
เมื่อหน้าที่ของคุณ คือ การสอน (Teach) สร้างสรรค์ (Create) หรืออธิบาย (Explain) การสร้างความชัดเจน มีโครงสร้าง และน้ำเสียงที่เหมาะสม คือ ทุกสิ่ง ไม่ว่าคุณจะกำลังร่างแผนการสอน การเขียนสคริปต์ การทำ YouTube หรือสร้างคอร์สเรียนออนไลน์ คุณต้องอาจต้องการมากกว่าแค่คำสั่ง (Prompt) แบบพื้นฐาน แต่คุณต้องการการคิดแบบระบบ ซึ่งนั่นก็คือที่มาของ PROMPT Framework ที่นับเป็นอีกหนึ่งกรอบความคิด ที่ถูกออกแบบมาปรับใช้สำหรับนักการศึกษา (Educators) ผู้ฝึกอบรม (Trainers) ผู้สร้างสรรค์เนื้อหา (Content Creators) และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ (Professionals) เรามาเรียนรู้การ Prompt ด้วย PROMPT Framework กันครับ

รู้จัก PROMPT Framework
กรอบการทำงานที่เรียกว่า PROMPT Framework คือ วิธีการที่มีโครงสร้างเพื่อนำทาง AI ในการสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษา ข้อมูล หรือการเรียนการสอน ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าคำสั่งของคุณมีองค์ประกอบสำคัญ ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ “ถูกต้อง” (Accurate) “เป็นระเบียบ” (Organized) และ “เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย” (Appropriate) โดย PROMPT ย่อมาจาก
- P – Purpose (วัตถุประสงค์) – เนื้อหาที่คุณต้องการให้ AI สร้างขึ้นมา เช่น เพื่อสอน เพื่อแจ้งข้อมูล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หรือเพื่อโน้มน้าวใจ
- R – Role (บทบาท) – ระบุว่าคุณต้องการให้ AI สวมบทบาทเป็นอะไรในการสร้างเนื้อหานั้นๆ เช่น เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ เป็นนักเขียนบทความวิทยาศาสตร์
- O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์) – ระบุโครงสร้างหรือรูปแบบเฉพาะ ที่คุณต้องการให้เนื้อหาที่ AI สร้างออกมาเป็น เช่น บทความ สคริปต์วิดีโอ แผนการสอน
- M – Method (วิธีการ) – อธิบายกระบวนการหรือแนวทาง ที่คุณต้องการให้ AI ใช้ในการสร้างเนื้อหา เช่น การอธิบายทีละขั้นตอน การเปรียบเทียบ การวิเคราะห์เชิงลึก
- P – Parameters (ข้อกำหนด) – กำหนดข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเฉพาะที่ AI ต้องพิจารณา เช่น ความยาว กลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลอ้างอิงที่ต้องใช้
- T – Tone (น้ำเสียง) – ระบุอารมณ์หรือสไตล์ที่คุณต้องการให้เนื้อหามี เช่น เป็นทางการ เป็นกันเอง ตลกขบขัน สร้างแรงบันดาลใจ
กรอบการทำงานนี้เหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไม่ได้แค่ขอไอเดีย แต่กำลังนำทางเพื่อบอก AI ให้สร้างประสบการณ์การเรียนรู้หรือเนื้อหาที่มีความหมายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

