
Mercedes-Benz เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ทรงอิทธิพลและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โลโก้ของแบรนด์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดศตวรรษที่ผ่านมา โดยทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ ก็ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งนั่นคือ “คุณภาพ นวัตกรรม และความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์” โลโก้ของ Mercedes-Benz มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าการเป็นเพียงเครื่องหมายการค้า และโลโก้ “ดาวสามแฉก” นั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ดูหรูหรา แต่ยังเป็นตัวแทนของปรัชญาและวิสัยทัศน์ของบริษัทอีกด้วย
ปี 1902-1909 (โลโก้ตัวอักษร Mercedes Wordmark)

แบรนด์นี้เริ่มต้นจากชื่อ “Mercedes” ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวของ Emil Jellinek (นักธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของ Daimler-Motoren-Gesellschaft หรือ DMG) โดยโลโก้แรกเป็นเพียงตัวอักษร “Mercedes” ที่มีฟอนต์เรียบง่ายโดยใช้เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ที่ใช้ตัวอักษรแบบ Sans-Serif (ไม่มีหัว/ไม่มีเชิง) ไม่มีสัญลักษณ์ “ดาวสามแฉก” เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน “Mercedes” เป็นชื่อภาษาสเปนที่แปลว่า “ความเมตตา” (Grace) ที่สื่อถึงความสง่างามและหรูหราของรถยนต์ที่ผลิตโดย DMG โดยโลโก้นี้ใช้ตั้งแต่ปี 1902-1909
ปี 1909-1916 (โลโก้ตัวอักษร Mercedes Wordmark)

โลโก้ของ Mercedes-Benz ในปี 1909 นั้นเริ่มดูสง่างามและวิจิตรบรรจงที่ใช้แค่สีขาวและดำ โดยใช้วงกลมแบบดั้งเดิมนั้นมีเส้นขอบหนาสองชั้น ที่ห้อมล้อมด้วยพวงหรีดลอเรล (Laurel Wreath) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวพันกับชัยชนะและเกียรติยศในสมัยกรีกและโรมันโบราณ พวงหรีดทำจากกิ่งและใบของลอเรลเบย์ (Laurus Nobilis) ที่เชื่อมต่อกัน โดยวางพวงหรีดสีขาวเอาไว้บนพื้นสีดำ ส่วนคำว่า Benz นั้นตัวอักษร “B” และ “E” ใช้ตัวอักษรแบบมีหัวหรือมีขีดเล็กๆอยู่ปลายสุด ที่เรียกว่า Serif ส่วนตัวอักษร “N” และ “Z” ใช้ที่ใช้ตัวอักษรแบบ Sans-Serif (ไม่มีหัว/ไม่มีเชิง) ด้วยสีดำบนพื้นหลังสีขาวของวงกลมด้านใน เป็นโลโก้ที่การประดับประดาด้วยสวยงาม ซึ่งในขณะเดียวกันก็แสดงถึงพลังของแบรนด์ โดยเหตุผลที่เปลี่ยนจากโลโก้ดั้งเดิมก็เพราะ DMG ต้องการสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และจดจำได้ง่ายกว่าตัวอักษรเพียงอย่างเดียว และใช้โลโก้ตัวนี้มาถึงปี 1916
ปี 1916-1926 (ปรากฎการณ์ดาวสามแฉก)

Gottlieb Daimler (ผู้ก่อตั้ง DMG) เคยส่งจดหมายถึงภรรยาของเขา และวาดดาวสามแฉกบนแผนที่บ้านของเขา พร้อมบอกว่า “ดาวนี้จะนำบริษัทของเราไปสู่ความสำเร็จ” แบรนด์จึงเลือกใช้สัญลักษณ์ ดาวสามแฉก (Three-Pointed Star) เป็นโลโก้อย่างเป็นทางการ “ดาวสามแฉก” สื่อถึง “ความเป็นผู้นำของ DMG ในยานยนต์ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ” และกลายเป็นเป็นสัญลักษณ์ของ “ความก้าวหน้าและนวัตกรรมด้านวิศวกรรม”
โลโก้นี้ยังยึดต้นแบบเดิมจากปี 1909 ที่เป็นวงกลม แต่มีการเอาพวงหรีดลอเรล (Laurel Wreath) ออกไปทั้งหมด และยังเอาคำว่า Benz ออกไป โดยเปลี่ยนเป็น “ดาวสามแฉก” ขนาดใหญ่ตรงกลาง โดยวงกลมรอบนอกสุดเป็นขอบสีดำบางๆ วงที่สองด้านในมีเหลืองที่หนาขึ้นมาหน่อย คำว่า Mercedes อยู่ด้านล่างเป็นตัวสีเหลืองพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดที่อยู่บนพื้นสีดำ ภายในวงนี้มีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกสีเหลืองกระจายอยู่ 4 อันรอบวง ส่วนด้านในสุดเป็นพื้นหลังสีแดงสด การออกแบบนี้ทำให้โลโก้ดูมีมิติมากขึ้น วงแหวนช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ “ความเป็นหนึ่งเดียวและความสมบูรณ์แบบ” โดยโลโก้นี้ถูกใช้มาจนถึงปี 1926
ปี 1926-1933 (การรวมตัวของ Mercedes และ Benz)

