Nike Shoes

Brand Extension หรือการที่แบรนด์พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆออกมา ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่อาจเป็นชื่อเดิมหรือชื่อใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจของตนไปพร้อมกับการรักษาความภักดีของลูกค้าที่มีอยู่ การทำ Brand Extension จึงเป็นการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์เชิงบวกที่มีกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการดั้งเดิมของคุณ ทำให้คุณไม่ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยการใช้พลังของแบรนด์ที่มีอยู่ ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเจาะเข้าสู่ตลาดที่ไม่คุ้นเคยได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ และยังช่วยให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกมีความคุ้นเคยกับแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง เรามาทำความรู้จักกับ Brand Extentsion ทั้ง 6 รูปแบบที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในตลาดได้อย่างแข็งแกร่งครับ

What's next?

1. Line Extensions หรือ Product Extensions

การขยายแบรนด์ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของบริษัท “แต่มีคุณสมบัติหรือคุณประโยชน์เพิ่มเติมบางประการ” ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการดึงดูดความสนใจของลูกค้าปัจจุบัน และในขณะเดียวกันก็มอบสิ่งใหม่ๆให้กับพวกเขาด้วยโดยไม่จำเป็นต้องทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ เพียงแค่นำสิ่งใหม่ๆหรือเพิ่มอะไรที่พิเศษลงไป เช่น แชมพูธรรมดาออกสูตรพิเศษมาเพื่อความต้องการโดยเฉพาะ อาจเป็นแชมพูสำหรับผมแห้งหรือผมเสีย ซึ่งการขยายแบรนด์ลักษณะนี้จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเกิดความตื่นเต้นที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆจากแบรนด์ของคุณ

2. Category Extensions

การขยายแบรนด์ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่อยู่ในหมวดหมู่ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ “แต่ยังคงมีความเกี่ยวข้องกัน” นับเป็นขยายขอบเขตของแบรนด์เพื่อลองสิ่งใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น คุณขายกาแฟอยู่เลยลองเพิ่มเป็นการทำไอศครีมรสกาแฟ หรือจากขายเสื้อกีฬาแล้วขยายไปสู่การขายรองเท้ากีฬา เป็นต้น

3. Derivative Extensions

การขยายแบรนด์ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีอยู่ของบริษัท “แต่ไม่จำเป็นต้องขายภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวกัน” เช่น คุณขายรถยนต์และขยายไปสู่การทำพรมรถยนต์ อาจเป็นอุปกรณ์ชาร์จในรถยนต์ หรืออาจจะเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ภายใต้ชื่อแบรนด์อื่น เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น

4. Co-Branding

ในบางครั้งการมี 2 แบรนด์ก็ดีกว่าการมีเพียงแค่แบรนด์เดียว ซึ่งนั่นก็คือ วิธีที่การสร้างแบรนด์ร่วมหรือการจับมือกันแบบเป็นพันธมิตร ก็นับว่าเป็นกลยุทธ์การขยายแบรนด์ที่นิยมทำกันมากที่สุดวิธีหนึ่ง การขยายแบรนด์ประเภทนี้หมายถึงการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อื่นๆเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆที่ขายภายใต้ชื่อของแบรนด์ทั้งสอง เช่น Nike และ Apple ผนึกกำลังร่วมกันพัฒนา Nike + iPod Sports Kit เพื่อรวมเทคโนโลยีระบบการติดตามการออกกำลังกายเข้ากับรองเท้าวิ่ง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามการออกกำลังกายและประสิทธิภาพของตนได้อย่างดีมากขึ้น ซึ่งการทำ Co-Branding นั้นถือเป็นการขยายธุรกิจในระยะยาว โดยจะมีความแตกต่างจากคำว่า Co-Marketing หรือ ที่เราคุ้นๆหูกับคำว่า Collabs หรือ Collaborative Marketing Link ที่มีเป้าหมายกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น

5. Licensing

การขยายแบรนด์ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้บริษัทอื่นใช้ชื่อแบรนด์ โลโก้ หรือทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆของคุณเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียม ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าอาจอนุญาตให้ใช้ชื่อและโลโก้ของตนแก่บริษัทที่ผลิตรองเท้า หรือแบรนด์เครื่องดื่มอนุญาตให้ใช้โลโก้กับการผลิตรองเท้าบางรุ่นของแบรนด์ต่างๆ แล้วออกมาเป็นรุ่น Limited Edition เช่น Coke กับการให้ License แบรนด์ลูกอม ขนมขบเคี้ยว รวมไปถึงรองเท้าในบางรุ่นของแบรนด์ PUMA อีกด้วย

6. Corporate Branding

อีกหนึ่งรูปแบบของการขยายแบรนด์ ก็คือ การสร้างแบรนด์ระดับองค์กรซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งในวิธีการขยายธุรกิจ ที่มองและคิดให้ไปไกลกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม และสร้างแนวคิดการขยายแบรนด์ใหม่ๆที่ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดอื่นๆทั้งหมดได้ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจขายเสื้อผ้ามีการขยับขยายไปในธุรกิจเกี่ยวกับของตกแต่งบ้านด้วยการแยกเป็นบริษัทออกมา ที่เราจะเห็นกันในพักหลังๆ ก็คือ ZARA Home และ H&M Home การทำ Corporate Branding จึงเป็นการเน้นเรื่องการชูภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระดับที่เป็นภาพใหญ่มากกว่าเดิม

What's next?

