หากคุณมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการดึงดูดความสนใจ และต้องการให้คอนเทนต์ของคุณถูกอ่านหรือรับชม PAS Formula คือ หนึ่งใน Framework ที่อาจเป็นคำตอบของคุณ เพราะมันคือกรอบการเขียนคำโฆษณาและการเล่าเรื่อง ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานโฆษณา (Advertising) การเขียนหน้า Landing Page การเขียน Sales Page การเขียนบทความ(Blog) หรือแม้แต่ Video Content เรามาทำความรู้จักกับ PAS Formula กันในบทความนี้ครับ
รู้จัก PAS Formula ที่ช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์แบบทรงพลัง
PAS Formula เป็น Framework หนึ่งที่ช่วยเขียนข้อความที่ทรงพลัง และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ในการดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจของผู้คน โดยชื่อ PAS เป็นตัวย่อมาจาก 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
- P – Problem (ปัญหา)
จุดเริ่มต้น คือ การระบุปัญหา (Problem) ความท้าทาย (Challenge) หรือความเจ็บปวด (Pain Point) ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังเผชิญอยู่ให้ชัดเจน การเริ่มต้นด้วยการพูดถึงสิ่งที่พวกเขากำลังประสบอยู่ จะช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ชมรู้สึกว่าคุณเข้าใจพวกเขา และเรื่องราวของพวกเขากำลังถูกเล่าออกมา - A – Agitate (กระตุ้น)
หลังจากระบุปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ “ขยี้” หรือ “กระตุ้น” อารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้นให้รุนแรงขึ้น ด้วยการอธิบายถึงผลกระทบ ความไม่สบายใจ หรือผลเสียที่อาจเกิดขึ้น หากปัญหานั้นไม่ได้รับการแก้ไข การกระตุ้นอารมณ์จะสร้างความรู้สึกเร่งด่วน (Sense of Urgency) และกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกว่าต้องหาทางออก - S – Solve (วิธีการแก้ปัญหา)
เมื่อความรู้สึกถึงปัญหาและความต้องการทางออกถูกสร้างขึ้นแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ “การนำเสนอทางออก” ที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง โดยทางออกนี้ คือ ผลิตภัณฑ์ (Product) บริการ (Service) แนวคิด (Concept) หรือข้อมูลเชิงลึก (Insights) ของคุณ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่ได้ระบุ และกระตุ้นไปแล้วได้อย่างตรงจุด
โดยรวมแล้ว PAS Formula ใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชม ผ่านความเข้าใจในปัญหาของพวกเขา จากนั้นกระตุ้นให้เกิดความต้องการทางออก และสุดท้ายก็นำเสนอทางออกที่คุณมีให้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ในการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและโน้มน้าวใจ ที่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ Sales Page การตั้งชื่อเรื่องของอีเมล์ การเขียนอีเมล์ การเขียน Social Media Post การเขียบทความ การคิด Video Scripts รวมไปถึงการทำ Storytelling ในแบบต่างๆ
ขั้นตอนการเขียนคอนเทนต์ด้วย PAS Formula
1. Problem (ปัญหา) – เริ่มต้นด้วย Pain Point
ขั้นตอนนี้ คือ “การดึงดูดความสนใจ” ของกลุ่มเป้าหมายทันที ด้วยการพูดถึงปัญหาที่แท้จริงและเฉพาะเจาะจง ในสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ อย่าพูดอะไรที่คลุมเครือ แต่ต้องพูดให้โดนใจและทำให้พวกเขารู้สึกว่า “นี่แหละมันคือเรื่องของฉัน!” เช่น
- “กำลังท้อกับการสร้างคอนเทนต์ที่ไม่มีคนอ่านเลยใช่ไหม” (พูดถึงความท้อแท้ในการสร้างคอนเทนต์ที่ไร้ผล)
