A_man_as_presenter_holding_a_cup_of_coffee

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพัฒนาด้วยความรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน และได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการสร้างแบรนด์ (Branding) และการตลาด (Marketing) ในปัจจุบัน ทุกวันนี้ AI สามารถสร้างตัวตนที่สมจริงเป็นอย่างมาก มีทั้งการบรรยายด้วยเสียง การสร้างภาพยนตร์ งานโฆษณา หรือแม้แต่การเล่าและถ่ายเรื่องราว AI เลียนแบบความเป็นจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จนแบรนด์ต่างๆได้พิจารณาใช้ AI เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญทั้งการสร้างแบรนด์และขับเคลื่อนธุรกิจอย่างจริงจัง

แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของการสร้างแบรนด์ (Branding) ก็เกิดคำถามสำคัญว่า AI จะช่วยเสริมสร้างหรือทำให้ความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้ชมลดลง การสร้างแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสามารถรักษาความเป็นจริงและความจริงใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ (Branding Strategy) ที่ประสบความสำเร็จได้จริงๆหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดแบรนด์จะสามารถใช้ AI โดยไม่ทำให้สูญเสียความไว้วางใจของผู้บริโภคได้อย่างไร ในบทความนี้ผมได้สรุปจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น เคสต่างๆที่มี คำถามที่ได้มาจากการให้คำปรึกษาด้านแบรนด์ และคำถามจากผู้เรียนเรื่อง Branding ที่ผมสอนอยู่ เพื่อให้เข้าใจวิธีที่แบรนด์สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่สูญเสียแก่นแท้ของตัวเอง (Brand Essence)

What's next?

บทบาทของความแท้จริงในการสร้างแบรนด์

การสร้างแบรนด์ (Branding) คือ การสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ (Emotional Connection) การสร้างความไว้วางใจ (Trust) ความภักดี (Loyalty) และความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งระหว่างแบรนด์กับผู้ชม ผู้คนเชื่อมต่อกับแบรนด์ที่รู้สึกว่าเป็นของจริง (Authentic) มีความจริงใจ (Sincere) และมีมนุษยธรรม (Humanity) โดยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเรื่องราวที่แท้จริง (Authentic Story) อารมณ์ (Emotion) ค่านิยม (Core Values) และประสบการณ์ของมนุษย์จริงๆ (Real Human Experience) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนความไว้วางใจจากผู้บริโภค คำถามต่อมา ก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเป็นสิ่งสังเคราะห์ จะสามารถสร้างและรักษาความสัมพันธ์ทางอารมณ์ในระดับเดียวกันได้หรือไม่ หรือ AI จะทำให้ความแท้จริงที่ทำให้การสร้างแบรนด์มีประสิทธิภาพลดลง

The AI Revolution: ยุคแห่งการปฏิวัติโดย AI กับโอกาสและความเสี่ยงของการสร้างแบรนด์

เราลองมาดูโอกาสและความเสี่ยงก่อนที่จะไปดูวิธีการปรับใช้ AI ให้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพกันครับ

โอกาสของ AI ในการสร้างแบรนด์

  1. ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
    ด้วยเนื้อหาที่สร้างโดย AI สามารถลดต้นทุนการผลิตโฆษณา สื่อหลากหลายรูปแบบ และการสื่อการตลาดได้อย่างมาก
  2. สามารถขยายขอบเขตได้
    AI ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างเนื้อหาได้หลายภาษา เนื้อหาที่ปรับแต่งตามบุคคลโดยเฉพาะ และเนื้อหาที่ปรับใช้ได้กับทุกรูปแบบ
  3. เพิ่มความเร็วและความสม่ำเสมอ
    AI สามารถสร้างสื่อสำหรับการตลาดได้แทบจะในทันที ในขณะที่ยังคงความสม่ำเสมอของการสื่อสารแบรนด์ในแคมเปญต่างๆ
  4. การปรับแต่งที่เหนือกว่า
    การใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก AI สามารถสร้างประสบการณ์ของลูกค้า ที่สามารถนำไปปรับแต่งได้อย่างลึกซึ้ง โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีและทำนายพฤติกรรมผู้บริโภค
  5. โอกาสของ AI Influencer และ AI Ambassador
    แบรนด์สามารถสร้าง Influencer ที่สร้างโดย AI ที่สามารถแสดงตัวตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีพฤติกรรมที่ควบคุมได้ซึ่งต่างจากพฤติกรรมของมนุษย์