P – Purpose (วัตถุประสงค์)
กำหนดเป้าหมายของ Prompt ว่าคุณต้องการให้ AI ช่วยคุณทำอะไร เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: เพื่อสร้างบทเรียนสั้นๆ สำหรับเด็กประถมเกี่ยวกับการรีไซเคิล
- ตัวอย่างที่ 2: เพื่อเขียนอีเมล์โน้มน้าวใจลูกค้าให้สมัครบริการใหม่
- ตัวอย่างที่ 3: เพื่อสรุปรายงานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ให้ผู้บริหารเข้าใจง่าย
R – Role (บทบาท)
กำหนดบุคลิก (Persona) ให้กับ AI โดยคุณต้องการให้ AI สวมบทบาทเป็นใคร เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมสำหรับเด็ก
- ตัวอย่างที่ 2: คุณคือพนักงานการตลาดอาวุโสของบริษัทเทคโนโลยี
- ตัวอย่างที่ 3: คุณคือที่ปรึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่มีประสบการณ์
O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์)
ระบุโครงสร้างหรือรูปแบบเนื้อหาที่ต้องการอย่างเจาะจง เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: บทพูดสำหรับ Video Animation ความยาว 2 นาที
- ตัวอย่างที่ 2: ร่างอีเมล์ทางการ 1 ฉบับ พร้อมหัวข้อและจุดประสงค์หลัก
- ตัวอย่างที่ 3: ร่างบันทึกหน้าเดียวพร้อมกราฟิกแสดงข้อมูลหลักๆ
M – Method (วิธีการ)
ชี้แจงว่าคุณต้องการให้ AI เข้าถึงงานนี้อย่างไร เช่น การเปรียบเทียบ การสรุป การนิยาม เพื่อใช้กรณีศึกษา เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: อธิบายโดยใช้การเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันของเด็กๆ
- ตัวอย่างที่ 2: เน้นประโยชน์หลัก 3 ข้อของบริการและกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ
- ตัวอย่างที่ 3: วิเคราะห์ข้อมูลสำคัญโดยเน้นแนวโน้มและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
P – Parameters (ข้อกำหนด)
กำหนดขอบเขต ระดับกลุ่มเป้าหมาย ความยาว บริบททางวัฒนธรรม ความซับซ้อน หรือ Keywords เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: ใช้คำศัพท์ที่เด็กอนุบาลถึงประถม 3 เข้าใจ และหลีกเลี่ยงตัวเลขซับซ้อน
- ตัวอย่างที่ 2: ความยาวไม่เกิน 150 คำ เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ไม่มีเวลาอ่านมาก
- ตัวอย่างที่ 3: อ้างอิงข้อมูลจากรายงานที่แนบมาเท่านั้น ห้ามใช้ข้อมูลอื่นนอกเหนือจากนี้
T – Tone (น้ำเสียง)
กำหนดสไตล์การสื่อสารว่าอยากให้ดูเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ เป็นมิตร วิชาการ หรือสนุกสนาน เช่น
- ตัวอย่างที่ 1: ร่าเริง สดใส และกระตือรือร้น
- ตัวอย่างที่ 2: เป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ และดูเชิญชวน
- ตัวอย่างที่ 3: เป็นทางการ ชัดเจน และวิเคราะห์ตามหลักเหตุผล

PROMPT Template
คุณสามารถนำ Template นี้ไปใช้ซ้ำๆได้อย่างง่ายดาย กับเครื่องมือต่างๆ เช่น ChatGPT, Gemini, Claude, หรือ Copilot
P – Purpose: [Define the goal of the content you want the AI to create.] R – Role: [Specify what role you want the AI to assume in creating that content.] O – Output Format: [Indicate the specific structure or format you want the AI’s output to be.]
M – Method: [Describe the process or approach you want the AI to use in generating the content.] P – Parameters: [Set specific constraints or conditions the AI must consider.] T – Tone: [State the mood or style you want the content to have.]
P – Purpose (วัตถุประสงค์): [กำหนดเป้าหมายหลักของเนื้อหาที่คุณต้องการให้ AI สร้างขึ้นมา] R – Role (บทบาท): [ระบุว่าคุณต้องการให้ AI สวมบทบาทเป็นอะไรในการสร้างเนื้อหานั้นๆ] O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์): [ระบุโครงสร้างหรือรูปแบบเฉพาะที่คุณต้องการให้เนื้อหาที่ AI สร้างออกมาเป็น] M – Method (วิธีการ): [อธิบายกระบวนการหรือแนวทางที่คุณต้องการให้ AI ใช้ในการสร้างเนื้อหา] P – Parameters (ข้อกำหนด): [กำหนดข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเฉพาะที่ AI ต้องพิจารณา]
T – Tone (น้ำเสียง): [ระบุอารมณ์หรือสไตล์ที่คุณต้องการให้เนื้อหามี]