- “ยังคงใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการทำคอนเทนต์ ที่สร้างยอดขายไม่ได้หรือเปล่า” (ชี้ให้เห็นถึงการเสียเวลาและขาดประสิทธิภาพ)
- “รู้ไหมว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คุณใช้อยู่ อาจทำให้คุณดูแก่กว่าวัยได้นะ” (กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์)
เคล็ดลับของการเริ่มที่ Pain Point คือ การเขียนในแบบภาษาของกลุ่มเป้าหมาย ที่พวกเขาพูดและเข้าใจเพื่อให้รู้สึกเข้าถึงง่าย และการยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในชีวิตพวกเขาเพื่อให้รู้สึกเชื่อมโยง
2. Agitate (กระตุ้น) – เร่งระดับความเข้มข้น
หลังจากที่คุณระบุปัญหาและทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า “นี่คือฉัน!” ได้แล้ว ขั้นต่อไป คือ การ “ขยี้ความรู้สึก” และทำให้พวกเขารู้สึกถึงผลที่ตามมาหากละเลยปัญหานั้น ขั้นตอนนี้จะสร้างแรงเสียดทานทางอารมณ์ ความเร่งด่วน และแรงจูงใจ ให้พวกเขาอยากเปลี่ยนแปลง เช่น
- “คุณไม่ได้แค่เสียเวลาไปเปล่าๆแต่คุณกำลัง สูญเสียความน่าเชื่อถือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ในตลาดนั้นๆอีกด้วย” (เน้นย้ำถึงการสูญเสียที่ใหญ่กว่าแค่เวลา)
- “ทุกครั้งที่คอนเทนต์ของคุณไม่ปัง คู่แข่งก็ยิ่งนำหน้าไปเรื่อยๆ ธุรกิจของคุณก็จะถูกกลืนหายไป” (ชี้ให้เห็นถึงความได้เปรียบของคู่แข่งและความเสี่ยงที่ตนเองจะถูกลืม)
- “ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่คุณว่าดีนักหนานั่นน่ะ มันอาจกำลังทำลายเกราะป้องกันผิว และก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นด้วยซ้ำ” (เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับผลเสียที่ร้ายแรงกว่าที่คิด)
เคล็ดลับของการกระตุ้น คือ เลือกคำที่สื่อถึงความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความกังวล ความกลัว ความเสียดาย หรือความคับข้องใจ และให้เห็นภาพชัดเจนว่าถ้าไม่แก้ไข จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือสถานการณ์จะแย่ลงแค่ไหน โดยส่วนใหญ่แล้วการวาดภาพสถานการณ์แบบ Before/After ก็มักจะได้ผลดีกับการกระตุ้นความรู้สึก
3. Solve (วิธีการแก้ปัญหา) – นำเสนอทางออก
เมื่อผู้อ่านถูกดึงดูดด้วยปัญหา และถูกกระตุ้นด้วยผลที่ตามมา จนเกิดความรู้สึกอยากหาทางออกแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะ “นำเสนอทางแก้ไข” และมอบความโล่งใจและความชัดเจนให้กับพวกเขา ด้วยการแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ คู่มือ หรือข้อมูลเชิงลึก เช่น
- “ด้วย Framework นี้จะช่วยให้คุณเขียนโพสต์ที่ หยุดทุกสายตาได้ในทันที” (นำเสนอทางออกที่ง่ายและตรงจุด)
- “ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ปกป้องเกราะป้องกันผิวของเรา ครองใจผู้ใช้กว่า 100,000 ราย ที่บอกลาปัญหาผิวแห้งไปตลอดกาล” (เน้นย้ำผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและจำนวนผู้ใช้งานจริง)
- “เรียนรู้กลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ เปลี่ยนเป็นยอดขายได้ โดยไม่เสียเวลาเปล่า” (นำเสนอความรู้และวิธีการที่การันตีผลลัพธ์)
เคล็ดลับของการนำเสนอทางออก คือ บอกให้ชัดเจนว่าวิธีแก้ไขของคุณ คืออะไร ทำงานอย่างไร และให้ผลลัพธ์อะไรได้บ้าง โดยการนำเสนอทางออกควรมาพร้อมกับความรู้สึกโล่งใจ หรือความมั่นใจในสิ่งที่คุณมี ทำและให้ผู้อ่านเห็นภาพว่า พวกเขาจะได้อะไรและควรทำอะไรต่อไป เช่น คลิก ซื้อ ติดต่อ หรือลงทะเบียน เพื่อรับสิ่งเหล่านั้น