ความเสี่ยงและข้อกังวลของ AI ในการสร้างแบรนด์

  1. การสูญเสียความแท้จริงทางอารมณ์
    AI สามารถสร้างอารมณ์ของมนุษย์ที่แท้จริงได้หรือไม่ หรือแค่เลียนแบบมันเท่านั้น
  2. ความสงสัยของผู้บริโภค
    หากผู้ชมรู้ว่าเขากำลังติดต่อกับ AI เห็นการนำเสนอผ่านรูปแบบต่างๆด้วย AI แทนที่จะเป็นมนุษย์จริงๆ พวกเขาจะรู้สึกว่าถูกหลอก ไม่วางใจ หรือตัดการเชื่อมโยงทางอารมณ์ออกไปหรือไม่
  3. ผลกระทบทางจริยธรรม
    การพึ่งพา AI มากเกินไปในการสร้างแบรนด์ อาจก่อให้เกิดข้อกังวลทางจริยธรรม เกี่ยวกับการโฆษณาที่หลอกลวง การชักนำจูงใจ การคัดลอกที่ละเมิดสิทธิ์ และการสูญเสียความคิดแบบมนุษย์หรือไม่
  4. การลดลงของเอกลักษณ์ของแบรนด์
    เนื้อหาที่ถูกสร้างโดย AI อาจขาดสัมผัสของความเป็นมนุษย์ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่จะทำให้แบรนด์แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
  5. การพึ่งพา AI จนเสียซึ่งความคิดใหม่ๆ
    แบรนด์เสี่ยงที่จะสูญเสียเรื่องความคิดสร้างสรรค์ หากพวกเขาพึ่งพาการสื่อการตลาดที่สร้างโดย AI มากเกินไป
AI-Generated-Presenter

What's next?

คำถามสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อใช้ AI ในการสร้างแบรนด์

อยากให้ผู้อ่านและนักสร้างแบรนด์ลองตั้งคำถามสำคัญๆ เพื่อที่จะประเมิน วิเคราะห์ และชั่งน้ำหนักดูว่า การนำ AI มาใช้อย่างเหมาะสมควรเป็นอย่างไร โดยมีคำถามที่อยากให้พิจารณา ดังนี้

1. AI จะเสริมสร้างหรือทำให้ความเชื่อมโยงทางอารมณ์ของแบรนด์อ่อนแอลง

พลังทางอารมณ์ของการสร้างแบรนด์มาจากประสบการณ์ร่วมของมนุษย์ หากตัวละครที่สร้างโดย AI เข้าไปแทนที่องค์ประกอบของมนุษย์ ผู้บริโภคอาจจะพบความยากลำบาก ในการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง แต่อย่างไรก็ตามหาก AI ถูกใช้ในเชิงกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างการเล่าเรื่องของมนุษย์แทนที่จะมาแทนที่ การสร้างแบรนด์ก็ยังคงสามารถรักษาความเป็นจริงเอาไว้ได้ พร้อมกับการใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI

2. AI สามารถสร้างประสบการณ์ทางอารมณ์ที่แท้จริงได้หรือไม่

ใบหน้า น้ำเสียง การพูดจา และบุคลิกภาพที่สร้างโดย AI ซึ่งดูแล้วอาจจะใกล้เคียงความจริง แต่ขาดประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ยากที่จะสร้างการเชื่อมโยงที่จริงใจ แบรนด์ต้องมั่นใจว่าการสื่อสารที่สร้างโดย AI จะต้องตั้งอยู่บนข้อมูลเชิงลึกของมนุษย์จริงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องผิวเผิน

3. AI เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าหรือเป็นความเสี่ยง ต่อการสร้างความไว้วางใจของแบรนด์

แม้ว่า AI เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำกว่าการจ้างเอเจนซีและทีมงานผลิตสื่อ แต่การแลกเปลี่ยนจุดนี้อาจทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปได้ หากเนื้อหาที่สร้างโดย AI ถูกมองว่าไม่มีความจริงใจ ผู้บริโภคอาจรู้สึกว่าถูกตัดการเชื่อมโยงหรือถูกหลอกลวง ซึ่งอาจทำลายความไว้วางใจในตัวแบรนด์ในระยะยาว

4. แบรนด์จะสามารถเสริมสร้างแทนที่จะทดแทน การสร้างแบรนด์ทางอารมณ์ด้วย AI ได้อย่างไร

การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพแบรนด์ควรใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ทดแทนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เช่น

  • แบรนด์ควรเปิดเผยการใช้ AI เพื่อรักษาความโปร่งใสและความไว้วางใจ
  • AI สามารถช่วยปรับแต่งการเล่าเรื่องของแบรนด์ แต่ไม่ควรแทนที่ให้กลายเป็นทูตหรือตัวแทนของแบรนด์ (Brand Ambassador) ที่เป็นมนุษย์จริงๆ
  • ภาพที่สร้างโดย AI ควรผสมผสานกับเรื่องราวของมนุษย์เพื่อรักษาความแท้จริง

