
หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการสร้างสรรค์คอนเทนต์ เป็นงานที่ต้องทำไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดสิ้นสุด ทำไปทำมาแล้วดูไม่สอดคล้องดูหลุดความเป็นตัวตน จนทำให้คอนเทนต์ที่สื่อสารออกไป ขาดทั้งจุดยืน ขาดทั้งแนวทาง และขาดทั้งความเชื่อมโยง ซึ่งในความเป็นจริงนั้นคอนเทนต์ที่ทรงพลังต้องมาจากรากฐานที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยแนวทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และด้วยการนำ Content Pillars Framework มาช่วย ก็คือ คำตอบที่ช่วยแก้ปัญหานี้ครับ เพราะมันคือกระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์ ที่กำหนดให้คอนเทนต์ของคุณไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร้ทิศทาง แต่ถูกวางแผนมาอย่างรอบด้านเพื่อให้มั่นใจว่า ทุกชิ้นงานจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการดึงดูดผู้ฟังที่เหมาะสม การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และการสร้างความสม่ำเสมอ ที่จะทำให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ของคุณได้ในระยะยาว
และในบทความนี้ผมจะพาผู้อ่านมารู้จักกับ Content Pillars Framework ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากจะทำคอนเทนต์ ให้มีหลักการ มีแนวทาง เป็นทั้งเชิงกลยุทธ์ และไม่สะเปะสะปะไปมาครับ

รู้จัก Content Pillars Framework
Content Pillars Framework (บางครั้งอาจเรียกว่า Content Buckets หรือ Topic Pillars) ซึ่งก็คือ วิธีการจัดระเบียบกลยุทธ์คอนเทนต์ของคุณให้เป็นธีมหลัก (Main Theme) หรือหมวดหมู่หลัก (Main Category) เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งจะสนับสนุนอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) เป้าหมายทางธุรกิจ (Business Goal) รวมถึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย (Interest) และ Content Pillars Framework นั้นก็สามารถนำไปปรับใช้ได้กับการคิดคอนเทนต์ หรือแม้แต่การคิดคำพูดในการสื่อสารแบรนด์ เช่น Brand Messaging Pillars
และอื่นๆ

หากเรามองภาพของ Framework จะเห็นว่าแต่ละ “เสาหลัก” (Pillar) เป็นตัวแทนของธีมในเชิงกลยุทธ์ ที่ค้ำจุนระบบนิเวศคอนเทนต์ทั้งหมดของคุณเอาไว้ ซึ่งก็เหมือนกับเสาที่ค้ำยันสิ่งปลูกสร้างนั่นเองครับ ซึ่งเหมาะสำหรับ
- การนำไปสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล (Personal Brand)
ธุรกิจ และครีเอเตอร์ ที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องคอนเทนต์
- การวางแผนคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดีย
- กลยุทธ์คอนเทนต์สำหรับบล็อกและ YouTube
- การสร้างความน่าเชื่อถือกับกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความเชี่ยวชาญในหัวข้อต่างๆ
- การจัดโครงสร้างคอนเทนต์สำหรับ SEO

ขั้นตอนการวาง Content Pillars Framework
1. กำหนดเป้าหมายของแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
อันดับแรกนั้นสิ่งสำคัญ คือ ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อน เช่น คุณอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในเรื่องอะไร คุณมีความเชี่ยวชาญด้านไหน วิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) ของแบรนด์คืออะไร กลุ่มเป้าหมายของคุณสนใจเรื่องอะไร พวกเขามีปัญหาอะไร กำลังมองหาข้อมูลอะไร มีความชอบแบบไหนโดยขั้นตอนนี้ คือ การวางรากฐานเพื่อหาจุดร่วมที่แบรนด์ สามารถให้คุณค่ากับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง

