Chanel-Shop

Chanel เป็นแบรนด์แฟชั่นหรูหราระดับโลกที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการแฟชั่นและความงาม ก่อตั้งโดย กาเบรียล “โคโค่” ชาเนล (Gabrielle “Coco” Chanel) แบรนด์ได้สร้างสรรค์สไตล์ที่เรียบหรูและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยังคงความคลาสสิกและทันสมัยจนถึงปัจจุบัน​


การก่อตั้งและจุดเริ่มต้น

กาเบรียล “โคโค่” ชาเนล (Gabrielle “Coco” Chanel) เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ในเมืองโซมูร์ ประเทศฝรั่งเศส หลังจากสูญเสียแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย เธอถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และที่นั่นเธอได้เรียนรู้การตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นของเธอ​ ในปี 1910 Chanel ได้เปิดร้านหมวกแห่งแรกที่ชื่อว่า “Chanel Modes” ในกรุงปารีส และร้านของเธอได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่าง Gabrielle Dorziat สวมใส่หมวกของเธอ​อีกด้วย

ในปี 1913 เธอได้ขยายธุรกิจไปยังเมืองโดวิลล์ (Deauville) และเปิดตัวเสื้อผ้าสตรีจากผ้าเจอร์ซีย์ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นสำหรับผู้หญิงโดยสิ้นเชิง ภายในปี 1915 Chanel ได้เปิดห้องเสื้อระดับสูง (Haute Couture House) ที่เมืองเบียริตซ์ (Biarritz) และมีพนักงานมากกว่า 300 คน

Chanel ได้เปิดร้านบูติกแห่งที่สองในเมืองโดวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยม และที่นี่เธอได้เริ่มออกแบบเสื้อผ้าที่มีความเรียบง่ายและใส่สบาย แตกต่างจากแฟชั่นที่ซับซ้อนในยุคนั้น​ และในปี 1921 Chanel ได้เปิดตัวน้ำหอม “Chanel No.5” ซึ่งกลายเป็นน้ำหอมที่มีชื่อเสียงและขายดีที่สุดตลอดกาล​


Timeline เหตุการณ์สำคัญๆ

ยุคก่อตั้งและการเติบโต

  • 1909: Chanel เปิดร้านขายหมวกเล็กๆในปารีส
  • 1910: เปิดร้านหมวก “Chanel Modes” ในปารีส​
  • 1913: เปิดร้านบูติกที่เมืองโดวิลล์ (Deauville) และเปิดตัวชุดกีฬาสำหรับผู้หญิง
  • 1915: เปิดห้องเสื้อระดับสูง (Haute Couture House) ที่เมืองเบียริตซ์ (Biarritz)
  • 1921: เปิดตัวน้ำหอม “Chanel No.5”
  • ​1924: ก่อตั้ง Société des Parfums Chanel
  • 1931: ขยายตลาดสู่ฮอลลีวูดโดยออกแบบเสื้อผ้าให้กับดาราภาพยนตร์
  • 1954: กลับเข้าสู่วงการแฟชั่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง​
Chanel-Shop-in-Paris

Source: https://www.chanel.com/us/about-chanel/the-history/

การกลับมาหลังสงครามและยุคทองของ Chanel Suit

  • 1939: ปิดห้องเสื้อในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เหลือเพียงธุรกิจน้ำหอม
  • 1954: Chanel หวนคืนสู่วงการแฟชั่น ด้วยการเปิดตัว Chanel Suit
  • 1955: เปิดตัวกระเป๋าสุดไอคอนิก Chanel 2.55 Flap Bag
  • 1971: Coco Chanel เสียชีวิตและทิ้งมรดกทางแฟชั่นไว้ให้โลกรำลึก

ยุคโมเดิร์นภายใต้การนำของ Karl Lagerfeld

  • 1983: คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ได้รับการแต่งตั้งเป็น Creative Director และเปลี่ยน Chanel ให้เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ทันสมัย
  • 1990s – 2000s: Chanel ขยายสู่ธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีและนาฬิกา
  • 2018: ตระกูล Wertheimer ยืนยันว่า Chanel ยังคงเป็นบริษัทเอกชน โดยมีรายได้มากกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์

