
ยุคสมัยใหม่ที่มีความรวดเร็วจนทำให้หลายๆธุรกิจ ไม่ทันได้วางรากฐานของธุรกิจและวิเคราะห์ในมุมมองต่างๆอย่างรอบด้าน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านทิศทางของธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และความแตกต่างของธุรกิจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง หากไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่มักจะนำมาใช้ คือ STP ซึ่งสามารถระบุตลาดที่มีโอกาสสร้างมูลค่าได้ดีที่สุด กับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องมากที่สุด ในการทำกิจกรรมการตลาดประเภทต่างๆ การนำกลยุท์ STP Strategy มาใช้ในการกำหนดทิศทางของธุรกิจสามารถช่วยให้คุณมองเห็นถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจได้ชัดเจน ประกอบไปด้วย
Segmentation การแบ่งส่วนการตลาด
Targeting การเลือกกลุ่มเป้าหมาย
Positioning การวางตำแหน่งหรือจุดยืนของธุรกิจ (แบรนด์)
Segmentation
สามารถแบ่งได้จาก
- ประชากรศาสตร์ (Demographic) เช่น เพศ อายุ รายได้ สถานะ ศาสนา อาชีพ
- ภูมิศาสตร์ (Geographic) เช่น ทวีป จังหวัด นอกเมือง ในเมือง หรือภาคต่างๆ
- จิตวิทยา (Psychological) เช่น บุคลิก วัฒนธรรม ความชอบ Lifestyle
- พฤติกรรม (Behavioral) เช่น ความถี่ในการซื้อสินค้า จำนวนการซื้อสินค้าในแต่ละครั้ง ทัศนคติต่อการซื้อสินค้า
โดยการแบ่ง Segmentation สามารถใช้รวมกันทั้ง 4 ข้อ หรือเลือกข้อใดข้อหนึ่ง
Targeting
การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะขายสินค้าหรือบริการ มี 3 กลุ่ม คือ
- Mass Market หรือการเลือกทุกกลุ่มเป้าหมาย เหมาะกับบริษัทใหญ่ที่มีทุนสูงมาก ไม่เหมาะกับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้น
- Segment Market หรือการเลือกตาม Segment เช่น เพศชาย อายุ 35 ปี ขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ
- Niche Market หรือการเลือกตลาดที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้
Positioning
การกำหนดตำแหน่งตราสินค้าเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
- การวางตำแหน่งสินค้าที่ยึดความรู้สึกทางอารมณ์เป็นหลัก (Emotional) เช่น ภาพลักษณ์ ความหรูหรา ความดูดี การแสดงออกถึงฐานะทางสังคม
- การวางตำแหน่งสินค้า ที่ยึดด้านการใช้งานเป็นหลัก (Functional) โดยเน้นที่คุณภาพของสินค้าหรือบริการ ประโยชน์ที่จะได้รับด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
- การวางตำแหน่งสินค้า ที่ยึดการสร้างความแตกต่าง (Differentiation) เป็นไปได้ทั้งความต่างทางอารมณ์หรือการใช้งานของสินค้า หรืออาจเป็นการสร้างการรับรู้ใหม่ที่เป็นประสบการณ์ และมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มลูกค้า
Cover photo by createsima from FreeImages