2. กำหนด Core Content Pillars
เสาหลักของคอนเทนต์ (Core Content Pillars) คือ หมวดหมู่คอนเทนต์ระดับสูงที่คุณจะใช้เป็นประจำ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับความเชี่ยวชาญของแบรนด์ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (ปกติจะมี 3 – 5 หัวข้อหลัก) โดยแต่ละเสาหลักควรจะ
- เฉพาะเจาะจงพอที่จะตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจนของคุณ
- สอดคล้องกับพันธกิจของแบรนด์
- มีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- กว้างพอที่จะแตกออกเป็นหัวข้อย่อย และสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้หลากหลาย
ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นโค้ชหรือทำธุรกิจด้านฟิตเนส เสาหลักอาจเป็น
- การออกกำลังกายและการฝึกฝน
- โภชนาการและอาหาร
- แรงบันดาลใจและทัศนคติ
- ชุมชนและไลฟ์สไตล์
3. กำหนด Subtopics ในแต่ละ Pillar
แต่ละเสาหลักจะแตกแขนงออกเป็นหัวข้อย่อย (เฉพาะทาง) ซึ่งสามารถนำไปใช้กับคอนเทนต์ได้หลายรูปแบบ เช่น บทความบล็อก Reels โพสต์แบบ Carousel หรือ Shorts Video เป็นต้น เรามาดูตัวอย่างในตารางด้านล่าง ซึ่งเป็นเสาหลักของคอนเทนต์สำหรับแบรนด์ฟิตเนส โดยจะเห็นได้ว่าแต่ละคอนเทนต์นั้นเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายแบบ Fitness-Focused เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
เสาหลักของคอนเทนต์ (Content Pillar) | หัวข้อย่อย (Subtopics) |
---|---|
1. การออกกำลังกายและการฝึกฝน (Workouts & Training) | 1. การออกกำลังกายที่บ้าน 2. การฝึกความแข็งแรง 3. ตารางคาร์ดิโอ |
2. โภชนาการและอาหาร (Nutrition & Diet) | 1. การวางแผนมื้ออาหาร 2. อาหารเสริมที่เหมาะสม 3. สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ |
3. แรงบันดาลใจและทัศนคติ (Motivation & Mindset) | 1. การตั้งเป้าหมาย 2. เคล็ดลับสร้างวินัย 3. การวิเคราะห์สุขภาพจิต |
4. ชุมชนและไลฟ์สไตล์ (Community & Lifestyle) | 1. เรื่องราวของลูกค้า 2. Fitness Challenges 3. รีวิวสินค้า |

4. เชื่อมโยงกับรูปแบบคอนเทนต์ต่างๆ
นำเสาหลักและหัวข้อย่อยเหล่านี้ไปใช้กับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อรักษาความสอดคล้องของเนื้อหา เช่น
- โพสต์บน Instagram – เรื่องการออกกำลังกายและการฝึกฝน
- หัวข้อย่อย “วิธีการออกกำลังกายที่บ้าน” อาจถูกนำไปสร้างเป็น Reels, Infographics
- โพสต์บน TikTok – เรื่องโภชนาการและอาหาร
- หัวข้อย่อย “การวางแผนมื้ออาหาร” อาจถูกนำไปสร้างเป็น Short Video เพื่อแสดงการวางแผน หรือ A Day in a Life เพื่อให้เห็นว่าในแต่ละวันกินอาหารแบบไหนบ้าง
- บทความบนเว็บไซต์ – เรื่องแรงบันดาลใจและทัศนคติ
- หัวข้อย่อย “เคล็ดลับสร้างวินัย” อาจถูกนำไปสร้างเป็นบทความ (Articles) ที่อธิบายโดยละเอียดพร้อมรูปภาพประกอบ หรือ ทำเป็นคู่มือ E-Book ให้ลงทะเบียนฟรีเพื่อได้เคล็ดลับไปอ่าน

5. วาง Content Calendar Plan
เมื่อได้แนวคิดการทำคอนเทนต์จาก Content Pillars Framework แล้ว ก็นำมาวางเป็นปฏิทินในการปล่อยคอนเทนต์ในแต่ละสัปดาห์ เช่น
สัปดาห์ | การออกกำลังกายและการฝึกฝน | โภชนาการและอาหาร | แรงบันดาลใจและทัศนคติ |
---|---|---|---|
1 | ออกกำลังกายใน 10 นาที | แผนการเตรียมอาหารล่วงหน้า 3 วัน | วิธีรักษาความสม่ำเสมอ |
2 | คู่มือฝึกความแข็งแรงสำหรับมือใหม่ | แหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด | จิตวิทยาของพฤติกรรม |
3 | Challenge ตัวเองกับการออกกำลังกาย ที่บ้าน | ไอเดียอาหารว่างเพื่อสุขภาพ | การเปลี่ยนแปลงของ ร่างกาย |

Content Pillars Framework ถือเป็นอีกหนึ่ง Framework สำหรับการทำคอนเทนต์ ซึ่งเป็นรากฐานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างความสม่ำเสมอให้กับแบรนด์ ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ชัดเจน และช่วยให้คุณสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง