
ในบทความนี้ผมขอเสนออีกหนึ่งวิธีคิด เพื่อจัดโครงสร้างและวางกลยุทธ์การทำ Content โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังออกแบบเนื้อหาในแต่ละหน้าบนเว็บไซต์ ให้เติบโตเหมือนการวางแผนผังความคิด (Mind Map) ที่มีการเชื่อมโยง และง่ายต่อการค้นหา ที่ชื่อ Hub-and-Spoke Model ซึ่งเป็นกรอบการทำงานอีกหนึ่งกรอบ ที่สามารถสร้างเนื้อหาอันทรงพลัง สำหรับนักการตลาด ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO และผู้เผยแพร่คอนเทนต์ต่างก็ใช้กัน เรามารู้จักกับ Hub-and-Spoke Model กันในบทความนี้ครับ

Hub-and-Spoke Model คืออะไร

Hub-and-Spoke Model คือ โครงสร้างเนื้อหาที่จัดระเบียบข้อมูลโดยมี “หน้า Hub” (หรือเนื้อหาหลัก) เป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก “เนื้อหา Spokes” (หรือเนื้อหาเสริม) ที่เกี่ยวข้องหลายชิ้นด้วยกัน Hub-and-Spoke Model อาจเรียกอีกอย่างว่า “Topic Clusters” (กลุ่มหัวข้อ) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การจัดระเบียบเนื้อหา ที่ดูก้าวหน้ากว่าการเขียนบล็อกแบบแยกส่วน และช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่ยอมรับ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งอย่างแท้จริง ด้วยหลักการทำงาน ดังนี้
- Hub Page (หน้าศูนย์กลาง)
เปรียบ คือ “ดุมล้อ” ที่อยู่ตรงกลาง เป็นเนื้อหาหลักที่ครอบคลุมและให้ภาพรวมในหัวข้อกว้างๆ เช่น “คู่มือการทำ SEO สำหรับมือใหม่” หรือ “ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสุขภาพการนอน” หน้า Hub จะมีเนื้อหาที่เจาะลึกในระดับหนึ่ง แต่ยังเป็นภาพรวมที่เชื่อมโยงไปยังหัวข้อย่อยอื่นๆ - Spoke Pages (หน้าก้านล้อ)
เปรียบ คือ “ซี่ล้อ” ที่เชื่อมต่อจากดุมล้อ โดยเป็นบทความหรือเนื้อหาเฉพาะเจาะจง ที่ลงลึกในรายละเอียดของหัวข้อย่อยนั้นๆ เช่น หากหน้า Hub คือ “คู่มือการทำ SEO” หน้า Spoke อาจเป็น “วิธีทำ Keyword Research” “การสร้าง Backlink อย่างมีคุณภาพ” หรือ “การปรับปรุง On-Page SEO” โดยเนื้อหาเหล่านี้จะให้ข้อมูลที่ละเอียด และเจาะลึกลงไปให้มากยิ่งขึ้น
หัวใจสำคัญของ Hub-and-Spoke Model คือ การเชื่อมโยงภายใน (Internal Linking) ที่เป็นระบบโดยหน้า Spoke ทุกหน้าจะเชื่อมโยงกลับไปยังหน้า Hub เสมอ เพื่อส่งต่อพลังและบอกให้ Google รู้ว่าหน้า Hub นี้เป็นเนื้อหาหลักที่สำคัญที่สุด หน้า Hub จะเชื่อมโยงไปยังหน้า Spoke ทั้งหมด เพื่อให้ผู้อ่านและ Google สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างง่ายดาย ที่สามารถช่วย
- เพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience)
ผู้อ่านสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากเนื้อหาหลัก / ภาพรวม (Hub) หรือเนื้อหาเสริม / เฉพาะเจาะจง (Spoke) ทำให้ใช้เวลาบนเว็บไซต์นานขึ้น และลดอัตราการออกจากเว็บไซต์หรือการตีกลับ (Bounce Rate) - สร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ (Topical Authority)
เมื่อคุณสร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกัน ในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งอย่างเป็นระบบ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ มากกว่าเว็บไซต์ที่มีเพียงบทความแบบแยกส่วน - ช่วยให้ติดอันดับได้ดีขึ้น (Better Ranking)
การเชื่อมโยงภายในที่แข็งแรงจะช่วยเพิ่มค่า Page Rank และ Authority ให้กับหน้า Hub และ Spoke ทำให้มีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นสำหรับทั้งคีย์เวิร์ดแบบกว้าง (Hub) และคีย์เวิร์ดแบบยาว (Spoke)
Hub-and-Spoke Model นั้นจึงเหมาะกับกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ SEO ในระยะยาว การสร้างความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ การจัดระเบียบหมวดหมู่สำหรับบทความ การวางแผนเนื้อหาบนเว็บไซต์ รวมถึงแพลตฟอร์มการศึกษาหรือสถาบันวิชาการต่างๆ