5. แบรนด์จะสามารถเอาชนะการขาดความจริงใจของ AI ได้อย่างไร

หัวใจของแบรนด์ที่จริงใจ คือ การมอบประสบการณ์แบบแท้จริง หากแบรนด์ใช้ AI จะต้องหาวิธีการใส่องค์ประกอบของมนุษย์ลงไป เช่น ใช้ Influencer ที่สร้างโดย AI แต่ควรมีส่วนร่วมหรือการพูดคุยกับมนุษย์จริง ในกระบวนการสื่อสารของแบรนด์

6. AI จะมีบทบาทในเรื่องของการสร้างนวัตกรรมหรือไม่

การใช้ AI สามารถช่วยสร้างไอเดียใหม่ๆ หรือแนวทางการตลาดที่แปลกใหม่ได้ ซึ่งอาจช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด แต่จะแตกต่างถึงขั้นเป็นนวัตกรรมที่เพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์หรือเปล่า

7. จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายหรือจริยธรรมในการใช้ AI ในการสร้างแบรนด์หรือไม่

การใช้ AI ในการสร้างแบรนด์อาจจะต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางกฎหมาย หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือการหลอกลวงในแคมเปญต่างๆ ซึ่งแบรนด์ต้องระมัดระวังในการใช้ AI อย่างถูกต้อง

8. แบรนด์จะต้องมีการฝึกอบรมทีมงานในการใช้ AI หรือไม่

การใช้ AI เพื่อเสริมสร้างแบรนด์อาจต้องการทักษะเฉพาะจากทีมการตลาด เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ AI และการใช้งานของมันอย่างทะลุปุโปร่ง

What's next?

การผสมผสาน AI กับวิสัยทัศน์ ค่านิยมหลัก และอัตลักษณ์ของแบรนด์

เพื่อให้ AI ทำงานได้จริงในส่วนของการสร้างแบรนด์ AI ต้องถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ (Vision) ค่านิยมหลัก (Core Values) อัตลักษณ์ (Identity) และบุคลิกภาพของแบรนด์ (Personality) โดย AI ไม่ควรเป็นเพียงแค่เครื่องมือทั่วไป แต่ควรสะท้อนถึงสิ่งที่แบรนด์ยืนหยัดและแสดงออกมา ดังนั้นแบรนด์ควรทำสิ่งต่างๆเหล่านี้

  1. ต้องมั่นใจว่า AI สอดคล้องกับบุคลิกภาพของแบรนด์
    หากแบรนด์มีความโดดเด่นในเรื่องความอบอุ่นและเป็นมิตร การสร้างตัวตนและการโต้ตอบของ AI ควรสะท้อนคุณลักษณะเหล่านี้ การตั้งค่าบุคลิกภาพของ AI ให้สอดคล้องกับุคลิกและคุณสมบัติของแบรนด์ จะช่วยเสริมความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภคได้ดีขึ้น
  2. แทรกค่านิยมหลักลงไปในการสื่อสารของ AI
    AI ควรถูกตั้งโปรแกรมให้ปฏิบัติตามทิศทางทาง และจริยธรรมของแบรนด์ มีโทนและน้ำเสียงที่สอดคล้องกับค่านิยมของแบรนด์ เช่น การรักษาความซื่อสัตย์และความโปร่งใส ในทุกการติดต่อกับลูกค้า AI ที่มีการเชื่อมโยงกับค่านิยมเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในตัวแบรนด์ได้
  3. รักษาความสอดคล้องของแบรนด์
    ไม่ว่าจะเป็น Brand Ambassor หรือ Presenter ที่สร้างโดย AI หรือแชทบอทก็ตาม รูปแบบการโต้ตอบและสไตล์ของการสื่อสาร ต้องสอดคล้องกับการสร้างแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น การใช้โทนเสียงที่ตรงกันในทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งหรือไม่เป็นตัวตนของแบรนด์
  4. ทดสอบ AI ผ่านความคิดเห็นของผู้บริโภค
    ก่อนที่จะรวม AI เข้าไปในกลยุทธ์ของแบรนด์อย่างเต็มที่ แบรนด์ควรทดสอบการใช้งาน AI เพื่อดูว่า AI สร้างการเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ดีหรือไม่ และสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์อย่างแท้จริง โดยการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าและปรับเปลี่ยนการตั้งค่า AI ตามความเหมาะสม

การผสมผสาน AI กับวิสัยทัศน์ (Vision) และอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Identity) ไม่เพียงแต่จะทำให้แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถรักษาความเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ในระยะยาว และทำให้ AI ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือทางเทคนิค แต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างและขยายคุณค่าและบุคลิกของแบรนด์

