
การเขียน Prompt ไม่ใช่แค่ “การตั้งคำถาม” เท่านั้น แต่ยังเป็นการให้คำแนะนำที่ชัดเจนพร้อมบริบท การควบคุม และเจตนา โดยหนึ่งในกรอบการเขียน Prompt ที่ใช้งานได้จริงสำหรับงานที่มีโครงสร้าง และเป็นงานที่มีหลากหลายขั้นตอน ก็คือ T.R.I.C.K. Framework ซึ่งช่วยให้คุณออกแบบ Prompt ได้เหมือนกำลังให้ข้อมูลสรุปที่เป็นมืออาชีพ เรามาดูกันครับว่า T.R.I.C.K. นั้นย่อมาจากอะไร ใช้งานอย่างไร และทำไมจึงเป็นเครื่องมือสำคัญ สำหรับการเขียน Prompt ให้กับธุรกิจของคุณ

รู้จักการ Prompt ด้วย T.R.I.C.K. Framework
T.R.I.C.K. เป็นตัวย่อที่ช่วยให้คุณสร้าง Prompt สำหรับ AI ได้อย่างมีโครงสร้างและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแต่ละตัวอักษรมีความหมายดังนี้
- T – Task (งาน) – ที่คุณต้องการให้ AI ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การวิเคราะห์ การสรุป หรือการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เช่น “เขียนอีเมล” หรือ “สรุปบทความนี้”
- R – Role (บทบาท) – ที่ AI ควรจะแสดงออกมา เช่น “ทำตัวเป็นนักการตลาด” หรือ “เขียนในมุมมองของนักประวัติศาสตร์” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับบริบทที่คุณต้องการ
- I – Input (ข้อมูลนำเข้า) – เนื้อหาที่คุณต้องการให้ AI นำไปประมวลผล เช่น “ข้อมูลลูกค้า” หรือ “บทความวิชาการ” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ AI จะใช้ทำงาน
- C – Constraints (ข้อจำกัด) – กำหนดกฎเกณฑ์ น้ำเสียง ความยาว รูปแบบ หรือข้อกำหนดเฉพาะ เช่น “เขียนด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง” “ไม่เกิน 200 คำ” หรือ “อยู่ในรูปแบบรายการ” เพื่อควบคุมผลลัพธ์ให้เป็นไปตามที่คุณต้องการ
- K – Knowledge (ความรู้) – สิ่งที่ AI ควรจะรับรู้หรือสันนิษฐานไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มทำงาน เช่น “ผู้อ่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI อยู่แล้ว” เพื่อให้การตอบกลับมีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
กรอบการทำงานนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถเขียน Prompt ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน การวางแผน การวิเคราะห์ การสร้างสรรค์ผลงาน และอื่นๆอีกมากมาย T.R.I.C.K. Framework จะช่วยขจัดความคลุมเครือ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จาก AI มีความเฉพาะเจาะจงและตรงประเด็นมากขึ้น และถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างผลงาน ให้สอดคล้องกันทั่วทั้งทีม ลูกค้า หรือหัวข้อต่างๆ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้ใช้งาน ก็จะได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและรูปแบบใกล้เคียงกัน

T.R.I.C.K. Prompt Template
คุณสามารถนำ Template นี้ไปใช้ซ้ำๆได้อย่างง่ายดาย กับเครื่องมือต่างๆ เช่น ChatGPT, Gemini, Claude, หรือ Copilot
T – Task: [What do you want the AI to do?]
R – Role: [Who should the AI act as?]
I – Input: [What information or context should the AI use?]
C – Constraints: [What are the limits, format, or tone requirements?]
K – Knowledge: [What AI should know before response?]
T – Task (งาน): [อยากให้ AI ทำอะไร]
R – Role (บทบาท): [ให้ AI สวมบทบาทเป็นใคร]
I – Input (ข้อมูลนำเข้า): [ข้อมูลที่ให้ AI นำไปประมวลผล]
C – Constraints (ข้อจำกัด): [อะไรคือข้อกำหนดหรือข้อจำกัดที่ต้องการ]
K – Knowledge (ความรู้): [ข้อมูลอะไรที่ AI ควรรู้ล่วงหน้า]

ตัวอย่างการเขียน Prompt ด้วย T.R.I.C.K. Framework
Example #1: การคิดสโลแกนให้กับ Marketing Campaign
Generate 5 short slogan ideas for a new marketing campaign.
Act as a senior brand strategist. The product is a reusable water bottle aimed
at Gen Z, priced at THB 600. Keep each tagline under 8 words and focus on sustainability. Assume Gen Z prefers playful yet
purpose-driven messaging.สร้างแนวคิดสโลแกนสั้นๆ 5 ข้อสำหรับแคมเปญการตลาดใหม่ โดยทำหน้าที่
เป็นนักกลยุทธ์แบรนด์อาวุโส ผลิตภัณฑ์คือขวดน้ำแบบใช้ซ้ำได้ ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่ม Gen Z
ที่มีราคา 600 บาท แต่ละสโลแกนต้องไม่เกิน 8 คำ และเน้นไปที่ความยั่งยืน ซึ่งคาดว่ากลุ่ม Gen Z
ชื่นชอบข้อความที่สนุกสนาน แต่ก็ขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมาย
Example #2: การตอบกลับอีเมล์ข้อร้องเรียนของลูกค้า
Write a professional and empathetic email to a customer
who complained about delayed delivery and damaged packaging.
You are a customer service representative. Apologize sincerely, offer a 10% refund,
and ensure the tone is respectful and supportive. Assume the brand
is premium, and this incident is not typical.เขียนอีเมล์ที่เป็นมืออาชีพ และแสดงความเห็นอกเห็นใจถึงลูกค้า
ที่ร้องเรียนเรื่องการจัดส่งล่าช้า และบรรจุภัณฑ์เสียหาย คุณคือตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า
ที่ขออภัยอย่างจริงใจ เสนอคืนเงิน 10% และตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำเสียงสุภาพ และให้การสนับสนุน
โดยสมมติว่าแบรนด์เป็นสินค้าพรีเมียม และเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อยนัก

T.R.I.C.K. Framework เหมาะกับใคร
ประเภทผู้ใช้งาน | T.R.I.C.K. Framework ช่วยอะไรได้บ้าง |
---|---|
Consultants / Strategists | ช่วยให้มั่นใจว่าการตอบสนองต่องานสรุป รายงาน แลบทสรุปสำหรับผู้บริหาร มีโครงสร้างที่ชัดเจน |
Educators / Trainers | เป็นแนวทางในการวางแผนบทเรียน การออกแบบสื่อการสอน และผลลัพธ์ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง |
Copywriters / Content Teams | ช่วยรักษาโทนเสียงของแบรนด์ และวัตถุประสงค์ของแคมเปญให้สอดคล้องกัน |
Analysts / Researchers | กำหนดกรอบการวิเคราะห์ด้วยข้อมูลนำเข้าและเงื่อนไขที่ชัดเจน |
Designers / Creators | ช่วยปรับทิศทางความคิดสร้างสรรค์ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์หรือโครงการ |
T.R.I.C.K. Framework เปรียบเสมือนการสั่งงาน AI ของคุณด้วยความแม่นยำและความชัดเจน ที่ช่วยให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่คุณได้นั้นสอดคล้องกับ “ใคร” (Who) “อะไร” (What) “อย่างไร” (How) และ “ทำไม” (Why) ในสิ่งที่คุณต้องการนั่นเอง