การเลือกสีเพื่อออกแบบเว็บไซต์กับการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน

เว็บไซต์นับเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง โดยเว็บไซต์นั้นเปรียบเสมือนหน้าบ้านบนโลกออนไลน์ครับ ดังนั้นการออกแบบจึงถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการสร้างประสบการณ์ดีๆให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม หรือที่เรามักจะเรียกว่าการออกแบบ User Experience (UX) หรือประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เช่น ความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย และ User Interface (UI) หรือส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน เช่น หน้าตา การออกแบบ ซึ่งโดยภาพรวมก็คือการออกแบบให้ผู้อ่านเกิดความพึงพอใจด้วยการทำให้สวยงามไปพร้อมๆกันเพื่อไปสู่ประสบการณ์ที่ดี และสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เกิดการสร้างประสบการณ์ดีๆสำหรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์นั่นก็คือเรื่องของสี (Color) นั่นเองครับ

เรื่องของสีถือว่ามีบทบาทสำคัญมากโดยเฉพาะเรื่องการตลาด (Marketing) กับเรื่องการสร้างแบรนด์ (Branding) เพราะสีสามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อสินค้าได้มากขึ้นกว่า 15% เลยทีเดียว แถมยังสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวของแบรนด์ได้อีกด้วยครับ และในบทความนี้ผมจะพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีการเลือกสีให้เหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดในการออกแบบเว็บไซต์ที่ส่งผลดีต่อประสบการณ์ของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของแบรนด์และธุรกิจคุณครับ

What's next?

ข้อที่ 1 เข้าใจความหมายของสีกับการออกแบบเว็บไซต์

สีนั้นส่งผลต่อการเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ (โดยอาจจะเป็นผู้ที่สนใจหรือคนที่เป็นลูกค้าก็ได้) ซึ่งโดยหลักแล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 10 สี ดังนี้ (แต่ต้องขอย้ำนะครับว่าเรื่องของสีมีการตีความด้านจิตวิทยาได้หลายอย่างในหลากหลายบริบทที่ต้องนำมาประกอบกัน แต่ในบทความนี้จะเน้นไปในเรื่องของการใช้สีกับการออกแบบเว็บไซต์เป็นหลักครับ)

