
ในทุกวันนี้โลกเราเต็มไปด้วยคอนเทนต์มหาศาล หลายๆธุรกิจคิดว่าเราจำเป็นต้องทำคอนเทนต์ เพื่อมาแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดและแย่งกันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว “การค้นหาไอเดียที่ใช่” นั้นมีค่ามากกว่าการสร้างแต่ละคอนเทนต์เสียอีก และในบทความนี้ผมจะใช้เป็นจุดเริ่มต้นของซีรี่ย์ “การสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วย Model / Framework” ที่ผมเคยใช้สอนเรื่อง Content Marketing ให้กับหลายโครงการและหลายธุรกิจ ซึ่งผมได้ผสมผสานและปรับใช้หลากหลาย “Model / Framework” เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
บทความนี้ผมจะเริ่มต้นด้วย หนึ่งในเครื่องมือที่เรียกว่าคลาสิก เรียบง่าย และทรงพลังที่สุด สำหรับการสร้างสรรค์ไอเดียคอนเทนต์ นั่นก็คือ 5W1H Framework ที่ใช้งานง่ายและยังปรับใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม ทุกกลุ่มเป้าหมาย และทุกรูปแบบคอนเทนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาด หรือ Content Creator โดย 5W1H Framework นี้จะช่วยให้คุณค้นพบมุมมองของคอนเทนต์หลายแบบ มีความหมาย และตรงใจกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด

5W1H Framework กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์
5W1H Framework นั้นเดิมทีจะใช้ในการทำข่าวและการเขียนเชิงสืบสวน รวมไปถึงการนำมาใช้สำหรับคิดเรื่อง Design Thinking สำหรับออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ กรอบความคิดนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญจะถูกครอบคลุมอยู่ในขอบเขตเดียวกัน และเมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างคอนเทนต์ มันจะกลายเป็นเครื่องมือระดมสมองอันทรงพลัง ที่ปลดล็อกไอเดียใหม่ๆอย่างรวดเร็วและตรงประเด็น โดย 5W1H นั้นย่อมาจาก
- Who (ใคร)
- What (อะไร)
- When (เมื่อไหร่)
- Where (ที่ไหน)
- Why (ทำไม)
- How (อย่างไร)
สำหรับ 5W1H Framework เหมาะที่สุดสำหรับ การสร้างไอเดียสำหรับการเขียนบทความ (Blogs) การเขียนสคริปต์วิดีโอ การวางแผนคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย การวางแผนหลักสูตร คอนเทนต์ประเภทให้ความรู้กับลูกค้า การสร้างคำถามที่พบบ่อย (FAQ) การสร้างฐานความรู้ต่างๆ รวมไปถึงการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ (Brand Storytelling) 5W1H Framework สามารถใช้เพื่อพัฒนาแนวคิดคอนเทนต์ต่างๆ โดยแต่ละคำถามจะเผยให้เห็นมิติที่แตกต่างกันของหัวข้อเดียวกัน ทำให้คอนเทนต์ของคุณมีความหลากหลาย และเกิดความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เรามาดูลักษณะการตั้งคำถามด้วย 5W1H Framework กันครับ
- Who (ใคร)
- คอนเทนต์นี้เกี่ยวข้องกับใคร ใครได้รับผลกระทบ หรือใครเป็นผู้รับผิดชอบ
- Content Ideas
- ลูกค้าในอุดมคติของเราคือใคร
- ใครควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นี้
- ใครคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังแบรนด์ของเรา
- ใครใช้เครื่องมือนี้และใช้อย่างไร
- What (อะไร)
- มันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น มันหมายความว่าอย่างไร
- Content Ideas
- ผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไรและแก้ปัญหาอะไร
- เทรนด์อะไรที่กำลังกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมนี้
- ลูกค้าควรรู้อะไรบ้างก่อนซื้อ
- อะไรคือความแตกต่างระหว่าง X และ Y
- When (เมื่อไหร่)
- มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ควรดำเนินการเมื่อไหร่ เวลาไหนดีที่สุด
- Content Ideas
- เมื่อไหร่คือเวลาที่เหมาะสมในการใช้บริการนี้
- คุณควรเริ่มวางแผนคอนเทนต์เมื่อไหร่
- เทรนด์ในอุตสาหกรรมของเราเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่
- ฤดูกาลไหนดีที่สุดสำหรับการเปิดตัว
- Where (ที่ไหน)
- มันนำไปใช้ที่ไหน ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ที่ไหน ปัญหาอยู่ที่ไหน
- Content Ideas
- ผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ไหน
- ลูกค้าส่วนใหญ่ประสบปัญหาที่ไหน
- แหล่งข้อมูลสำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ที่ไหน
- ไอเดียสำหรับแบรนด์ของเรามาจากไหน
- Why (ทำไม)
- ทำไมมันถึงสำคัญ ทำไมผู้คนถึงควรสนใจ
- Content Ideas
- ทำไมลูกค้าถึงเลือกเรา
- ทำไมประเด็นนี้ถึงสำคัญในขณะนี้
- ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงล้มเหลวในเรื่องนี้
- ทำไมกลยุทธ์คอนเทนต์จึงจำเป็นต่อการเติบโต
- How (อย่างไร)
- มันทำงานอย่างไร วิธีการทำมันคืออะไร วิธีเริ่มต้นคืออะไร
- Content Ideas
- วิธีใช้เครื่องมือนี้ใน 5 ขั้นตอน
- วิธีที่เราแก้ปัญหาใหญ่ให้กับลูกค้า
- วิธีสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ
- เบื้องหลังการผลิตสินค้าของเราเป็นอย่างไร

