เมื่อพูดถึงการเขียนเชิงโน้มน้าวใจ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา (Advertising) หน้าการขาย (Sales Page) หนัา Landing Page หรือแม้แต่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ การนำเอากรอบการทำงาน P.A.S. (Problem – Agitate – Solution) หรือ P.A.S. Framework มาช่วยนั้น ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูง ที่นักเขียนคำโฆษณาและนักการตลาดทั่วโลก ได้นำมาใช้งานกันมาอย่างยาวนาน และมันคือหนึ่งในโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบ หากนำมาบอกให้ AI สร้างเนื้อหาที่เจาะลึกถึงปัญหาและกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ และเราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ P.A.S. Framework กันในบทความนี้ครับ
รู้จักการ Prompt ด้วย P.A.S. Framework
P.A.S. Framework คือ กรอบการดึงดูดความสนใจผ่านความเห็นอกเห็นใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำด้วยการมอบความหวัง ที่มันถูกใช้ในการโฆษณามานานหลายทศวรรษ เพราะมันสะท้อนวิธีการที่ผู้คนประมวลผล และตอบสนองต่อความเจ็บปวดและการบรรเทาความเจ็บปวดในเชิงอารมณ์ ดังนี้
- P – Problem (ปัญหา) – ระบุปัญหาหลัก หรือ “จุดเจ็บปวด” (Pain Point)
- A – Agitate (กระตุ้น) – ทำให้ปัญหานั้นรุนแรงขึ้น โดยเน้นย้ำถึงผลที่ตามมาหรือความรู้สึกหงุดหงิด
- S – Solution (วิธีแก้ปัญหา) – เสนอทางออกไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ ไอเดีย หรือขั้นตอนต่อไปที่ช่วยแก้ปัญหานั้นได้
ด้วยความเรียบง่ายของ P.A.S. Framework ที่สามารถเข้าถึง “จุดเจ็บปวด” ที่แท้จริง สร้างความเร่งด่วนและการมีส่วนร่วมทางอารมณ์ และง่ายต่อการนำไปปรับใช้กับข้อความเกือบทุกประเภท ซึ่งเป็นลักษณะของการโน้มน้าวใจโดยธรรมชาติ ที่นำเสนอการเดินทางจากความหงุดหงิด ไปสู่การแก้ไขปัญหาเหมือนกับเรื่องราวที่ดีเรื่องหนึ่ง
P.A.S. Prompt Template
คุณสามารถนำ Template นี้ไปใช้ซ้ำๆได้อย่างง่ายดาย กับเครื่องมือต่างๆ เช่น ChatGPT, Gemini, Claude, หรือ Copilot
Step 1:
Define [Purpose/Situation/Outcome]Step 2:
“Write a [type of content] using the P.A.S. framework:
Start by identifying the customer’s Problem, then Agitate their pain, and finally present the Solution in a persuasive tone.”
ตัวอย่างการเขียน Prompt ด้วย P.A.S. Framework
เราลองมาดูแนวทารการเขียน Prompt ด้วย P.A.S. Framework เพื่อให้เห็นลักษณะการ Prompt และลักษณะคำตอบที่ได้ ดังนี้
Example #1: เป้าหมายหมาย คือ โปรโมทผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้าผ่าน Facebook
AI Prompt
“Write a Facebook ad using the P.A.S. framework: Start by identifying the customer’s Problem, then Agitate their pain, and finally present the Solution in a persuasive tone. The product is a gentle face serum for sensitive skin.”
“เขียนโฆษณา Facebook โดยใช้กรอบ P.A.S.: เริ่มต้นด้วยการระบุ ปัญหา (Problem) ของลูกค้า จากนั้น กระตุ้น (Agitate) ความเจ็บปวดของพวกเขา และสุดท้ายนำเสนอ วิธีแก้ปัญหา (Solution) ด้วยโทนเสียงที่โน้มน้าวใจ ผลิตภัณฑ์ คือ เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย”
ผลลัพธ์จาก AI
Problem: Tired of breakouts every time you try a new product?
Agitate: Your skin shouldn’t have to suffer just to find what works. Redness, stinging, and irritation aren’t just frustrating—they lower your confidence too.
Solution: Meet CalmiSkin Serum—dermatologist-approved, fragrance-free, and packed with soothing botanicals to calm, repair, and protect your sensitive skin. Let your skin breathe easy again.
