
Brand Activation ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายๆแบรนด์นั้นนำมาใช้เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดย Brand Activation นั้นเป็นการสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ด้วยการสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมโดยตรงกับตัวของกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆจนสร้างให้เกิดประสบการณ์ที่ดีกับทั้งแบรนด์และลูกค้า ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์ควรนำมาใช้ในยุคนี้ และมันก็มี 3 วิธีเริ่มต้นในการทำ Brand Activation เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับแบรนด์ของคุณครับ

สร้าง Interactive Event
การจัด Event แบบเดิมๆไม่ว่าจะเป็นงานประชุม การแสดงสินค้า งานสัมมนา หรือแม้แต่งานคอนเสิร์ต หากปรับเป็น Event ที่มีลักษณะของการสร้างให้เกิดการโต้ตอบระหว่างลูกค้า (Interactive) ก็จะช่วยเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาหรือหากิจกรรมที่สร้างให้เกิดการมีส่วนร่วม เช่น การใช้ Interative Wall ที่เมื่อคนเดินมาใช้มือสัมผัสก็เปลี่ยนเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ พื้นที่มีเมื่อคุณเดินผ่านก็มีเสียงหรือสีสันเปลี่ยนไปตามก้าวแต่ละก้าว Interactive Photo Booth with Live Sticker เป็นการตรวจจับใบหน้าผู้ใช้งานผ่านเทคโนโลยี Face Mesh เพื่อนำข้อมูลใบหน้าไปประมวลผลผ่านโปรแกรม และแสดงพร้อม Effect ผ่านหน้าจอแบบ Realtime หรือการนำพวกอุปกรณ์ VR Headset มาใช้ก็ช่วยสร้างให้เกิดประสบการณ์ดีๆได้ ลองดูตัวอย่างได้ในคลิปวีดิโอนี้ครับ
BOSCH Interactive Wall
จัด Exclusive Event เพื่อเชิญชวนลูกค้าคนพิเศษ
การจัดกิจกรรมเฉพาะแบบพิเศษสำหรับลูกค้า เพื่อสร้างให้เกิดความประทับใจและสร้างให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์โดยตรง โดย Exclusive Event นั้นมีแนวโน้มที่จะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อไปสู่ความสำเร็จในเรื่องของธุรกิจได้ค่อนข้างดีมากที่สุดวิธีหนึ่ง เช่น งาน Celebrity Meet and Greet, Members-only Club Events, Private Movie Premiere, VIP Concert หรืออาจเป็น Product Lunch Party โดยภายในงานนั้นอาจไม่ใช่แค่เพียงการเชิญลูกค้าคนพิเศษมาร่วมกิจกรรมเพียงอย่างเดียว แต่อาจมีการสร้าง Surprise จับฉลากมอบของรางวัลหรือให้ Deal สุดพิเศษไปแบบฟรีๆ ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจได้อย่างงดงาม โดยการจัดงานแบบ Exclusive Event ก็สามารถทำได้ทั้งสถานที่เปิดตามห้างสรรพสินค้า หรืออาจเป็นแบบส่วนตัวตามโรงแรมหรือสถานที่ต่างๆก็ได้เช่นกัน
สร้าง Experience แบบ 360 องศา
ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจแบบไหนก็เชื่อว่าสามารถสร้างประสบการณ์แบบครบทุกมุมมองได้ คุณสามารถเชื่อมโยงโลกของออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาไว้ด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ โดยดึงความรู้สึกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ตัวอย่างเช่น แบรนด์ IKEA ที่ใช้ AR ในการเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ผ่านมือถือหรือแทปเล็ต ก่อนจะมาเลือกซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นที่สะดวก หรือมาดูที่โชว์รูม IKEA แบบของจริง ผู้คนได้สนุกสนานกับการ Mix & Match เฟอร์นิเจอร์ผ่านประสบการณ์แบบออนไลน์ เมื่อมายังโชว์รูมของ IKEA ก็ได้เดินดูบรรยากาศและไอเดียการตกแต่งห้องในแบบต่างๆ ได้พูดคุยกับพนักงานและมัณฑนากรเพื่อออกแบบห้องที่ต้องการ มีสนามเด็กเล่นให้ลูกๆ การรับประทานอาหารที่มีเมนูหลากหลาย แถมยังเอาสินค้าไปประกอบเองที่บ้านที่สร้างกิจกรรมระหว่างครอบครัวได้อีก
ทั้ง 3 วิธีเป็นเพียงตัวอย่างของการสร้าง Brand Activation ที่หลายๆแบรนด์นำไปใช้ในการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดย Brand Activitation สามารถทำได้อีกหลากหลายวิธีครับ แต่ที่สำคัญนั่นก็คือ การสร้างประสบการณ์อย่างให้ให้ลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์ตั้งแต่ต้นทางไปยันปลายทาง แบบไม่รู้สึกสะดุดหรือเกิดความไม่พึงพอใจขึ้นให้ได้นั่นเอง