Chanel ในศตวรรษที่ 21

  • 2019: หลังจากการจากไปของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) Chanel แต่งตั้ง เวอร์จินี วียาร์ (Virginie Viard) เป็น Creative Director คนใหม่
  • 2021: ลีน่า แนร์ (Leena Nair) อดีตผู้บริหาร Unilever ได้รับแต่งตั้งเป็น CEO
  • 2024:
    • Chanel เปิด Flagship Store สำหรับนาฬิกาและเครื่องประดับที่นิวยอร์ก
    • แมทธิว บลาซี (Matthieu Blazy) อดีต Creative Director จาก Bottega Veneta ได้รับแต่งตั้งเป็น Creative Director ของ Chanel
    • Chanel ฉลอง 100 ปี ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ด้วยการเปิดตัวหนังสือพิเศษ
    • Chanel จัดแฟชั่นโชว์ Métiers d’Art ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เพื่อขยายตลาดในเอเชีย

ผลิตภัณฑ์และบริการของ Chanel

Chanel เป็นแบรนด์หรูที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมทั้งแฟชั่น เครื่องสำอาง น้ำหอม เครื่องประดับ และสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์มีจุดเด่นที่ความประณีตในรายละเอียด นวัตกรรม และการออกแบบที่เหนือกาลเวลา ซึ่งสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์และบริการของ Chanel ออกเป็นหลายกลุ่มหลักๆ ดังนี้

1. เสื้อผ้าแฟชั่น (Fashion & Haute Couture)

Chanel เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นระดับ Haute Couture (แฟชั่นชั้นสูง) ของฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการรับรองจาก Chambre Syndicale de la Haute Couture โดยเสื้อผ้าของ Chanel ขึ้นชื่อเรื่องความสง่างาม เรียบหรู และใช้งานได้จริง เช่น

  • Haute Couture – แฟชั่นชั้นสูงที่ออกแบบและตัดเย็บด้วยมือโดยช่างฝีมือระดับโลก
  • Ready-to-Wear (Prêt-à-Porter) – เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีความหรูหรา สวมใส่ง่าย เหมาะกับชีวิตประจำวัน
  • เสื้อโค้ตและแจ็กเก็ต (Chanel Tweed Suit) – ถือเป็นไอคอนิกของแบรนด์ที่ Chanel ออกแบบให้ดูสง่างามแต่สวมใส่สบาย
  • รองเท้าบัลเลต์สุดคลาสสิกและบูทหรูหรา
haute-couture-spring-2020

Source: https://fashionista.com/2020/07/haute-couture-fall-2020-collections-quarantine


2. กระเป๋าและเครื่องหนัง (Handbags & Leather Goods)

กระเป๋าของ Chanel เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและมีมูลค่าสะสมสูง เช่น

  • Chanel 2.55 – ออกแบบโดยกาเบรียล “โคโค่” (Gabrielle “Coco” Chanel) ชาเนลในปี 1955 เป็นกระเป๋าใบแรกที่มาพร้อมสายสะพายโซ่
  • Chanel Classic Flap Bag – ออกแบบโดยคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ในปี 1983 ปรับปรุงจาก Chanel 2.55
  • Chanel Boy Bag – เปิดตัวในปี 2011 มีดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นและเท่กว่าเดิม
  • Chanel 22 – กระเป๋าแนว Street Luxury ที่เปิดตัวในปี 2022
  • Chanel ยังมีสินค้าเครื่องหนังอื่นๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด พวงกุญแจ และเคสมือถือ
Chanel-2.55

Source: https://www.harpersbazaar.com/uk/fashion/a44542758/chanel-2-55-bag/


3. น้ำหอม (Fragrances)

Chanel เป็นผู้นำด้านน้ำหอม และน้ำหอมของแบรนด์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา เช่น

  • Chanel No.5 – เปิดตัวในปี 1921 โดย Ernest Beaux น้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
  • Coco Mademoiselle – น้ำหอมแนวสดชื่นและมีชีวิตชีวา
  • Chance by Chanel – น้ำหอมที่เหมาะกับคนหนุ่มสาว มีกลิ่นที่ขี้เล่นและสดใส
  • Bleu de Chanel – น้ำหอมสำหรับผู้ชายที่ให้กลิ่นหรูหราและเซ็กซี่
  • Chanel ยังมีน้ำหอมสำหรับบ้าน (Home Fragrances) และน้ำหอมที่ออกแบบมาเพื่อผิวกาย (Body Fragrances)
Chanel-No.5

4. เครื่องสำอางและสกินแคร์ (Makeup & Skincare)

Chanel มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เช่น

เครื่องสำอาง (Makeup)

