ต้องยอมรับว่าสื่อในรูปแบบวีดิโอกลายเป็นที่นิยมอันดับต้นๆของการทำการตลาดในปัจจุบัน หากเราดูจากยอดดูวีดิโอบน YouTube ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจะเห็นได้ว่ามีรายการใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งการทำ Streaming การ Live ในรูปแบบต่างๆในหลายๆแพลตฟอร์ม
วีดิโอแบบไวรัล (Viral Video) ถือเป็นรูปแบบที่สามารถดึงดูดสายตาคนดูส่งผลให้เกิดการแชร์ต่ออย่างมากมายบนโลกโซเชียล จนกลายเป็นหลักล้านขึ้นไปเลยทีเดียว
ทำวีดีโอให้กลายเป็น Viral อย่างไร
การทำวีดิโอ Viral ที่ดีก็เหมือนการทำอาหารที่จำเป็นต้องมีการเลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ดี รวมถึงวิธีทำที่ถูกต้อง และต้องมีการทดลองดูว่ามันใช้ได้อย่างที่คิดไว้มากน้อยเพียงใด ฉะนั้นการที่วีดิโอของเราจะกลายเป็น Viral ได้นั้นต้องทำงานอย่างหนักและบางครั้งก็ผสมกับเรื่องของโชคด้วยเช่นกัน เราลองมาดูเทคนิคในการทำวีดิโอให้กลายเป็น Viral กันครับ
สั้นๆได้ใจความและน่าดึงดูด
ความตั้งใจที่จะจดจำบางสิ่งบางอย่างของคนเราไม่ได้เยอะมากขนาดที่จะจำเรื่องราวต่างๆได้แบบยาวๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะเห็นกันตามฟีดต่างๆบนโซเชียล มีเดียมากกว่าบน YouTube ซึ่งตามสถิติแล้วในช่วงไม่เกิน 60 วินาที จะเป็นอะไรที่สร้างความจดจำในเนื้อหาและสิ่งที่เจ้าของแบรนด์อยากนำเสนอได้มากกว่า ฉะนั้นในช่วง 60 วินาทีแรก ก็ต้องวางแผนการนำเสนอให้เป็นอย่างดี ส่วนที่เกินจากนั้นก็เป็นรายละเอียดเพื่อขยายส่วนแรก โดย Viral ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคลิปทำอาหาร เมนูต่างๆ การประดิษฐ์ของใช้แบบ DIY หรือจำพวก How to ที่เน้นมุมการถ่ายภาพ การตัดต่อ เสียงเพลงที่น่าดึงดูดและความคมชัดมาใช้ แต่หากจะทำวีดิโอ Viral ที่เป็นเรื่องราวนานประมาณ 3 นาทีขึ้นไป ก็ต้องมีการวางเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องราวเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ชมจดจำในสิ่งที่แบรนด์อยากนำเสนอได้
มุ่งเน้นข้อความหลักที่จะเสนอเพียงข้อเดียว
การนำเสนอคอนเท้นต์ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ได้ผลดี ส่งผลให้เกิดการพูดถึงและแชร์ต่อให้คนอื่นๆตามโซเชียล มีเดีย เว็บไซต์ และบล็อกต่างๆ ฉะนั้นก่อนการทำวีดีโอ Viral อย่าลืมนึกถึงความชัดเจนและเข้าใจง่ายในเนื้อหาที่จะสื่อออกไปให้มากที่สุด อย่าพยายามใส่ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปเพราะผู้ชมไม่สามารถจำได้ทุกสิ่ง ฉะนั้นใส่ในสิ่งที่อยากจะบอกก็พอ
เพิ่มคุณค่าให้กับผู้ชม
ในฐานะคนทำวีดิโอสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ การนำเสนอคุณค่านั่นก็คือการมอบสิ่งดีให้กับผู้ชม ซึ่งมันจะทำให้เกิดเป็นการแชร์ บอกต่อ การคอมเม้นท์ รวมไปถึงการเพิ่มยอดไลค์และผู้ติดตามที่มากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการใส่ความคิดเรื่องการให้จะกลายเป็นคีย์หลักสู่ความสำเร็จของการทำวีดิโอ Viral ที่มองถึงประโยชน์ที่ผู้ชมจะได้รับ ฉะนั้นการที่คุณจะทำวีดิโอเพื่อการศึกษา ให้ความรู้ ความบันเทิง ต้องนึกถึงประโยชน์ที่ผู้ชมจะได้รับอยู่เสมอ
Viral ไม่ใช่การทำโปรโมชั่น
วีดิโอ Viral นั้นไม่ใข่สิ่งที่จะพูดถึงคุณลักษณะของสินค้า บริการ หรือราคาใดๆ แต่เป็นการเล่าเรื่องราวในมุมต่างๆ โดยสิ่งที่ต้องทำ คือ การทำเพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์เป็นหลัก ฉะนั้นการทำวีดิโอแบบ Viral นั้นควรกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกด้านอารมณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้ชม
เล่าเรื่องราวที่น่าจดจำ
การนำวิธีเล่าเรื่องราว (Storytelling) มาใช้ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเชื่อมโยงความรู้สึกของผู้ชมกับแบรนด์ของคุณ เพราะมันจะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเชื่อมโยงในสิ่งที่แบรนด์สื่อสารและอยากกลับมาติดต่อกับแบรนด์อีกครั้ง
เลือกใช้ให้ถูกรูปแบบ