การใช้ AI ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

จากการผสมผสาน AI ให้เข้ากับความสอดคล้องด้านวิสัยทัศน์ ค่านิยมหลัก และอัตลักษณ์ของแบรนด์ เรายังสามารถนำ AI มาใช้ได้อีกหลายอย่าง ดังนี้

  1. ใช้ AI ในการทำความเข้าใจลูกค้า
    AI สามารถช่วยแบรนด์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ แบรนด์สามารถใช้ AI เพื่อทำนายความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตได้ ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถปรับตัวและสิ่งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
  2. AI ควรเสริมสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ของลูกค้า
    การใช้ AI ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น การใช้แชทบอทในการตอบคำถามของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจ และตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขาอย่างรวดเร็ว การสื่อสารที่ดีผ่าน AI จะช่วยสร้างความรู้สึกของการเชื่อมโยงและความไว้วางใจ
  3. ใช้ AI ในการสร้างความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
    AI ไม่เพียงแต่ช่วยในการประหยัดเวลาและเงินในการผลิตสิ่งต่างๆ แต่ยังสามารถช่วยแบรนด์ในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้ข้อมูลที่ AI รวบรวมและวิเคราะห์ มาใช้ในการพัฒนาแคมเปญที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร
  4. ผสมผสาน AI กับการฝึกอบรมบุคลากรของแบรนด์
    การใช้ AI ในการสื่อสารหรือการสร้างเนื้อหา ควรจะเสริมการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของบุคลากรภายในด้วย เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจวิธีการใช้งาน AI เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของลูกค้าและการตลาดให้กับแบรนด์
  5. การใช้ AI ในการวัดผลและการติดตามผล
    การติดตามผลจากการใช้ AI เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ทราบว่า AI นั้นช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ เช่น การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ผลการตลาดหรือการตอบสนองของลูกค้า การมีระบบติดตามผลช่วยให้แบรนด์สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แทนที่จะมองว่า AI เป็นทางลัดในการลดต้นทุนทางการตลาด แบรนด์ควรมอง AI เป็นเครื่องมือเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการเล่าเรื่องของแบรนด์ AI ควรช่วยในการปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นส่วนบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพและทำให้เข้าถึงได้มากขึ้น และการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่ยังคงรักษาสัมผัสของความเป็นมนุษย์ที่เป็นแกนหลักของอัตลักษณ์ได้ จะประสบความสำเร็จในโลกเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว อนาคตของการสร้างแบรนด์จึงไม่ใช่การแข่งขันระหว่าง AI กับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ แต่มันคือการที่ AI และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างแบรนด์ที่แท้จริงและเกิดความผูกพันเชิงอารมณ์ได้ดีกว่าเดิม

Share to friends


Related Posts

จากโลกแห่ง AI สู่ความเป็น Authenticity กับเทรนด์การทำ Branding สำหรับปี 2025

ในภาพรวมของการตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การสร้างแบรนด์ (Branding) ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 การบูรณาการการสร้างแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด ก็จำเป็นต้องทำในมิติที่กว้างขึ้นและให้ความสำคัญมากกว่าที่เคย เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมองหาการเชื่อมต่อที่มีความหมาย ประสบการณ์ที่แท้จริง และการโต้ตอบที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่ากับแบรนด์ที่พวกเขาเลือกสนับสนุน ในปีนี้การสร้างแบรนด์ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างการรับรู้เท่านั้น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างความไว้วางใจ การเสริมสร้างความภักดี และความโดดเด่นแบบเต็มระบบนิเวศของโลกดิจิทัล (Digital Ecosystem)


ความเข้าใจผิดระหว่างการสร้างแบรนด์ (Branding) กับการสร้างธุรกิจ (Building a Business)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้ยินเรื่องการสร้างแบรนด์ (Branding) แนวโน้มการสร้างแบรนด์ (Branding Trends) กันมากขึ้น และเรามักจะเห็นหลายๆคอร์สเรียนออนไลน์ที่พูดถึงเรื่องการสร้างแบรนด์ (Branding) แต่หลายๆครั้งก็กลายเป็นเนื้อหาที่ดูเกี่ยวข้องกับการสร้างธุรกิจ (Building a Business) แล้วนำคำว่าแบรนด์เข้าไปผสมผสานอยู่ในนั้นเสียมากกว่า สิ่งนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าธุรกิจ (Business) และแบรนด์ (Brand) คือสิ่งเดียวกันทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย


รวม 12 รูปแบบของการสร้างแบรนด์ (Branding)

ทุกๆคนน่าจะเข้าใจความสำคัญของการสร้างแบรนด์ (Branding) แล้วนะครับว่ามันมีความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะหากคุณต้องการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง ไม่ต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในสงครามด้านราคา (Price War) และที่สำคัญนั่นก็คือการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ (Branding)



copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์