
ทุกๆคนน่าจะเข้าใจความสำคัญของการสร้างแบรนด์ (Branding) แล้วนะครับว่ามันมีความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะหากคุณต้องการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง ไม่ต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในสงครามด้านราคา (Price War) และที่สำคัญนั่นก็คือการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ (Branding) จึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนองค์กรโดยเฉพาะในยุคสมัยใหม่ ซึ่งคำว่า Branding นั้นมันก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ที่ผมอยากให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นจะได้นำมาปรับใช้กับการสร้างแบรนด์ (Branding) ได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด เรามาดูกันครับว่าการสร้างแบรนด์นั้นมีกี่รูปแบบ ที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับสร้างแบรนด์ในบริบทต่างๆ

12 รูปแบบของ Branding
การสร้างแบรนด์ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ และโดยหลักๆแล้วที่เห็นๆกันจะมีอยู่ 12 รูปแบบ ดังนี้
1. Personal branding
Personal Branding หรือ การสร้างแบรนด์บุคคล คือ การสร้างลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลคนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยอาจจะเป็นในที่ทำงาน การทำธุรกิจส่วนตัว หรือแม้กระทั่งการเป็น Freelance โดยเป็นการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ให้กับตนเอง เพื่อประโยชน์ในการทำงานในสายอาชีพต่างๆ การสร้าง Personal Branding นั้นเราจะเห็นการทำ Profile ผ่านทั้ง Social Media และบางคนถึงกับมีการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ใส่รายละเอียดความชอบ ความถนัด ประสบการณ์ทำงาน และเรื่องอื่นๆ เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทความเป็น Personal Brand ของตัวเองให้คนได้เข้าถึง
2. Product branding
Product Branding จะเน้นไปในเรื่องของการทำให้สินค้ามีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด แน่นอนครับว่าในเรื่องคุณสมบัติต้องมีความแตกต่างเป็นอันดับแรก ส่วนอื่นๆนั้นอาจจะเป็นการออกแบบ Packaging การมีเรื่องราวบางอย่าง และอาจเสริมด้วยการสื่อสารด้านอื่นๆ เพื่อให้สินค้านั้นมีความต่างมากยิ่งขึ้น
3. Service branding
Service Branding จะเน้นไปในเรื่องของการบริการว่าตัวเองนั้นแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร ซึ่งเหมาะกับแบรนด์ที่ทำธุรกิจการบริการเต็มรูปแบบ เช่น บริการแม่บ้านรายวัน บริการทำความสะอาด ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจทัวร์ หรือแบรนด์ที่ขายสินค้าแล้วให้ความสำคัญกับการบริการเป็นสำคัญก็ได้เช่นกัน
4. Retail branding
Retail Branding ถือเป็นการสร้างแบรนด์ที่เราพบเห็นกันบ่อยมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องของการตกแต่งร้านค้าที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบ การจัดวางสินค้า การใช้แสง สี เสียง รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆมาใช้ เพื่อสร้างให้เกิดประสบการณ์ที่ดีกับผู้เข้าเยี่ยมชม โดยสามารถเป็นได้ทั้งแบรนด์ที่ขายสินค้าหรือบริการที่มีหน้าร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านในห้างสรรพสินค้าหรือ Standalone Shop ในสถานที่ต่างๆ
5. Geographical branding
Geographical Branding มักจะเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์ท้องถิ่นหรือการสร้างแบรนด์เชิงวัฒนธรรม โดยทำให้สิ่งที่มีในท้องถิ่นนั้นๆกลายเป็นสัญลักษณ์และจุดขาย เช่น วัตถุดิบเฉพาะท้องถิ่นที่ไม่มีที่ไหน หรือการที่หลายๆประเทศมีจุดเด่นในเรื่องต่างๆจนกลายเป็นวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆไปแล้วก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างที่เรามักจะเห็น ก็เช่น ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ทุเรียนนนท์ เงาะทองผาภูมิ ฝรั่งเศษเป็นเมืองแห่งความหรูหรา แฟชั่น และ Chef มือหนึ่ง เป็นต้น
