
โลโก้ของ Google เป็นหนึ่งในโลโก้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง แต่ในทุกๆครั้งที่เปลี่ยนโลโก้นั้น ก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกสามารถจดจำได้ โลโก้ของ Google สะท้อนถึงแนวคิดของแบรนด์ที่มุ่งเน้นความเรียบง่าย เป็นมิตร และเต็มไปด้วยนวัตกรรม โดยตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน โลโก้ของ Google ได้มีการปรับเปลี่ยนถึง 7 ครั้งด้วยกัน ซึ่งแต่ละครั้งก็มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่ปรับให้ดูทันสมัยขึ้นเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ การออกแบบ และเทคโนโลยี อีกด้วย
ปี 1996 (โลโก้แรกกับยุค BackRub)


ก่อนที่ Google จะถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้ก่อตั้งทั้ง Larry Page และ Sergey Brin ได้สร้างระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ชื่อว่า BackRub โดยโลโก้ในยุคแรกเป็นเพียงตัวอักษร “สีแดงเข้ม” ไม่มีสีสันที่โดดเด่น ที่ใช้ตัวอักษรแบบ Sans-Serif (ไม่มีหัว/ไม่มีเชิง) และเป็นตัวหนาทึบ ซึ่งการออกแบบยังไม่มีการใส่สีหลักของ Google เหมือนในปัจจุบัน และยังไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แนวคิดเบื้องหลังโลโก้ที่ใช้ชื่อ BackRub ก็เพราะระบบค้นหานี้ใช้การวิเคราะห์ “Backlinks” หรือลิงค์ย้อนกลับเพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ ส่วนมือที่เห็นในรูปก็เป็นมือซ้ายของ Larry Page นั่นเอง โดยชื่อ BackRub ก็ค่อนข้างจะน่าขนลุกไปหน่อยโดยเฉพาะเมื่อนำมาอยู่บนมือของ Lary Page ซึ่งคล้ายกับมือคนที่กำลังนวดหลังอยู่ (นั่นอาจเป็นความหมายของชื่อและโลโก้ก็ได้ เพราะคำว่า Backrup จริงๆแปลว่าการนวดกล้ามเนื้อหลังให้รู้สึกผ่อนคลาย) เสมือนผ่อนคลายให้เกิดความสบายกลับมานั่นเอง
ปี 1997 (เปลี่ยนชื่อเป็น Google และเป็นต้นแบบโลโก้แรกสุด)

เมื่อระบบค้นหาของพวกเขาเริ่มพัฒนาไปไกลขึ้น Larry Page และ Sergey Brin ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อจาก BackRub เป็น Google ซึ่งมาจากคำว่า “Googol” ที่หมายถึงตัวเลข 1 ตามด้วยศูนย์ 100 ตัว เพื่อสื่อถึงปริมาณข้อมูลมหาศาลที่สามารถจัดการได้ โลโก้ในปี 1997 นี้ยังคงดูเรียบง่ายมาก โดยใช้ตัวอักษรที่มีสีสันให้ดูสนุกขึ้น และการใช้หลายสีสันนั้นก็ยังแสดงถึงความหลากหลาย แต่ยังไม่มีลูกเล่นด้านกราฟิกใดเพิ่มเติม โดยโลโก้ Google ชุดนี้เริ่มสื่อถึงแนวคิดของแบรนด์ กับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปให้ถึงนั่นเอง
ปี 1998 (โลโก้อย่างเป็นทางการ)

โลโก้นี้ถือเป็นโลโก้ของ Google รุ่นแรกสุด ที่เริ่มนำมาใช้อย่างเป็นทางการ โดยเป็นโลโก้ที่เราจะเห็นได้ในช่วงแรกที่ Google เปิดตัวสู่สาธารณะ กับการใช้ตัวฟอนต์ชื่อ Baskerville Bold (แบบมีหัวหรือมีขีดเล็กๆอยู่ปลายสุด ที่เรียกว่า Serif) และใส่สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของ Google ซึ่งได้แก่ น้ำเงิน แดง เหลือง และเขียว แถมยังมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ต่อท้าย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Yahoo! อีกด้วย การใส่สีแบบไม่เป็นระเบียบนั้นแสดงถึง “ความเป็นอิสระ” และ “ความคิดสร้างสรรค์” เครื่องหมาย (!) ที่ใส่ไว้ก็เพื่อให้ดูสนุกสนาน แต่ก็ถูกถอดออกในภายหลัง
ปี 1999 (ปรับแต่งสีและเพิ่มเงาให้ดูโดดเด่น)