ตัวอย่างการเขียน Prompt ด้วย PROMPT Framework
ในการเขียน Prompt โดย Framework ที่มีการกำหนดบทบาท (Role) คุณสามารถสลับให้ R – Role (บทบาท) ขึ้นมาเป็นลำดับแรกได้เสมอ
Example #1: นักการศึกษา (บทเรียนเกี่ยวกับลำดับขั้นความต้องการของ Maslow)
- P – Purpose (วัตถุประสงค์) – เพื่ออธิบายลำดับขั้นความต้องการของ Maslow (Maslow’s Hierarchy of Needs) ให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรี
- R – Role (บทบาท) – คุณคืออาจารย์บรรยายวิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย
- O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์) – นำเสนอในรูปแบบตารางสรุป 5 ระดับ พร้อมคำอธิบายสั้นๆ
- M – Method (วิธีการ) – ใช้ตัวอย่างจากชีวิตจริงที่ทันสมัย (เช่น สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย)
- P – Parameters (ข้อกำหนด) – จำกัดความยาวไม่เกิน 300 คำ และเข้าใจง่ายสำหรับนักศึกษาปีหนึ่ง
- T – Tone (น้ำเสียง) – ให้การสนับสนุนและให้ข้อมูล เหมือนครูในห้องเรียน
AI Prompt
“You are a psychology lecturer. Explain Maslow’s Hierarchy of Needs
to first-year university students using a 5-level summary table. Include a modern example for each level (e.g., smartphone, social media).
Keep the explanation under 300 words and avoid jargon.
Tone should be supportive and informative.”“คุณคืออาจารย์บรรยายวิชาจิตวิทยา อธิบายลำดับขั้นความต้องการของ Maslow
ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง โดยใช้ตารางสรุป 5 ระดับ ใส่ตัวอย่างที่ดูทันสมัยสำหรับแต่ละระดับ
(เช่น สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย) อธิบายให้มีความยาวไม่เกิน 300 คำ และหลีกเลี่ยงศัพท์เฉพาะ
พร้อมกับใช้น้ำเสียงที่ดูให้การสนับสนุนและเน้นให้ข้อมูล”
Example #2: วิทยากร (การทำ Workshop เรื่องการบริหารเวลา)
- P – Purpose (วัตถุประสงค์) – เพื่อจัดกิจกรรมละลายพฤติกรรม (Ice-breaker) ในหัวข้อการบริหารเวลา
- R – Role (บทบาท) – คุณคือวิทยากรขององค์กรที่กำลังจัด Workshop ทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills)
- O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์) – กิจกรรมกลุ่ม 15 นาที พร้อมคำแนะนำ
- M – Method (วิธีการ) – เกมแบบมีส่วนร่วม หรือ กิจกรรมท้าทายสั้นๆ
- P – Parameters (ข้อกำหนด) – เหมาะสำหรับมืออาชีพช่วงอายุ 25-40 ปี จากหลากหลายอุตสาหกรรม
- T – Tone (น้ำเสียง) – เป็นมิตรและสร้างแรงจูงใจ
AI Prompt
“Act as a corporate trainer. Design a 15-minute group ice-breaker
activity on time management for working professionals aged 25-40. Make it fun, simple, and interactive. Include clear instructions and
discussion points. Use a friendly and motivating tone.”“สวมบทบาทเป็นวิทยากรขององค์กร ออกแบบกิจกรรมละลายพฤติกรรมกลุ่ม 15 นาที
ในหัวข้อการบริหารเวลา สำหรับมืออาชีพวัยทำงานอายุ 25-40 ปี ทำให้กิจกรรมนี้สนุก ง่าย และมีการโต้ตอบ
ใส่คำแนะนำที่ชัดเจนและประเด็นสำหรับการอภิปราย ใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตรและสร้างแรงจูงใจ”
Example #3: YouTuber (กำลังเขียนบท)
- P – Purpose (วัตถุประสงค์) – เพื่อสร้างสคริปต์ YouTube เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับ 4Ps
- R – Role (บทบาท) – คุณคือผู้สร้างเนื้อหาที่อธิบายพื้นฐานการตลาดให้ผู้เริ่มต้น
- O – Output Format (รูปแบบผลลัพธ์) – สคริปต์ 1 นาที ในรูปแบบหัวข้อ (Bullet Points)
- M – Method (วิธีการ) – ใช้ตัวอย่างจากแบรนด์ไทย
- P – Parameters (ข้อกำหนด) – ทำให้กระชับ เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับผู้ชม Gen Z
- T – Tone (น้ำเสียง) – มีพลัง เป็นกันเอง และมีอารมณ์ขันเล็กน้อย
AI Prompt
“You are a Gen Z-friendly YouTube content creator.
Write a 1-minute video script explaining the 4Ps of Marketing using examples from Thai brands like Grab or Shopee. Make it concise, casual, and funny suitable for young beginners.”“คุณคือผู้สร้างเนื้อหา YouTube ที่เป็นมิตรกับ Gen Z เขียนสคริปต์วิดีโอความยาว 1 นาที
อธิบาย 4Ps ของการตลาด โดยใช้ตัวอย่างจากแบรนด์ไทย เช่น Grab หรือ Shopee ทำให้สั้น กระชับ
เป็นกันเอง และตลกขบขัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่เป็นวัยรุ่น”

PROMPT Framework เหมาะกับใคร
ประเภทผู้ใช้งาน | PROMPT Framework ช่วยอะไรได้บ้าง |
---|---|
Educators | บทเรียน สื่อการสอน การสร้างแบบทดสอบ |
Trainers & Coaches | โครงร่างการทำ Workshop ทำเนื้อหาสไลด์ |
Content Creators | เขียนสคริปต์ ร่างบทความ กำหนดรูปแบบการเล่าเรื่อง |
Course Designers | การวางแผน Module โครงสร้างหัวข้อ โครงสร้างวิดีโอ |
AI นับเป็นผู้ช่วยที่ชาญฉลาดมาก แต่ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับการชี้นำที่แม่นยำ และหากคุณมีบทบาทในการแบ่งปันความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโค้ช ครูผู้สอน หรือผู้สร้างสรรค์เนื้อหา PROMPT Framework ก็เป็นหนึ่งในกรอบความคิดที่ดี ที่จะช่วยให้คุณดึงศักยภาพของ AI มาใช้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ตรงเป้าหมาย น่าสนใจ และมีโครงสร้างที่ชัดเจน ในทุกๆ ชิ้นงานนั่นเอง