วิธีการใช้ Hub-and-Spoke Model อย่างเหมาะสม
เรามาเจาะลึกแต่ละขั้นตอนเพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์นี้ให้มากขึ้น ดังนี้
1. เลือก Hub (หัวข้อหลัก / เนื้อหาหลัก)
ขั้นตอนแรก คือ การวางรากฐาน โดยคุณต้องเลือกหัวข้อที่กว้างพอ ที่จะแตกออกเป็นหัวข้อย่อยได้มากมาย แต่ก็ต้องเฉพาะเจาะจงพอที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยเริ่มที่
- เลือกหัวข้อที่เป็นปัญหาใหญ่ของกลุ่มเป้าหมาย
ลองนึกดูว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีคำถามกว้างๆอะไร ที่ต้องใช้คำอธิบายที่ครอบคลุม หัวข้อเหล่านี้มักจะเป็นคำค้นหาที่มีปริมาณสูง (High Search Volume) - สร้างเนื้อหาแบบ “เสาหลัก”
เนื้อหาในหน้า Hub ควรเป็นเหมือนคู่มือฉบับสมบูรณ์ (Ultimate Guide) ที่ให้ภาพรวมของหัวข้อทั้งหมด โดยอาจมีความยาวมากถึง 2,000 – 5,000 คำหรือมากกว่านั้นก็ได้
2. ระบุ Spokes (หัวข้อย่อย / เนื้อหาเสริม)
Spokes คือ หัวข้อย่อยที่เจาะลึกจาก Hub แต่ละ Spoke ควรมีศักยภาพในการเป็นบทความที่มีคุณภาพในตัวเอง ด้วยการ
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ด (Keyword Research Tools) เพื่อหาคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ Hub ของคุณ
- ลองดูคำถามที่พบบ่อยบนโซเชียลมีเดีย หรือคำถามจากลูกค้า คำถามเหล่านี้มักเป็นหัวข้อที่ดีสำหรับ Spokes
- แต่ละ Spoke ควรเน้นหัวข้อย่อยเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เพื่อให้เนื้อหามีความลึกและตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ครบถ้วน
3. สร้างการเชื่อมโยง (Interlinking)
ขั้นตอนสุดท้าย คือ หัวใจที่ทำให้ Hub-and-Spoke Model ทำงานได้ดี การเชื่อมโยงนี้จะบอกให้ Google และผู้ใช้งานเข้าใจถึงโครงสร้างความสัมพันธ์ ของเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ ดังนี้
- ในบทความ Spoke แต่ละชิ้นให้แทรก Backlink ไปยัง Hub โดยใช้คำที่เป็นชื่อหัวข้อหลัก (เช่น “อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์การตลาดเนื้อหา ได้ที่นี่”)
- ในหน้า Hub ให้มีส่วนที่เชื่อมโยงไปยัง Spoke ทั้งหมด โดยแต่ละลิงค์จะนำพาผู้ใช้ไปยังบทความที่เจาะลึกเฉพาะเรื่อง
การเชื่อมโยงที่สอดคล้องและเป็นระบบนี้ช่วยให้ Google เห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาทั้งหมด และยังช่วยให้ผู้อ่านสามารถเดินทางไปมาระหว่างข้อมูลภาพรวม และข้อมูลเชิงลึกได้อย่างราบรื่น ทำให้เว็บไซต์ของคุณดูเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ ในสายตาของทั้งผู้ใช้งานและ Google

ตัวอย่างการเขียนหัวข้อคอนเทนต์ด้วย Hub-and-Spoke Model
1. หัวข้อคอนเทนต์ด้านการตลาด
- Hub (หัวข้อหลัก / เนื้อหาหลัก)
- “คู่มือขั้นสูงสำหรับกลยุทธ์การทำ Content Marketing”
- Spokes (หัวข้อย่อย / เนื้อหาเสริม)
- “Content Calendar คืออะไร พร้อมวิธีการสร้าง”
- “10 รูปแบบคอนเทนต์ชั้นยอดที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม”
- “วิธีนำคอนเทนต์ยาวๆไปปรับใช้สำหรับโซเชียลมีเดีย”
- “เครื่องมือฟรีและเสียเงินที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผน Cotent”
- “วิธีการปรับ Content ให้สอดคล้องกับขั้นตอนของ Sales Funnel”
2. หัวข้อคอนเทนต์เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล
- Hub (หัวข้อหลัก / เนื้อหาหลัก)
- “คู่มือฉบับสมบูรณ์ เพื่อการวางแผนการเงินส่วนบุคคลสำหรับมือใหม่”
- Spokes (หัวข้อย่อย / เนื้อหาเสริม)
- “วิธีทำงบประมาณรายรับ-รายจ่ายให้สำเร็จใน 5 ขั้นตอน”
- “เทคนิคการออมเงินเพื่อเป้าหมายในระยะสั้นและระยะยาว”
- “ทำความเข้าใจสินเชื่อส่วนบุคคลและการลดหนี้”
- “แนะนำการลงทุนเบื้องต้นใน หุ้น กองทุนรวม และพันธบัตร”
- “เคล็ดลับการวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่เนิ่นๆ”
3. หัวข้อคอนเทนต์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
- Hub (หัวข้อหลัก / เนื้อหาหลัก)
- “คู่มือสู่สุขภาพดีแบบองค์รวมทั้ง กาย ใจ และจิตวิญญาณ”
- Spokes (หัวข้อย่อย / เนื้อหาเสริม)
- “โภชนาการเพื่อสุขภาพ กับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย”
- “การกำหนดกิจวัตรการออกกำลังกายที่ยั่งยืนสำหรับทุกวัย”
- “วิธีการจัดการความเครียดและความวิตกกังวลในชีวิตประจำวัน”
- “หลักการนอนหลับให้มีคุณภาพเพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่”
- “เทคนิคการเจริญสติ (Mindfulness) เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิต”
Hub-and-Spoke Model จะเปลี่ยนเนื้อหาที่กระจัดกระจาย ให้กลายเป็นระบบความรู้ที่มีจุดมุ่งหมาย ซึ่งช่วยให้คุณ “ถูกค้นพบ” “เป็นที่จดจำ” และ “ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย” โดยหากคุณต้องการสร้างอาณาจักรแห่งคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง Hub-and-Spoke Model ก็น่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุดนั่นเอง