ตัวอย่าง Brand Extension ที่ประสบความสำเร็จ

การขยายแบรนด์ถือเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว และหลายๆครั้งเราก็ไม่รู้เลยว่าแบรนด์เดิมนั้นคือแบรนด์อะไร เพราะหลายๆครั้งอาจจะไม่ได้ขยายแบรนด์ด้วยการใช้ชื่อแบรนด์เดิมก็ได้ เรามาดูตัวอย่างการทำ Brand Extension ของแบรนด์ต่างๆที่ประสบความสำเร็จกันครับ

Apple กับการทำ Product & Category Extension

ผลิตภัณฑ์แรกของ Apple คือคอมพิวเตอร์ Apple I ซึ่งออกแบบและสร้างด้วยมือโดย Steve Wozniak และ Steve Jobs ในปี 1976 ทุกวันนี้ Apple ยังคงจำหน่ายคอมพิวเตอร์แต่ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริม เช่น คีย์บอร์ด จอภาพ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนั้น Apple ยังมีการเปิดตัว iPod, iPhone, Apple Watch และ HomePod ทำให้เห็นว่า Apple มีการขยายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาแบรนด์หนึ่งของโลก และในอนาคตอาจมีอะไรอีกมากที่เราจะได้เห็นจากแบรนด์นี้

Apple Products

Source: https://www.staples.ca/a/content/apple


Nike กับการทำ Product & Category Extension และ Corporate Branding

Nike ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับกีฬาเป็นหลัก แต่บริษัทยังได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น อุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีแอปพลิเคชั่นอย่าง Nike Training Club และ Nike Running Club อีกด้วย Nike พยายามสร้างชุมชนด้วยชื่อและแบรนด์ของตน และค่อนข้างเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

Nike-Products

Red Bull กับการทำ Line Extension และ Corporate Branding

Red Bull เป็นแบรนด์ที่เริ่มต้นจากเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ตอนนี้มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Corporate Image) ในการเป็นเพื่อนสำหรับทุกคนที่มีไลฟ์สไตล์สุด Extreme ที่ชอบกีฬากลางแจ้งและบางครั้งก็สุดขั้วเอามากๆ Red Bull ไม่ใช่แค่เพียงกล้าที่จะกระโดดออกจากหมวดหมู่เครื่องดื่มชูกำลัง ไปสู่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเครื่องดื่มรสชาติต่างๆ หรือเครื่องดื่มที่มีลักษณะเฉพาะต่างกันออกไป แต่ยังเข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องการใช้พลังงานเต็มที่ ตั้งแต่หมวกไปจนถึงลูกฮอกกี้ และจากเสื้อเชิ้ตไปจนถึงแว่นตาสโนว์บอร์ดและทีม Formula 1 ซึ่งนับว่า Red Bull นั้นมีทุกอย่าง

Red Bull

Coca-Cola กับการทำ Category Extension และ Derivative Extension

ในวงการเครื่องดื่มถือเป็นเป็นวงการที่มีการขยายแบรนด์หลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในแบรนด์ที่มีการขยายออกไปมากที่สุดแบรนด์หนึ่งก็คือ Coca-Cola ที่มีผลิตภัณฑ์ถูกแตกออกมาเป็นหลายประเภท และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ก็คือ น้ำ SODA ที่ใช้ชื่อแบรนด์ว่า FRESCA นั่นเอง

FRESCA_SODA_Water

Source: https://www.coca-cola.com/us/en/brands/fresca-sparkling-soda

ในหลายๆธุรกิจมีการใช้ Brand Extension ครบทุกรูปแบบจนช่วยให้การขยายธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่ทุกแบรนด์นะครับที่ทำได้กับทุกรูปแบบเพราะมันต้องมีการวิเคราะห์หลายอย่าง และทุกๆการทำ Brand Extension นั้นก็มีการใช้งบประมาณด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นหากจะทำ Brand Extension คุณก็ต้องวางแผนให้ดีและคิดในมุมต่างๆให้รอบคอบว่า ผลสุดท้ายแล้วคุณจะทำ Brand Extension ไปเพื่ออะไรตอบวัตถุประสงค์อะไรนั่นเอง


Share to friends


Related Posts

ความต่างระหว่าง Brand Extension กับ Line Extension

ในการทำธุรกิจก็ต้องมีการต่อยอดหรือขยับขยายธุรกิจ เพื่อการเติบโตและหาช่องทางในการสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายๆแบรนด์ใช้ในการบริหารจัดการให้แบรนด์สามารถขยายประเภทสินค้าหรือบริการออกมา แล้วสามารถตอบสนองเป้าหมายของธุรกิจ


รู้จัก Brand Architecture หรือสถาปัตยกรรมของแบรนด์

Brand Architecture หรือโครงสร้าง หรือสถาปัตยกรรมของแบรนด์ ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ดูสลับซับซ้อน ที่มีความคล้ายกับโครงสร้างขององค์กรที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่ทำให้เราเห็นการทำงานของฝ่ายต่างๆ และหน้าที่ความรับผิดชอบในสายงานนั้นๆ


รู้จักกลยุทธ์ Brand Extension ทั้ง 7 ประเภท

ด้วยความที่ในปัจจุบันมีการแข่งขันทางธุรกิจกันสูงทำให้หลายๆธุรกิจและหลายๆธุรกิจนั้นจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ในการรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือด และการเลือกใช้กลยุทธ์การทำ Brand Extension หรือการขยายแบรนด์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และยังสร้างให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) ให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี



copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์