  • ลิปสติก Rouge Allure & Rouge Coco – สีสวย ติดทนนาน
  • รองพื้น Les Beiges & Ultra Le Teint – ให้ผิวสวยเป็นธรรมชาติ
  • บลัชออน Joues Contraste – เพิ่มสีสันให้พวงแก้มอย่างเป็นธรรมชาติ
  • มาสคาร่า Inimitable & Le Volume de Chanel – เพิ่มความหนาและยาวให้ขนตา

สกินแคร์ (Skincare)

  • Sublimage – กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวระดับไฮเอนด์
  • Le Lift – ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย
  • Hydra Beauty – เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
chanel-le-rouge-collection

Source: https://imabeautygeek.com/2014/02/16/chanel-le-rouge-collection-spring-2014/


5. เครื่องประดับและนาฬิกา (Jewelry & Watches)

Chanel มีเครื่องประดับและนาฬิกาหรูที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น

เครื่องประดับ (Fine Jewelry & High Jewelry)

  • Coco Crush Collection – เครื่องประดับทองที่ได้แรงบันดาลใจจากลายควิลต์ของกระเป๋า Chanel
  • Camélia Collection – ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกคามีเลีย ดอกไม้โปรดของ กาเบรียล “โคโค่” ชาเนล (Gabrielle “Coco” Chanel)

นาฬิกา (Watches)

  • Chanel J12 – นาฬิกาสปอร์ตสุดหรู
  • Boy.Friend Watch – ที่มีดีไซน์เรียบหรูคลาสสิก
  • Première Watch – ได้แรงบันดาลใจจากขวดน้ำหอม Chanel No.5
Chanel-J12-Diamond

Source: https://timeandtidewatches.com/chanel-j12-diamond-tourbillon-calibre-5-hands-on/


6. แว่นตา (Eyewear)

Chanel มีแว่นตากันแดดและแว่นสายตา ที่ออกแบบมาอย่างหรูหราและทันสมัย เช่น

  • แว่นตากันแดด Chanel Pilot & Cat-Eye
  • แว่นสายตา Chanel Optical Frames
CHANEL_Eyeglasses

Source: https://www.vogue.com/slideshow/chanel-e-commerce-eyeglasses-launch


7. บริการพิเศษของ Chanel

Chanel ไม่เพียงแต่จำหน่ายสินค้าแต่ยังมีบริการสุดพิเศษ เช่น

  • บริการตัดเย็บเสื้อผ้าเฉพาะบุคคล (Haute Couture Custom-Made Service)
  • Private Shopping Experience – ที่ลูกค้าสามารถจองห้องส่วนตัวในการเลือกซื้อสินค้า
  • บริการซ่อมแซมและดูแลกระเป๋า Chanel
  • Fragrance & Beauty Consultations – ซึ่งเป็นบริการให้คำปรึกษาด้านน้ำหอมและเครื่องสำอาง

Chanel เป็นมากกว่าแบรนด์แฟชั่น แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและไลฟ์สไตล์ที่อยู่เหนือการเวลา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้แบรนด์นี้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก


แหล่งที่มา

Source
Source
Source
Source

Share to friends


Related Posts

Brand History – FREITAG กระเป๋าแฟชั่นกับความเป็น Cult Brand

ความโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆในตลาด เพราะด้วยการออกแบบและวัสดุที่ใช้รวมไปถึงรูปแบบของร้าน ที่มีการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์คล้ายกับเป็นโรงงานผลิตกระเป๋า เป็นกระเป๋าแฟชั่นที่ผสมความดิบๆจนกลายเป็นที่ครองใจของคนทั่วโลก


Brand History – Virgin จากค่ายเพลงสู่ธุรกิจแสนล้าน

หากพูดถึงแบรนด์ Virgin หลายๆคนอาจยังไม่คุ้นหู แต่อาจมีผ่านตากับ Virgin Active ฟิตเนสระดับโลกที่มาเปิดในประเทศไทยได้ไม่นาน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของแบรนด์ Virgin นั่นเองครับ เรามาทำความรู้จักกับต้นกำเนิดของแบรนด์ Virgin ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สายกบฎแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเลยก็ว่าได้


Brand History: Tesla ผู้นำแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

Tesla, Inc. เป็นแบรนด์ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ไปตลอดกาล ด้วยการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย ควบคู่ไปกับโซลูชันด้านพลังงานสะอาด (Sustainable Energy Solutions) ที่ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2003 Tesla ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก นำโดย อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่พาบริษัทเติบโตจนมีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์



copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์