ความหมายของสีกับการออกแบบเว็บไซต์
  • สีน้ำเงิน (Blue)
    เป็นที่รู้กันดีครับว่าสีน้ำเงินช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับอาหารจะไม่ใช้สีเหล่านี้เพราะมันทำให้รู้สึกอึดอัดนั่นเอง สีน้ำเงินยังเป็นสีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในบรรดาเพศชายและเพศหญิง เนื่องจากโดยธรรมชาติหลายคนมักจะชอบสีน้ำเงินรวมถึงบริษัทต่างๆก็นำสีน้ำเงินมาใช้ในการออกแบบสื่อรวมถึงเรื่องอื่นๆ สีน้ำเงินเป็นสีที่แสดงถึงการสร้างความไว้วางใจหรือสร้างความมั่นใจ
  • สีเหลือง (Yellow)
    สีเหลืองแสดงถึงความขี้เล่นและสนุกสนานเป็นสีสดใสที่เพิ่มระดับอารมณ์และสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้า แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำก็คือสีเหลืองยังใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยต่างๆ สีเหลืองยังใช้สำหรับการเน้นคำเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจของแต่ละคนได้อีกด้วย
  • สีเขียว (Green)
    สีเขียวมีความเกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมชาติและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากพูดถึงสีเพียงอย่างเดียวก็สามารถบอกถึงความรู้สึกว่าธุรกิจนั้นมีจริยธรรม นอกจากนี้สีเขียวยังมีลักษณะที่ผ่อนคลายและมีผลเชิงบวกที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกถึงการเชื่อมโยงแบบทั่วๆไปได้อีก สีเขียวอาจหมายถึงเรื่องของเงินและการเติบโต ซึ่งทำให้สีเขียวเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหลายอุตสาหกรรม
  • สีส้ม (Orange)
    สีส้มดูเป็นสีที่ค่อนข้างจัดการกับมันยากซักหน่อยครับ อาจดูเป็นที่นิยมสำหรับเด็กๆแต่สำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไร่ ซึ่งควรระวังมากหากนำมาใช้กับการออกแบบเว็บไซต์ สีส้มนั้นเกี่ยวข้องกับความตื่นเต้น พลังงาน และความกระตือรือร้น แถมยังให้ความอบอุ่นได้อีก สำหรับบางธุรกิจสีส้มเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดบุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) Link และโน้มน้าวให้ลูกค้าเกิดการตกลงซื้อสินค้าหรือบริการได้อีกด้วย
  • สีขาว (White)
    สีขาวสร้างความรู้สึกถึงการปลดปล่อยทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมีพื้นที่ได้หายใจหายคอ รู้สึกผ่อนคลาย สบายตา ไม่อึดอัด ที่จำเป็นต้องนำมาใช้กับการออกแบบบ้าง แต่อย่างไรก็ตามสีขาวก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น อาจทำให้ปวดตาได้เมื่อใช้สีขาวบริสุทธิ์รวมกับสีดำ และอาจถูกมองว่าไม่เป็นธรรมชาติ ดูหยาบๆเกินไป วิธีแก้ไขที่ใช้ได้ผลก็คือการเลือกสีขาวนวล เช่น สีขาวงาช้างที่มีเฉดสีที่อบอุ่นกว่าและทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า
  • สีดำ (Black)
    สีดำเป็นหนึ่งในสีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับต้นๆ แต่ต้องระวังครับเพราะมันมาพร้อมกับความรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันอย่างมากมาย เพราะสีดำอาจดูเป็นสีที่ทำให้ดูหงุดหงิดไม่ใช่น้อย แต่อย่างไรก็ตามมันยังดูเป็นสีที่มีความเป็นทางการมากที่สุดสีหนึ่ง ซึ่งควรนำมาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ สีดำมีหลายเฉดสีตั้งแต่เข้มไปอ่อนโดยหากเลือกใช้ดีๆก็จะช่วยให้เกิดความสมดุลได้
  • สีแดง (Red)
    สีแดงสามารถกระตุ้นอารมณ์ที่รุนแรงได้เนื่องจากเป็นเฉดสีที่ร้อนแรงที่สุด โดยมักเกี่ยวข้องกับความหลงใหล ความรัก และความดราม่า และยังแสดงถึงพลังของความก้าวร้าว ความแข็งแกร่ง หรือแม้กระทั่งความโกรธ ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุด โดนส่วนใหญ่จะนำมาใช้กับปุ่ม Call-to-Action ต่างๆ หรือการเน้นย้ำอะไรที่สำคัญๆ เพราะสีแดงมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการกระทำบางอย่างได้อย่างรวดเร็วเสมอ
  • สีม่วง (Purple)
    สีม่วงอาจดูดึงดูดลูกค้าผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีกับกลุ่มลูกค้าผู้ชายสักเท่าไหร่ สีม่วงเป็นการผสมผสานระหว่างพลังของสีแดงและความคงที่ของสีน้ำเงิน ทำให้เกิดความรู้สึกหรูหราและสง่างาม นอกจากนี้ยังหมายถึงความลึกลับ ความคิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่ภูมิปัญญา แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับทุกๆธุรกิจ
  • สีชมพู (Pink)
    สีชมพูมีความเกี่ยวข้องกับเพศและมักใช้เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้หญิงและความนุ่มนวล ในเฉดสีชมพูอ่อนอาจดูบอบบางและเปราะบางราวกับดอกไม้ ในขณะที่เฉดสีชมพูเข้มอาจดูสดใสหรือจืดชืดก็ได้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสีแดง สีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นความรักที่อ่อนโยนและใกล้ชิดมากกว่าความรักที่รุนแรง (ซึ่งต่างจากสีแดง) ความนุ่มนวลของสีชมพูเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและขนมต่างๆ
  • สีน้ำตาล (Brown)
    สีน้ำตาลไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการออกแบบเว็บไซต์มากเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป็นสีของความเป็น Earth Tone ดูน่าเชื่อถือ ปลอดภัย อบอุ่น แต่มันก็มีนัยะแฝงถึงความหดหู่ เศร้า หม่นหมอง โดดเดี่ยว ดูแข็งกระด้าง โดยอาจส่งผลเชิงลบด้านอารมณ์ได้