ตัวอย่างการใช้ 5W1H Framework ในการทำ Email Marketing
คำถาม | Content Ideas |
---|---|
Who | ใครได้รับประโยชน์มากที่สุดจาก E-Marketing |
What | อะไรที่ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ |
When | เมื่อไหร่คือเวลาที่ดีที่สุดในการส่งอีเมล์ |
Where | ควรวาง Call-to-Action (CTA) ไว้ตรงไหน |
Why | ทำไม E-Marketing ยังคงสำคัญในปี 2025 |
How | วิธีสร้างรายชื่ออีเมล์แรกของคุณใน 7 วัน |

ตัวอย่างสถานการณ์จริงกับการใช้ 5W1H Framework
คุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในย่านออฟฟิศ และต้องการสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงพักกลางวัน หัวข้อหลักในการทำคอนเทนต์ คือ “กาแฟสำหรับคนทำงาน” เรามาดูการใช้ 5W1H Framework ในการคิดคอนเทนต์และการนำไปใช้อย่างรวดเร็ว กันครับ

- Who (ใคร)
- ใครคือกำลังมองหากาแฟในช่วงพักกลางวัน
- Content Ideas
- Blog Post: “5 ประเภทกาแฟที่ช่วยบูสต์พลังให้คนทำงานช่วงบ่าย” (เน้นไปที่กลุ่มคนทำงานโดยเฉพาะ)
- Social Media Post: “ถึงชาวออฟฟิศทุกท่าน! พักเบรกเติมพลังกับกาแฟแก้วโปรดของเรา” (เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย)
- What (อะไร)
- พวกเขากำลังมองหาอะไรนอกเหนือจากกาแฟ มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับกาแฟของคุณ
- Content Ideas
- Short Video: “เบื้องหลังกาแฟแก้วโปรดของคุณ ตั้งแต่เมล็ดกาแฟถึงมือคุณ” (แสดงถึงคุณภาพและความใส่ใจ)
- Instagram Post: รูปภาพกาแฟสวยๆพร้อมโปรโมชั่นอาหารกลางวัน (นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าอาจต้องการควบคู่ไปกับกาแฟ)
- When (เมื่อไหร่)
- ช่วงเวลาไหนที่คนทำงานต้องการกาแฟมากที่สุด มีช่วงเวลาพิเศษใดบ้าง
- Content Ideas
- Promotion: “Happy Hour ลด 15% กาแฟยามบ่ายช่วง 13.30น. – 14.30น. เท่านั้น” (กระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่อาจไม่พีคที่สุด)
- Social Media Post: “วันศุกร์แล้ว! มาเติมความสุขด้วยกาแฟอร่อยๆกัน” (เชื่อมโยงกับช่วงเวลาและอารมณ์)
- Where (ที่ไหน)
- ร้านกาแฟของคุณตั้งอยู่ที่ไหน มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับทำเลที่ตั้ง
- Content Ideas
- Map / Photos: “ร้านกาแฟของเรา ซ่อนตัวอยู่ในใจกลางย่านออฟฟิศ [ชื่อย่าน]” (ช่วยให้ลูกค้าหาคุณเจอ)
- Blog Post: “มุมสงบหลีกหนีความวุ่นวาย ร้านกาแฟของเรา คือ โอเอซิสของคนทำงาน” (เน้นบรรยากาศและประโยชน์ของสถานที่)
- Why (ทำไม)
- ทำไมคนทำงานถึงควรเลือกร้านกาแฟของคุณ คุณมอบอะไรที่แตกต่าง
- Content Ideas
- Brand Story: “ความหลงใหลในกาแฟคุณภาพ เพื่อเติมเต็มวันทำงานของคุณ” (สร้างความผูกพันกับลูกค้า)
- Customer Reviews: แชร์คำชมจากลูกค้าที่ชื่นชอบกาแฟและบรรยากาศร้าน (สร้างความน่าเชื่อถือ)
- How (อย่างไร)
- ลูกค้าจะได้รับกาแฟของคุณได้อย่างไร มีบริการพิเศษอะไรบ้าง
- Content Ideas
- Video: “วิธีสั่งกาแฟเดลิเวอรี่ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันของเรา” (อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า)
- Social Media Post: “โทรสั่งล่วงหน้า! กับกาแฟพร้อมเสิร์ฟเมื่อคุณมาถึงออฟฟิศทันที” (นำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความเร่งรีบ)
จากหัวข้อ “กาแฟสำหรับคนทำงาน” เพียงหัวข้อเดียว เมื่อนำ 5W1H Framework มาปรับใช้ เราสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย และเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าในช่วงพักกลางวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5W1H Framework อาจดูเป็นกรอบความคิดที่เรียบง่าย แต่มีพลังในการสร้างความแตกต่าง ที่บังคับให้คุณถามคำถามที่ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่คอนเทนต์ที่ผู้คนต้องการจริงๆ ไม่ว่าคุณจะกำลังสร้างอะไรใหม่ๆ หรือกำลังเปิดตัวแคมเปญใหม่ และยังมี “Model / Framework” ที่เกี่ยวกับการคิดคอนเทนต์อีกมาก ที่ผมจะนำมาสรุปให้อ่านในบทความต่อๆไป