Startup กับ SMEs สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ทำธุรกิจหรือเกี่ยวข้องกับศาสตร์การบริหารธุรกิจ หากดูเผินๆแล้วทั้ง 2 อย่างอาจจะดูไม่แตกต่างกันเพราะทั้งคู่ก็นับว่าเป็นบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งสร้างมาจากการไม่มีอะไรเลยโดยผู้ประกอบการเพื่อเจาะตลาดที่เฉพาะเจาะจง ทั้งสองแบบมุ่งเน้นไปที่การเติบโต การสร้างกำไร และการอยู่รอด แต่ก็มีความแตกต่างอยู่เล็กๆน้อยๆที่มีความสำคัญอยู่
หากมองที่คำว่าธุรกิจ Startup เรามักจะนึกถึงภาพของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่มีไฟมีพลังในการอยากเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง จากไอเดียที่บรรเจิดซึ่งมักจะเป็นไอเดียที่ยังไม่ค่อยมีใครทำในขณะนั้น แต่อาจจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ไม่ได้วางแผนในการพัฒนาหรือต่อยอดเพิ่มเติมในอนาคต โดยอาจมีเพียงแค่ 1 ใน 10 ที่ประสบความสำเร็จ
ในทางกลับกัน SMEs (Small and Medium Sized Enterprises) หรือธุรกิจขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง จะมีโครงการที่ชัดเจนกว่าที่เหมาะสมกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงรายละเอียดที่ลึกว่าทั้งการวิจัยตลาดอย่างจริงจังเพื่อหาช่องว่างในการเติมเต็มความต้องการของตลาดให้มีประสิทธิภาพ การเติบโตจะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งต่างจาก Startup ที่เน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในเวลาไม่ถึงปี
ผมได้รวมข้อแตกต่างระหว่าง Startup กับ SMEs เป็นตารางแบบง่ายๆมาให้ดูกันครับ
ความแตกต่างระหว่าง Startup กับ SMEs
นวัตกรรม
- Startup
ให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี และแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Airbnb - SMEs
จุดเด่นไม่ได้อยู่ที่นวัตกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม เช่น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจทำเว็บไซต์ การสร้างบล็อก ธุรกิจตัดต่อหนัง
ขอบเขต
- Startup
ไม่มีข้อจำกัดหรือขอบเขตในการเติบโต เน้นการเป็นที่หนึ่งหรือครองตลาดให้ได้มากที่สุด - SMEs
ยึดตามแผนงานของทีมเพื่อสร้างความเติบโตตามขอบข่ายงานบริการที่มีอยู่ และความต้องการของผู้บริโภค
การเติบโต
- Startup
เติบโตเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ สามารถปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจได้อยู่ตลอดเวลา - SMEs
ค่อนข้างเติบโตรวดเร็ว และให้ความสำคัญกับการสร้างกำไรให้กับธุรกิจ เพื่อการเติบโตในระยะยาว
การทำกำไร
- Startup
เน้นการผลิตและพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความชอบของลูกค้าในช่วงปีแรกๆ หลังจากนั้นค่อยเน้นทำกำไร - SMEs
เน้นการสร้างกำไรตั้งแต่ปีแรกในการทำธุรกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับแผนของธุรกิจนั้นๆ
แหล่งเงินทุน
- Startup
เงินทุนส่วนใหญ่มาจากการระดมทุน นักลงทุน กลุ่มทุน หรือจากธุรกิจครอบครัว โดยธรรมชาติ Startup จะหาทุนอยู่ตลอดเวลาเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าต่างๆก่อนจะสร้างกำไร - SMEs
เงินทุนส่วนใหญ่มาจากเงินเก็บตัวเอง ครอบครัว การลงขันของกลุ่มเพื่อนๆในการเปิดธุรกิจ การกู้ยืมเงินจากธนาคาร หรืออาจมีนักลงทุนร่วมหุ้นได้ โดยเป้าหมายของ SMEs คือการอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทั้งการบริหารรายได้และหนี้สินต่างๆ โดยต้องมีการชำระหนี้ต่างๆที่เกิดขึ้น
เทคโนโลยี
- Startup
เทคโนโลยีถือเป็นความจำเป็นพื้นฐานของธุรกิจ Startup หากไม่มีเทคโนโลยีก็ไม่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว - SMEs
ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่สามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ โดยรูปแบบของเทคโนโลยีส่วนใหญ่นำมาใช้ในการทำการตลาด หรืองานบริการหลังการขายต่างๆ
ช่วงอายุของธุรกิจ
- Startup
92% ของธุรกิจจะปิดตัวลงในช่วง 1-3 ปีแรก - SMEs
32% ของธุรกิจจะปิดตัวลงในช่วง 1-3 ปีแรก
ทีมงานและผู้บริหาร
- Startup
ด้วยความที่ Startup จำเป็นต้องเติบโตอย่างรวดเร็วจึงจำเป็นต้องหาบุคลากรมาทำงานจำนวนมากทั้ง พนักงาน หัวหน้าแต่ละส่วนงาน คู่ค้าทางธุรกิจ นักลงทุนที่เกี่ยวข้อง และเราจะเห็นตำแหน่งต่างๆมากมาย เช่น CTO, CPO, COO, CCO เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ - SMEs
มีการวางแผนการรับคนทำงานตามความต้องการ ให้ตรงตามกับแผนธุรกิจและเป้าที่ต้องการจะเติบโต
วิถีชีวิต
- Startup
เมื่อเป็นเงินทุนจากนักลงทุนแล้ว ก็จำเป็นต้องรีบสร้างกำไรให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องใช้พลังเยอะมากในการทำงาน ฉะนั้นการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะจำเป็นต้องมุ่งสร้างผลงานตลอดเวลา และส่วนใหญ่ Startup นั้นจะทำงานกันดึกดื่น ประชุมกันช่วงเย็นถึงค่ำมืด - SMEs
แม้ว่าจะทำงานหนัก ต้องรับโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา มีการพบปะลูกค้าและประชุมอยู่เรื่อยๆ แต่การทำงานส่วนใหญ่จะมีเวลาการทำงานที่แน่นอน สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนด้วยได้ดี
การเข้าใจถึงความแตกต่างของทั้ง 2 ประเภทธุรกิจจะช่วยให้คุณรู้ว่า หากคุณจะเริ่มทำธุรกิจใดๆก็ตามคุณจำเป็นต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องใดบ้าง รวมไปถึงวัตถุประสงค์ของการทำธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของคุณ
Cover photo by freepik – www.freepik.com