ข้อที่ 2 เลือกดูว่าสีไหนเหมาะกับอุตสาหกรรมอะไร

สีแต่ละสีนั้นอาจจะเหมาะกับแค่บางอุตสาหกรรมที่คุณจำเป็นต้องเลือกนำมาใช้ให้ถูกกับการออกแบบเว็บไซต์ โดยหากคุณเลือกสีที่เหมาะสมมันจะช่วยส่งเสริมความรู้สึกเชิงอารมณ์และประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ดีมากยิ่งขึ้น และสีที่ถูกเลือกใช้ในอุตสาหรรมต่างๆมากที่สุด ก็คือ

  • น้ำเงิน (Blue): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ หน่วยงานภาครัฐ กฎหมาย เทคโนโลยี
  • สีเขียว (Green): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ องค์การเภสัชกรรม ธุรกิจที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยว การเงิน งานบริหารบุคคล
  • สีดำ (Black): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้าง การเงิน โรงงานผลิตเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ การทำเหมือง การตลาด เทคโนโลยี
  • สีเทา (Grey): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ สื่อสิ่งพิมพ์ การทำวารสาร ชุดกีฬา เทคโนโลยี
  • สีแดง (Red): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น การแต่งหน้า อาหาร วีดิโอเกม ฮาร์ดแวร์ การทำ Video Streaming ธุรกิจค้าปลีก ยานยนต์
  • สีส้ม (Orange): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ค้าปลีก ฟิตเนส
  • สีเหลือง (Yellow): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ ธุรกิจค้าปลีก อาหาร เทคโนโลยี ธุรกิจก่อสร้าง
  • สีชมพู (Pink): อุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกี่ยวการเพทย์ (กุมารเวชศาสตร์) เครื่องสำอางค์ อาหาร ธุรกิจค้าปลีก
สีไหนเหมาะกับอุตสาหกรรมอะไร

Source: Apple.com

ข้อที่ 3 ใครคือกลุ่มเป้าหมายและอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ

เคยได้ยินไหมครับว่าเพศหญิงชอบสีม่วงส่วนเพศชายนั้นไม่ชอบสีม่วงเอาเสียเลย นั่นคืออีกมุมหนึ่งที่ต้องนึกถึงเวลาเลือกสีนั่นเองครับ เพราะมันมีผลค่อนข้างมากในเชิงจิตวิทยาและประสบการณ์เชิงอารมณ์สำหรับการเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยส่วนใหญ่สีที่เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกคือสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ผู้ชายชอบกว่า 57% ส่วนผู้หญิงชอบแค่เพียง 35% เท่านั้น ผู้ชายส่วนใหญ่กว่า 57% ชอบสีน้ำเงิน 14% ชอบสีเขียว 9% ชอบสีดำ 7% ชอบสีแดง ส่วนที่เหลือ 5% ชอบสีเหลือง สีส้ม สีเทา สีน้ำตาล และสีขาว มีเพียง 1% ของผู้ชายที่ชอบสีม่วง

ในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่กว่า 35% ชอบสีน้ำเงิน 23% ชอบสีม่วง 14% ชอบสีเขียว 9% ชอบสีแดง 6% ชอบสีดำ และที่เหลือ 5% ชอบสีเหลือง สีส้ม สีเทา สีน้ำตาลและสีขาว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงชอบสีโทนอ่อนกว่าผู้ชาย และผู้ชายชอบสีโทนสว่างกว่าผู้หญิง หากเป็นกลุ่มเด็กๆส่วนใหญ่จะชอบสีโทนสว่าง เช่น สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และสีม่วง หากเป็นวัยรุ่นจะชอบสีดำและเปิดรับสีต่างๆได้มากกว่ากลุ่มเด็กๆ ส่วนผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 65 ปี จะไม่ค่อยชอบสีเหลืองแต่จะชอบสีชมพู สีน้ำเงิน และสีเขียว เป็นต้น