PAS Formula Template
Problem (ปัญหา)
ตั้งคำถามนำว่า “อะไรทำให้เราหงุดหงิดใจ อะไรสร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับเรา
อะไรทำให้งานของเราสะดุด อะไรที่ทำให้เราต้องพยายามหนักขึ้น”Agitate (กระตุ้น)
กระตุ้นด้วยคำถามที่ว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ทำให้คุณหงุดหงิดใจ
แต่มันสร้างผลกระทบที่มากกว่านั้น”Solve (วิธีการแก้ปัญหา)
สรุปด้วยการโน้มน้าวใจว่า “นี่คือเหตุผลที่เราทำสิ่งนี้ขึ้นมา
นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องมีเรา นี่คือวิธีที่เราสามารถช่วยคุณได้”
ตัวอย่างจริงในการใช้งาน PAS Formula
Example #1: เขียนบล็อกสำหรับแอปฯที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- Problem (ปัญหา) – คุณมีงานที่ต้องทำแต่ก็มัวแต่ “ผัดวันประกันพรุ่ง” อยู่ตลอด
- Agitate (กระตุ้น) – การผัดวันประกันพรุ่งทำให้คุณ “เสียทั้งเวลา พลังงาน และอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพการงาน” ของคุณ
- Solve (วิธีการแก้ปัญหา) – ลองใช้ระบบ Pomodoro + AI-focus ของเรา ที่ได้รับความไว้วางใจจาก “ผู้ใช้ 50,000 คน ดูสิ”
Example #2: การนำเสนอเครื่องกรองน้ำ
- Problem (ปัญหา) – คุณกังวลเรื่องคุณภาพน้ำประปาในบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่า “สะอาดพอที่จะดื่ม” หรือใช้ปรุงอาหารได้จริงไหม
- Agitate (กระตุ้น) – การดื่มน้ำที่ไม่สะอาดอาจนำไปสู่ “ปัญหาสุขภาพร้ายแรง” ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น “อาการท้องเสีย สารเคมีสะสม หรือแม้แต่เชื้อโรคที่มองไม่เห็น” ในทุกๆแก้วที่คุณดื่ม และคุณยังต้อง “เสียเงินกับค่าน้ำขวดแพงๆทุกวัน”
- Solve (วิธีการแก้ปัญหา) – เครื่องกรองน้ำ [ชื่อแบรนด์] ของเรา “กำจัดสิ่งปนเปื้อนได้ 99.9%” พร้อมมอบน้ำดื่มที่ “สะอาดบริสุทธิ์” ถึงบ้านคุณ “เพื่อสุขภาพที่ดี” ของทุกคนในครอบครัว และช่วยคุณ “ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว”
Example #3: การสื่อสารแบรนด์ขวดน้ำแบบ Eco-friendly
- Problem (ปัญหา) – คนส่วนใหญ่ยังคงใช้ขวดพลาสติก ซึ่งเป็น “อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม”
- Agitate (กระตุ้น) – ขวดพลาสติกแต่ละขวดที่คุณทิ้งไปนั้น “เพิ่มปริมาณพลาสติกถึง 8 ล้านตัน” ที่ถูกทิ้งลงสู่มหาสมุทรในแต่ละปี
- Solve (วิธีการแก้ปัญหา) – ขวดน้ำของเราช่วยให้คุณดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ และยัง “ลดการใช้พลาสติก” โดยที่ยังคงดูดีมีสไตล์ในแบบของคุณ
Example #4: ภาพประกอบในงานโฆษณา (Video)
- Opening Scene – ภาพที่แสดงให้เห็นถึง “ปัญหา” เช่น พื้นที่ทำงานที่รก ไม่เป็นระเบียบ หรือไม่มีประสิทธิภาพ
- Middle Scene – ภาพที่เน้นย้ำถึง “ความคับข้องใจ” หรือผลกระทบจากปัญหา เช่น เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ การทำผิดพลาดซ้ำๆ
- Closing Scene – ภาพที่เปิดเผย “ผลิตภัณฑ์/โซลูชัน” ของคุณ เช่น การจัดพื้นที่ทำงานใหม่ที่สวยงาม ผู้ใช้งานที่ยิ้มแย้มมีความสุข
PAS Formula เป็นหนึ่งใน Framework ที่ใช้งานง่าย ปรับใช้ได้หลากหลาย และมีประสิทธิภาพสูง ที่เหมาะกับคอนเทนต์ยาวๆหรือแค่การพาดหัวข้อก็ได้เช่นกัน เพราะเมื่อคุณสามารถผสานรวม ความเข้าใจผู้อื่น (Empathy) ความชัดเจน (Clarity) และความเกี่ยวข้อง (Relevance) เข้าด้วยกันได้ คอนเทนต์ของคุณจะกลายเป็นสะพาน ที่เชื่อมไปสู่การเปลี่ยนเป็นยอดขาย (Conversion) ได้นั่นเอง