ปัญหา (Problem): เบื่อกับการเกิดสิวทุกครั้งที่ลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆใช่ไหม
กระตุ้น (Agitate): ผิวของคุณไม่ควรต้องทนทุกข์เพียงเพื่อจะหาสิ่งที่เหมาะกับมัน การที่ผิวแดง แสบ และ
ระคายเคืองไม่ได้แค่ทำให้หงุดหงิด แต่มันยังทำให้คุณขาดความมั่นใจอีกด้วย
วิธีแก้ปัญหา (Solution): พบกับ CalmiSkin Serum ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง ปราศจากน้ำหอม
และอุดมด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ที่ช่วยปลอบประโลม ฟื้นฟู และปกป้องผิวแพ้ง่ายของคุณ ให้ผิวของคุณ
ได้หายใจอย่างสบายอีกครั้ง
Example #2: เป้าหมาย คือ โปรโมทหลักสูตรผ่านอีเมล์
AI Prompt
“Write a marketing email using the P.A.S. framework: Start by identifying the customer’s Problem, then Agitate their pain, and finally present the Solution in a persuasive tone. The email promotes a 7-day online course on productivity
for busy professionals.”
“เขียนอีเมล์การตลาดโดยใช้กรอบ P.A.S.: เริ่มต้นด้วยการระบุ ปัญหา (Problem) ของลูกค้า จากนั้น กระตุ้น (Agitate) ความเจ็บปวดของพวกเขา และสุดท้ายนำเสนอ วิธีแก้ปัญหา (Solution) ด้วยโทนเสียงที่โน้มน้าวใจ
โดยเป็นการโปรโมทหลักสูตรออนไลน์ 7 วันว่าด้วยเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน สำหรับมืออาชีพที่ไม่มีเวลา”
ผลลัพธ์จาก AI
Problem: You have a to-do list that never ends—but your day seems to disappear before half of it gets done.
Agitate: You’re constantly juggling tasks, staying late, and still feeling unproductive. Burnout is creeping in—and you know there has to be a better way.
Solution: Our 7-Day Productivity Reset gives you proven systems to take back control of your time—without hustle culture. In just one week, learn how top performers get more done with less stress. Ready to reclaim your hours?
ปัญหา (Problem): คุณมีรายการสิ่งที่ต้องทำที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่ดูเหมือนว่าแต่ละวันของคุณ จะหมดไปก่อนที่งานจะเสร็จไปครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ
กระตุ้น (Agitate): คุณต้องรับมือกับงานมากมายอยู่ตลอดเวลา ทำงานล่วงเวลา และยังคงรู้สึกว่าไม่มีประสิทธิภาพ ความเหนื่อยหน่ายกำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตคุณ และคุณก็รู้ว่ามันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้
วิธีแก้ปัญหา (Solution): “7-Day Productivity Reset” ของเราจะมอบระบบที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อให้คุณกลับมาควบคุมเวลาของคุณได้ โดยไม่ต้องจมอยู่กับวัฒนธรรมการทำงานหนักเกินไป ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
กับการเรียนรู้ว่าคนเก่งๆที่มีประสิทธิภาพ ทำงานได้มากขึ้นโดยมีความเครียดน้อยลงได้อย่างไร
คุณพร้อมที่จะเรียกคืนเวลาของคุณกลับมาหรือยัง
P.A.S. Framework เหมาะกับใคร
| ประเภทผู้ใช้งาน | P.A.S. Framework ช่วยอะไรได้บ้าง |
|---|---|
| Marketers & Copywriters | สร้างสรรค์ข้อความโน้มน้าวใจ ที่เปลี่ยนคนให้ซื้อได้ทั้งด้านอารมณ์และเหตุผล |
| Sales Teams | สร้างคำนำเสนอและข้อความติดต่อลูกค้า ที่น่าสนใจและน่าดึงดูด |
| Brand Strategists | เน้น Pain Point ของลูกค้า เพื่อการวางตำแหน่งแบรนด์ ให้กลายเป็นทางออกของลูกค้า |
| Content Creators / Bloggers | ดึงดูดผู้ชมด้วยบทนำที่กระตุ้นอารมณ์ และคำที่กระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) |
| Email Marketers | จัดโครงสร้างหัวข้ออีเมล์และเนื้อหา ที่สร้างอัตราการเปิดอ่านและคลิกที่สูงขึ้น (Open / CTR Rate) |
หากเป้าหมายของคุณ คือ การกระตุ้นให้ผู้คนลงมือทำ P.A.S. Framework คือ เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณที่สามารถนำมาผนวก ให้เข้ากับกลยุทธ์การสร้าง AI Prompt ของคุณ ด้วยเนื้อหาที่เข้าถึงอารมณ์ได้เร็วขึ้น ชาญฉลาดขึ้น และสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