เพิ่มโอกาสในการทำวีดิโอ Viral ด้วยการใช้พลังของการแชร์ต่อในโลกโซเชียล ด้วยการใช้รูปแบบและแพลตฟอร์มที่ถูกต้องเหมาะสมที่มีกลุ่มผู้ชมเหล่านั้นดูอยู่ หากเป็นโซเชียล มีเดียแพลตฟอร์ม เฟสบุ้ค ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ทั่วโลกและเกินกว่า 85% ก็ดูวีดิโอผ่านเฟสบุ้ค ประกอบกับการใช้มือถือในชีวิตประจำวันเป็นเครื่องมือหลัก ก็จำเป็นต้องทำวีดิโอให้รองรับมือถือทุกรูปแบบด้วย
เลือกใช้รูป Thumbnail ที่เตะตา
สิ่งแรกเวลาผู้ชมที่แชร์วีดิโอเห็นนั่นก็คือ Thumbnail หรือภาพหน้าปกของวีดิโอเรื่องนั้นๆ ซึ่งในโลกโซเชียลนั้นถือว่าค่อนข้างสำคัญ การสร้าง Thumbnail ที่เตะตาสามารถดึงดูดให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกอยากเข้ามาดูเนื้อหาในวีดิโอมากกว่า ดังนั้นการใช้ภาพเป็นหลักจะดีกว่าการใช้แค่เพียงตัวหนังสืออย่างเดียว
เชื่อมโยงด้านอารมณ์
การจะเป็น Viral ได้นั้นจะต้องทำให้เกิดการเชื่อมโยงด้านอารมณ์ของกลุ่มผู้ชมให้ได้ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งอารมณ์ความรัก ความเศร้า ความฮึกเหิม ความสนุกสนาน และอื่นๆ ซึ่งการกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นกับผู้ชมนำไปพูดหรือแชร์ต่อให้คนอื่นๆได้รับรู้ และหากวีดิโอนั้นสามารถเข้าไปถึงระดับของความทรงจำที่ประทับใจได้ ก็ยิ่งทำให้วีดิโอ Viral นั้นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ชื่อหัวข้อและเนื้อหาที่ทรงพลัง
ทุกวีดิโอล้วนต้องมีหัวข้อที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดให้เกิดการคลิกเพื่อดูเนื้อหาด้านใน แต่ก็ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องใช้วิธีการหลอกล่อให้ผู้ชมเข้ามาดู (Clickbait) เพราะมันจะทำให้แบรนด์ของคุณดูไม่ค่อยดีเท่าไร โดยหัวข้อที่ใช้นั้นต้องมีความชัดเจนและสร้างความสงสัยใคร่รู้ด้วย หัวข้อที่เราแสดงนั้นหมายถึงความคาดหวังของผู้ชมทุกคน ดังนั้นเมื่อผู้ชมกดเข้าไปดูแล้วก็หวังที่จะได้เจอสิ่งที่เค้ากำลังหาอยู่ ดังนั้นคนทำวีดิโอควรหาวิธีในการดึงดูดผู้ชมให้เกิดความรู้สึกทางอารมณ์ให้ได้
ให้ความใส่ใจทุกครั้งหลังการเผยแพร่ออกไป
ทุกความสำเร็จของวีดิโอ Viral เกิดจากการวางแผนในการเข้าถึงผู้ชมอย่างถูกกลุ่ม ถูกเวลา ถูกจังหวะ ซึ่งงานของการทำวีดิโอไม่ใช่แค่กดปุ่มเผยแพร่แต่ยังต้องเสาะหาวิธีการและช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการรับชมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นลองหมั่นตรวจสอบสถิติการเข้าชม การแชร์ การคอมเม้นท์แล้วนำมาปรับปรุงทำวีดิโอเรื่องต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้น
วางกลยุทธ์ในการโปรโมท
ไม่ว่าวีดิโอที่ทำมาจะดีแค่ไหนก็ตามหากขาดการวางแผนในการโปรโมทให้ถูกที่ถูกทาง ก็อาจทำให้สิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดนั้นเสียเปล่าเลยก็ได้ สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการโปรโมทวีดิโอ Viral นั้นก็หนีไม่พ้นการวางแผนช่องทางต่างๆให้หลายช่องทางมากที่สุด ยิ่งมากก็ยิ่งดีต่อการเข้าถึงของผู้ชม โดยอย่าลืมการให้ความสำคัญกับการทำเพื่อรองรับ SEO การโปรโมทผ่านเว็บไซต์ทั้งของตัวคุณเองรวมไปถึงเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ หรือการใส่วีดิโอลงในบล็อกต่างๆ และต้องมีการระบุคำค้นที่ตรงตามกับสิ่งที่ผู้ชมกำลังมองหา
เมื่อมีเว็บไซต์หลักที่ลงตัวแล้วก็สามารถแชร์วีดิโอไปยังโซเชียล มีเดียต่างๆที่คุณมีด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายในการแสดงผลสำหรับการซื้อโฆษณาแบบเจาะจง รวมถึงการใส่ #แฮชแท็กที่เหมาะสม และการโพสต์ในช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ชมนั้นออนไลน์อยู่เป็นประจำ หรือแม้แต่การนำเอา Influencer มาช่วยในการโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆเพื่อดึงผู้ติดตามก็นับว่าไม่เลวทีเดียว
การทำวีดิโอ Viral นั้นไม่มีกฎอะไรที่ตายตัวซึ่งบางครั้งก็ต้องอาศัยเรื่องของโชคเข้ามาช่วยบ้าง แต่หากลองเอาตัวอย่างวิธีทำเหล่านี้ไปใช้ในการสร้างวีดิโอ Viral ดู รับรองว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย และที่สำคัญอย่าลืมปรับปรุงแก้ไขและหมั่นทำการบ้านอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้วีดิโอที่ทำนั้นตรงใจผู้ชมมากที่สุด
Cover photo from en.unesco.org/youth/toptips/planner/communication