ในปี 1999 Google ได้ว่าจ้าง Ruth Kedar นักออกแบบกราฟิกชาวบราซิล ให้มาช่วยพัฒนาโลโก้ให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยสีของโลโก้ถูกปรับให้ “สว่างขึ้นและสดใสขึ้น” มีการใส่ “เงาแบบสามมิติ” เพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น ตัวอักษรถูกออกแบบให้ มีความสมดุลมากขึ้นและดูบางลง โลโก้นี้เพิ่มความเป็นมืออาชีพและดูทางการมากขึ้น แต่ยังคงความสนุกสนานของแบรนด์ด้วยสีสันที่หลากหลาย ทำให้โลโก้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆที่มักใช้สีเดียว
ปี 2009 (ปรับดีไซน์เล็กน้อยให้ทันสมัยขึ้น)

มีการปรับโลโก้โดยลดเงาออกให้บางลง เพื่อให้โลโก้ดูแบนราบขึ้นเล็กน้อย มีการปรับระยะห่างของตัวอักษรให้อ่านง่ายขึ้น ดูสะอาดตา และปรับให้เหมาะกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้น
ปี 2013 (โลโก้แบบ Flat Design)

มีการลบเงาออกทั้งหมดและเปลี่ยนเป็น “ดีไซน์แบบแบนราบ (Flat Design)” ทำให้โลโก้ดูสะอาดตาและทันสมัยขึ้น โดยการออกแบบโลโก้แบบ Flat Design กำลังเป็นเทรนด์ของโลกดิจิทัลในช่วงนั้น ซึ่งการลดรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป ก็ช่วยให้โลโก้นั้นปรับใช้ได้ง่ายขึ้น
ปี 2015 – ปัจจุบัน (การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่)

Google เปลี่ยนตัวอักษรเป็นแบบไม่มีหัวหรือไม่มีเชิง (Sans-Serif) เพื่อให้ดูทันสมัยและเป็นมิตรมากขึ้น และเปลี่ยนฟอนต์เป็นชื่อ Product Sans ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีบนทุกอุปกรณ์ โดยการเปลี่ยนฟอนต์ครั้งนี้ก็เพื่อให้เข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้น และยังคงใช้มาถึงปัจจุบัน
โลโก้ “G” และแนวคิดการออกแบบที่ยืดหยุ่น

Google ได้เปิดตัวไอคอนตัว “G” ที่ใช้ 4 สีหลักของ Google ซึ่งถูกนำไปใช้แอปพลิเคชัน ไอคอน และปรากฎอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ จนกลายเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นที่ทุกๆคนจำได้ขึ้นใจ
Google โลโก้ตัว “G” โฉมใหม่ในรอบ 10 ปี

ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2025, Google ได้ปรับโฉมโลโก้ตัว “G” อันเป็นเอกลักษณ์ของตน ซึ่งนับเป็นการออกแบบใหม่ครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนจากโทนสีแบบทึบ (Solid Color) ไปเป็นการไล่เฉดสีแบบเกรเดียนท์ (Gradient) ที่ผสมผสานสีหลักของ Google ได้แก่ สีแดง เหลือง เขียว และน้ำเงินอย่างนุ่มนวล
โลโก้ใหม่นี้สอดคล้องกับสไตล์ของแบรนด์ “Gemini” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน AI ของ Google และสะท้อนถึงทิศทางการออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้น พร้อมเน้นย้ำถึงภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปัจจุบัน โลโก้ “G” แบบเกรเดียนท์ใหม่นี้เริ่มปรากฏในแอปฯ Google บน iOS และอุปกรณ์ Pixel แล้ว แต่ในอุปกรณ์ Android อื่นๆ และแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ ยังคงแสดงโลโก้เวอร์ชันเดิมที่มีขอบสีแบบชัดเจนอยู่
อย่างไรก็ตาม Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการเปิดตัวโลโก้ใหม่นี้ว่าจะขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆหรือไม่