทีโดยตั้งชื่อว่า TOMS กับวลีสั้นๆว่า “Shoes for a Better Tomorrow” หรือ “รองเท้าเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม” ต่อมาก็เปลี่ยนมาเป็น “Tomorrow’s Shoes” หรือตัวย่อก็คือ TOMS ซึ่งมันก็คือคำมั่นสัญญาว่าจะสร้างวันต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้น กลายเป็นจุดกำเนิดรูปแบบธุรกิจแบบ One for One ที่ TOMS ได้นำมาใช้กับการรณรงค์แคมแปญจนประสบความสำเร็จและโด่งดังกลายมาเป็นแบบอย่างให้กับหลายๆแบรนด์ จนถึงทุกวันนี้

ด้วยแนวคิดกับการให้ที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้ TOMS ค่อยๆเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบบรองเท้าในชุดแรกนั้นก็เป็นผลงานการออกแบบตามรองเท้า Alpargata รุ่นดั้งเดิมของอาเจนติน่า จาก 500 คู่แรกใน 6 เดือนก็ค่อยๆขยับไปสู่ 10,000 คู่อย่างรวดเร็ว และมีการนำรายได้บางส่วนไปใช้กับงานช่วยเหลือชุมชนทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย การบริจาครองเท้า งานด้านสาธารณสุข ชีวิตความเป็นอยู่ และด้านอื่นๆ สำหรับคนที่ต้องการมากที่สุด

ปัจจุบัน TOMS ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตไปแล้วกว่า 104,975,528 ชีวิต (ข้อมูล ณ ปี 2021) และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ มีคู่ค้ารวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจอยู่ทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 70 ประเทศ โดยมีการขยายผลิตภัณฑ์ออกเป็นอย่างอื่นนอกจากรองเท้าที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น เสื้อผ้า ถุงเท้า หมวก แว่นตากันแดด แว่นสายตา และอื่นๆ

TOMS Story_1

และทั้งหมดก็เป็นประวัติเรื่องราวโดยสรุปของแบรนด์รองเท้า TOMS ครับ สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวของ TOMS แบบละเอียดลึกๆ ก็ลองเข้าไปดูที่ลิ้งค์นี่ได้เลยครับ https://www.toms.com/us/impact/report.html


Source:
www.mastershoe.co.uk/toms-history
www.toms.com/us/about-toms.html
www.entrepreneur.com/article/220350

Share to friends


Related Posts

Brand History – Apple ผู้ปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์

Apple ผู้เปลี่ยนโลกแห่งเทคโนโลยีด้วยสโลแกน Think Difference ด้วยการนำเสนอสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่ใครๆก็ต้องมีไว้ใช้สักเครื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด ไอพอด ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกมาหลายปีติดต่อกัน เรามาทำความรู้จักกับเรื่องราวของ Apple กันครับ


Brand History – Nike แบรนด์รองเท้ากีฬาระดับโลก

Nike, Inc. บริษัทผลิตรองเท้ากีฬาสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1964 โดย Bill Bowerman โค้ชด้านกีฬาของมหาวิทยาลัยโอเรกอน และ Phil Knight ลูกศิษย์ของเขาเอง โดยมีชื่อเดิมว่าบริษัท Blue Ribbon Sports ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในช่วงปี 1964-1978 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งสองได้เปิดร้านค้าปลีกขึ้นในปี 1966


Brand History – Virgin จากค่ายเพลงสู่ธุรกิจแสนล้าน

หากพูดถึงแบรนด์ Virgin หลายๆคนอาจยังไม่คุ้นหู แต่อาจมีผ่านตากับ Virgin Active ฟิตเนสระดับโลกที่มาเปิดในประเทศไทยได้ไม่นาน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของแบรนด์ Virgin นั่นเองครับ เรามาทำความรู้จักกับต้นกำเนิดของแบรนด์ Virgin ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สายกบฎแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเลยก็ว่าได้



copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์