6. Corporate branding
Corporate Branding เชื่อว่าทุกๆคนน่าจะรู้จักการสร้างแบรนด์รูปแบบนี้เป็นอย่างดี เพราะมันคือ การที่ธุรกิจสร้างแบรนด์ระดับองค์กรที่เป็นการคิดมาตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย (Purpose) วิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) คุณค่า (Values) ไปจนถึงเรื่องต่างๆที่หลอมรวมให้พนักงานเข้าใจแนวทางของแบรนด์องค์กร และถ่ายทอดไปสู่ลูกค้ารวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก การสร้างแบรนด์รูปแบบนี้ถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์ที่ครบทุกองค์ประกอบ มีการวิเคราะห์และวางแผนไปสู่กลยุทธ์มาเป็นอย่างดี
7. Online branding
Online Branding คือ รูปแบบของการสร้างแบรนด์ที่เน้นไปทางกิจกรรมบนโลกออนไลน์ ผ่านทั้งแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ที่เป็นรูปแบบ E-Commerce และรวมไปถึงช่องทาง Social Media ซึ่งมันก็หมายถึงการขายสินค้าหรือบริการต่างๆบนโลกออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ การสร้างแบรนด์ในรูปแบบนี้ต้องอาศัยการออกแบบ UX/UI เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และทำการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์และ Social Media แทบจะ 100%
8. Offline branding
Offline Branding เป็นรูปแบบของการสร้างแบรนด์ที่ตรงกันข้ามกับ Online Branding ครับ ที่เน้นไปกับโลกที่จับต้องได้ในแบบเดิมๆ ด้วยการทำโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) และให้ความสำคัญกับการตกแต่งหน้าร้านและอะไรที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของพนักงาน โฆษณาบนบิลบอร์ด โฆษณาบนสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบต่างๆ
9. Innovative branding
Innovative Branding มุ่งเน้นไปในเรื่องของการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่แปลกใหม่ โดยสินค้าหรือบริการนั้นมักจะเปิดตัวในตลาดใหม่ๆที่ยังไม่เคยมีคนทำมาก่อน ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นกันมากในแบรนด์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเทคโนโลยี อย่างพวก Software, Hardware และ Application ต่างๆ
10. Luxury branding
Luxury Branding เป็นรูปแบบการสร้างแบรนด์ที่เน้นเรื่องของภาพลักษณ์และคุณภาพของสินค้าและบริการค่อนข้างสูง ที่เน้นความหายาก ความพิเศษ ความหรูหรา โดยทั่วไปจะเห็นในอุตสาหกรรมแฟชั่นหรู รถยนต์หรู เครื่องประดับราคาแพง เป็นต้น
11. Experience branding
Experience Branding จะเน้นการโปรโมทสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างให้เกิดความรู้สึกเชิงอารมณ์ เมื่อได้สัมผัสกับการใช้สินค้าหรือบริการภายใต้แบรนด์นั้นๆ โดยสามารถทำได้กับหลากหลายธุรกิจแต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นค่อนข้างมากกับแบรนด์ที่เป็นธุรกิจการบริการ และธุรกิจที่สร้างประสบการณ์ผ่านการใช้เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ
12. Event branding
Event Branding เป็นรูปแบบการสร้างประสบการณ์อย่างหนึ่งที่เอาไว้โปรโมทอีเว้นท์หรือกิจกรรมไปสู่ลูกค้า เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาร่วมกิจกรรมนั้นๆ และเราจะได้เห็นความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ผ่านอีเว้นท์ต่างๆ จากการตกแต่งบูธ การแต่งกายของพนักงาน กิจกรรมที่จัดภายในงาน รวมไปถึงสื่อต่างๆภายในงาน