เห็นไหมครับว่าแค่เพียงเรื่องของอายุและเพศก็ส่งผลต่อเรื่องความชอบของสี ซึ่งจริงๆแล้วยังสามารถแบ่งตาม Lifestyle และยังแบ่งตามระดับการศึกษารวมถึงอาชีพได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกสีในการออกแบบเว็บไซต์ก็ควรนำปัจจัยเหล่านี้มาประกอบด้วยเช่นกัน

ข้อที่ 4 เลือกชุดสีที่เหมาะสม

การออกแบบเว็บไซต์ด้วยการเลือกสีที่เหมาะสมนั้นควรจะประกอบไปด้วยสีหลัก (Primary Color) และสีรอง (Secondary Color) ครับ โดยสีหลักนั้นจะถูกใช้เป็นสัดส่วนที่มากที่สุดและมันก็มีกฎอยู่ว่า

60% (Primary – สีหลักเน้นให้เด่น)
30% (Secondary – สีรองเน้นสนับสนุน)
10% (Accent – สีที่อยากเน้นเพิ่มเติม)

ดังนั้นจิตวิทยาการเลือกสีไม่ใช่แค่การเลือกสีเพื่อโปรโมทแบรนด์หรือธุรกิจคุณเพียงอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวกับการเลือกกลุ่มสีที่เหมาะสม การกำหนดพื้นที่ว่าง การกำหนดพื้นที่ที่มีส่วนผสมของสีขาว ที่จะทำให้องค์ประกอบต่างๆนั้นลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีพื้นหลัง สีตัวหนังสือ โทนสีของภาพ หรือการใช้กราฟฟิกต่างๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าการเลือกใช้กฎ 60-30-10 ในการเลือกสี 3 สี เพื่อนำมาใช้ออกแบบเว็บไซต์ได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นครับ

การเลือกชุดสีที่เหมาะสมสำหรับการออกแบบเว็บไซต์

Source: chrono24.co.th

จิตวิทยาการใช้สีนับว่าสำคัญและมีประโยชน์อย่างมากที่สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกการออกแบบครับ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่เพียงเว็บไซต์อย่างเดียว โดยหากคุณสามารถเข้าใจความหมายของสีและความเหมาะสมของแต่ละอุตสาหกรรม รวมไปถึงการที่กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใครชอบสีอะไร มันจะช่วยให้คุณนำไปออกแบบเว็บไซต์ได้ตรงตามลักษณะของทั้งตัวธุรกิจของคุณ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านรวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายครับ นอกจากนั้นมันยังช่วยให้คุณคิดสำหรับการวางแผนเรื่องการออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) Link หากคุณกำลังจะสร้างแบรนด์หรือสร้างธุรกิจใหม่ๆได้อีกด้วย


Share to friends


Related Posts

สร้างเว็บไซต์อย่างไรให้ปัง

เว็บไซต์เป็น Own Media ที่สำคัญที่สุดในการแสดงความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจและการสร้างแบรนด์ ซึ่งแทบจะไม่มีธุรกิจไหนๆในโลกที่จะไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพราะโลกออนไลน์และโลกดิจิทัลนั้นทำให้พฤติกรรมคนหันมาใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลต่างๆ


เขียน Headline เว็บไซต์อย่างไรให้เวิร์ค

การให้ความสำคัญกับหัวข้อ หรือ Headline ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าคุณจะเขียนอะไรก็ตาม เพราะมันสามารถช่วยให้คุณขายของได้โดยหัวข้อที่หมายถึงนั้นเป็นได้ทั้งเว็บไซต์ บล็อก หรือบทความต่างๆ ที่ไม่ได้เน้นแบบขายของแบบข้อความส่งเสริมการขายรูปแบบต่างๆครับ แต่เน้นเป็นรูปแบบการนำเสนอจุดเด่นหรือจุดขายที่อยากสื่อสารให้ผู้เยี่ยมชมนั้นเข้าใจ




2 thoughts on “การเลือกสีเพื่อออกแบบเว็บไซต์กับการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้เยี่ยมชม

  • My brother recommended I might like this blog. He was entirely right.
    This post truly made my day. You cann’t imagine just how much time I had spent
    for this info! Thanks!

    • Appreciate that

Comments are closed.

copyright 2024@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์