ในปี 1926 บริษัท Daimler-Motoren-Gesellschaft (DMG) และ Benz & Cie. รวมตัวกันเป็น Mercedes-Benz ทำให้การปรับโลโก้ใหม่นั้นจึงต้องรวมเอา “ดาวสามแฉก” ของ Mercedes และ “พวงหรีดลอเรล (Laurel Wreath)” ของ Benz เข้าไว้ด้วยกัน โดยโลโก้นี้เป็นตัวแทนของการรวมกัน ของสองบริษัทยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่สะท้อนถึงการควบรวมกิจการและการกำเนิดของ Mercedes-Benz ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่ “สื่อถึงคุณภาพ นวัตกรรม และความหรูหรา” และยังเป็นเรื่องของ “ชัยชนะ” และ “เกียติยศ”
โดยพื้นนหลังตรงกลางนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง (ไม่สดเหมือนเดิม) ย้ายคำว่า Mercedes ไปอยู่ด้านบนและนำเอาคำว่า Benz มาอยู่ด้านล่าง ส่วน “ดาวสามแฉกนั้น” ก็มีการย่อยขนาดให้เล็กลงเพื่ออยู่ในวงกลมด้านใน โดยใช้สีดำและขาวและออกแบบให้ดูเหมือนมีการเล่นแสงเพื่อให้ดูมิติมากขึ้นกว่าของเดิม โดยเอาโทนสีเหลืองทั้งหมดออกไป
ปี 1933-1989 (ความเรียบง่าย)

โลโก้ในปี 1933 นั้นมีอยู่ 2 แบบโดยแบบแรกนั้นยังคงเป็นการออกแบบตาม “พวงหรีดลอเรล (Laurel Wreath)” ซึ่งมีการเปลี่ยนสีและตัวหนังสือให้ดูหนาขึ้น โดยโลโก้นี้ไม่ค่อยได้ใช้มากเท่าไหร่ (ใช้แค่บางกรณีเท่านั้น) แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงอยู่ที่รูปแบบที่ 2 ซึ่งตัด “พวงหรีดลอเรล (Laurel Wreath)” ออกไป เหลือเพียง “ดาวสามแฉกล้อมรอบด้วยวงแหวน” ใช้สีขาว-ดำ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นบนรถยนต์และเอกสารต่างๆ นับเป็นการ “เน้นความทันสมัยและเรียบง่ายของแบรนด์” โดยลดทุกรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป โลโก้แบบ Flat Design นี้ถูกใช้จนถึงปี 1989 ซึ่งถือว่ายาวนานมากที่สุด (56 ปี)
ปี 1989-2009 (3D Chrome Star Logo)

โลโก้ได้รับการปรับให้เป็น “สีเงินเงาวาวคล้ายโลหะโครเมียม” มีความเป็น 3 มิติ และนำคำว่า Mercedes-Benz มาใส่ด้านล่าง มีการปรับมาใช้ตัวอักษรแบบมีหัวหรือมีขีดเล็กๆอยู่ปลายสุดหรือที่เรียกว่า Serif และตัวอักษรดูบางขึ้น สีเงินนั้นสะท้อนถึง “คุณภาพระดับพรีเมียม ความแข็งแกร่ง และนวัตกรรมทางวิศวกรรม” เป็นสัญลักษณ์ของความ “ทันสมัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี” โดยโลโก้นั้นถูกนำมาใช้กับรถยนต์ Mercedes-Benz กับรุ่นที่หรูหรา และโลโก้นี้ก็ถูกใช้มาจนถึงปี 2009
ปี 2009-2011 (โลโก้แบบ Minimalist)

โลโก้ในปี 2009 มีตัดเงาและเอฟเฟกต์ 3D ออกไป เปลี่ยนเป็นโลโก้แบบ “Flat Design” โดยใช้โทนสีดำ ขาว เทา หรือเงิน และมีการขายคำว่า Mercedes-Benz ให้ใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม แสดงถึงความ “เรียบง่าย แต่ทรงพลัง” สื่อถึง “เอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz ในฐานะแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำ” โลโก้นี้ถูกนำและใช้ในระยะเวลาสั้นๆจนถึงปี 2011
ปี 2011-ปัจจุบัน (โลโก้แบบ 3D Star)

สุดท้ายแล้วโลโก้ของ Mercedes-Benz กลับมาเป็นลักษณะ 3D ที่คล้ายกับที่ใช้ในปี 1989 เพื่อให้ดูมีมิติและเงางามมากขึ้น สื่อถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและดีไซน์ล้ำยุค เพื่อให้เข้ากับยุคดิจิทัลและการใช้งานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน