อะไรคือ Customer Churn สำหรับการตลาด
Customer Churn กลายเป็นตัววัดสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว ที่อาจส่งผลให้ลูกค้านั้นเกิดการซื้อซ้ำและกลายเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์ได้ ซึ่งนับเป็นจุดสูงสุดที่แบรนด์ต่างๆนั้นต้องการโดยหากคุณไม่สามารถวัดผลลัพธ์ต่างๆที่มีผลกับการตลาดได้อย่างชัดเจน ก็อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการรักษาลูกค้า
ส่องแนวโน้มการตลาด B2C ในปี 2021
การตลาดในปี 2021 เป็นต้นไปจะเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Engagement) ซึ่งแน่นอนครับว่าผลกระทบจาก Covid-19 นั้นสร้างให้เกิดแรงผลักดันแนวโน้มดังกล่าวจนกลายเป็นสิ่งที่หลายๆธุรกิจให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ที่ส่งผลต่อการสร้างความต่อเนื่องสำหรับการดำเนินธุรกิจ การทำให้ธุรกิจดำเนินไปโดยไม่หยุดและไม่สะดุด
วิธีเพิ่มความจงรักภักดีและการซื้อซ้ำจากลูกค้า (Customer Loyalty & Retention)
การซื้อซ้ำ (Retention) และการสร้างความจงรักภักดีในตัวแบรนด์ (Loyalty) ถือเป็นกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจซึ่งอาจมีความจำเป็นกว่าการมุ่งหาลูกค้าใหม่ๆซะด้วยซ้ำ มันคือการรักษาให้ลูกค้านั้นสนับสนุนแบรนด์ของคุณไปอย่างยาวนาน ซึ่งแน่นอนครับว่ามันสร้างให้เกิดกำไรให้กับบริษัทได้อย่างดีอีกวิธีหนึ่ง โดยมีงานวิจัยที่ได้ระบุว่า “ลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำแค่เพียง 5% ก็สามารถสร้างให้เกิดกำไรได้ถึง 25-95%” เลยทีเดียว
เทคนิคการนำ Fear of Missing Out มาใช้ในการตลาด
Fear of Missing Out หรือ FOMO เป็นอาการของการกลัวการตกเทรนด์หากไม่ได้สิ่งเหล่านั้นมาก็จะรู้สึกนอยด์ๆหรือรู้สึกผิดหวังที่ปล่อยให้โอกาสเหล่านั้นหลุดลอยไปในอากาศ และเป็นกันอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z โดยการทำความเข้าใจกับ FOMO นั้นมันจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับการทำการตลาดได้เป็นอย่างดี
วิธีบริหาร Customer Experience ให้มีประสิทธิภาพ
Customer Experience หรือประสบการณ์ของลูกค้าซึ่งมันหมายถึงการรับรู้ของลูกค้าทั้งด้วยความตั้งใจและเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในตลอดทั้งวงจรชีวิตของตัวลูกค้า ผ่านการเดินทาง (Customer Journey) และจุดสัมผัสของลูกค้า (Customer Touchpoint) และมันยิ่งสำคัญมากขึ้นเมื่อทุกๆอย่างอยู่บนโลกออนไลน์และอยู่ในยุคดิจิทัล จึงต้องมีการบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าเพิ่มความพึงพอใจ
อะไรคือ Customer Lifetime Value (CLV)
ลูกค้าถือว่าเป็นกลุ่มคนที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจซึ่งจำเป็นต้องมีการสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกๆมิติ ที่ต้องมีการวางแผนทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันดีรวมไปถึงทำให้ลูกค้าสนับสนุนธุรกิจต่อไปในระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าเดิม (Existing Customer) ที่เราเรียกว่าการสร้างมูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้า (Customer Lifetime Value) หรือเรามักจะเรียกสั้นๆกันว่า CLV ครับ โดยในการตลาด 5.0 (Marketing 5.0)
ดึงดูดลูกค้าด้วย Contextual Marketing
การตลาดที่จะช่วยให้คุณส่งข้อมูลที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม หรือที่เรียกว่า Contextual Marketing ที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของการตลาดแบบ Inbound Marketing หรือตลาดแบบดึงดูดด้วยการทำและนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ซึ่งแน่นอนครับว่าเวลาคุณทำการตลาดคอนเทนต์ หรือ Content Marketing คุณก็ไม่ควรมองข้ามการทำ Context
สรุป Marketing 5.0 ข้อมูลและเทคโนโลยีสู่การขับเคลื่อนธุรกิจ
ในที่สุดก็ถึงยุคของการตลาด 5.0 ซะทีที่ต้องบอกเลยว่าแนวโน้มของการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล (Data-Driven) และการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆมาใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจที่ต้องเข้าใจผู้บริโภคอย่างทะลุปรุโปร่ง จะเป็นหลักสำคัญในการตลาดเป็นต้นไปซึ่งมันเริ่มมีการใช้ผสมผสานกันตั้งแต่ยุคของการตลาด 4.0 มาสักระยะหนึ่งแล้ว
กฎการสร้างคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จ
ไม่ว่าคุณจะวางกลยุทธ์การตลาดแบบใดก็ตามก็หนีไม่พ้นการทำคอนเทนต์ (Content Marketing) อยู่ดีเพราะมันคือแกนหลักสำคัญของการตลาดในยุคนี้อย่างขาดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะทำโฆษณาออนไลน์ ทำเพจบนโซเชียลมีเดีย เขียนบล็อก ทำเว็บไซต์ ประชาสัมพันธ์ ขายสินค้าหรือบริการ ก็ล้วนแล้วแต่หนีไม่พ้นการเขียนคอนเทนต์ให้เหมาะสมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
รวมคำถามสำหรับการทำ Market Research ในแบบต่างๆ
การทำวิจัยหรือ Research ถือเป็นหลักสำคัญของการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการเริ่มทำธุรกิจ การหาโอกาสใหม่ๆให้กับธุรกิจ การผลิตสินค้าหรือบริการ รวมไปถึงการทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ที่จำเป็นต้องมีการตั้งคำถามที่ถูกต้องเพื่อให้ได้คำตอบที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยนั้นๆ หากจะบอกว่าการตั้งคำถามในการวิจัยจะเป็นคีย์หลักในการตัดสินความอยู่รอดและทิศทางของธุรกิจในอนาคตก็คงจะไม่ดูเกินจริงจนเกินไปครับ